รองประธานสภาฯ ตั้งกรรมการสอบสวน ส.ส.ถ่อย 7 คนมาจากทุกพรรคเข้าร่วม ใช้เวลาไม่เกิน 15 วันรู้ผล ขณะเดียวกันได้อนุมัติให้ดูทีวีวงจรปิดภาพเหตุการณ์อัปยศเมื่อวานนี้
วันนี้ (3 เม.ย.) พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนกรณี นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชาชน ทำร้ายร่างกายและใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ในสภาเมื่อวานนี้ โดยเปิดเผยว่า วันนี้ (3 เม.ย.)จะเชิญตัวแทนของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) มาหารือถึงโครงสร้างของคณะกรรมการสอบสวน คาดว่าคณะกรรมการน่าจะมีตัวแทนที่เป็น ส.ส.ของทุกพรรคการเมือง
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า คณะกรรมการจะไม่มีโครงสร้างเหมือนคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคการเมือง และเห็นว่าคณะกรรมการน่าจะมีประมาณ 7 คน และใช้เวลาตรวจสอบ 15 วันน่าจะได้ข้อสรุป และว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องศักดิ์ศรี และหน้าตาของสภาผู้แทนราษฎร สิ่งที่ต้องตระหนัก คือ ทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขณะเดียวกันต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
“ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผลการสอบข้อเท็จจริงก็ต้องเป็นไปตามนั้น ผมต้องติดภารกิจไปประชุมสภาโลก แต่จะทำให้เร็วที่สุด ขอให้สบายใจได้” พ.อ.อภิวันท์ กล่าว
พ.อ.อภิวันท์ เชื่อว่า แม้จะไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ แต่คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นจะมีวุฒิภาวะเพียงพอในการพิจารณา นอกจากนี้ยังได้อนุมัติคำขอเทปบันทึกภาพโทรทัศน์วงจรปิดของฝ่ายค้าน ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (2 เม.ย.) แต่ได้ขอไว้ว่าอย่าเพิ่งนำภาพไปเผยแพร่จนกว่าที่ประชุมจะเห็นสมควร สำหรับแนวทางในการลงโทษสมาชิกที่กระทำผิดประมวลจริยธรรม เป็นอีกเรื่องที่ต้องหารือในที่ประชุมสภาฯ เพื่อให้คณะกรรมาธิการวิสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุมกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจนของความผิดกรณีนี้
นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานภาค กทม.กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายการุณแล้ว โดยนายการุณยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรแต่วัยรุ่น เป็น ส.ส.ใหม่ก็มองว่าเขามาท้าทาย ได้ยินว่าเจอกันข้างนอกก็ไม่รู้ว่าไปคุยกันข้างนอกหรือว่าท้าทายให้ไปเจอกันข้างนอก เขาแค่คนเดียวแล้วเข้าไปอยู่ในกลุ่ม ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ตั้ง 30-40 คนจะไปทำอะไรได้ คงต้องปล่อยเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเพราะมีการแจ้งความแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้แนะนำอะไรนายการุณหรือไม่ นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ให้ใจเย็นๆ อย่าพูดอะไรอีก ปล่อยให้ผู้ใหญ่พูดกันเอง ส่วนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนั้นก็ว่ากันไป แต่เมื่อมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้วก็ไม่น่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนอะไร ส่วนจะต้องให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคเข้ามาจัดการด้วยหรือไม่นั้น คงต้องรอดูผลสอบสวนก่อนว่าใครผิดใครถูก
“เรื่องนี้จริงเท็จเราไม่รู้ เขาบอกว่าเขาไปต่อว่าว่าท้าทายทำไม อีกฝ่ายก็หันมาผลัก บอกว่ามึงเป็นใคร เรื่องอะไรของมึง พอถูกผลักกระเด็นออกมาเขาก็เลยถีบไปโดนที่ขา ทั้งนี้ เรื่องถ้าไม่มีมูลฝอยสุนัขก็ไม่ขี้ มันต้องมีจุด แต่จะจุดดำ แดง ขาว หรือเขียว มันก็คือจุดที่เริ่มต้นของการก่อเหตุ จุดตรงนี้สำคัญ คนที่มองจุดเขามองลักษณะไหน มองดีก็ดี มองไม่ดีก็ไม่ดี มองด้วยอารมณ์หรือมองว่าคล้ายกับถูกเหยียดหยาม ใช้คำพูดเหมาะสมหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่คนมอง แต่จะต้องดูจุดเริ่มต้นว่ามันมาจากไหน แต่ส่วนตัวแล้วไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น” ประธานภาค กทม. พรรคพลังประชาชน กล่าว
/0110
