นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบกรณีส.ส.วิวาท สภาผู้แทนราษฏรจะมีข้อสรุปกรณีการวิวาทระหว่างนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กับนายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชาชน
โดยนายสาทิตย์ กล่าวว่า วิปฝ่ายค้าน รู้สึกเป็นห่วงเรื่องดังกล่าวภายหลังจาก นายสมเกียรติได้แจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่สองในฐานะประธานคณะกรรมการสอบ ส.ส.วิวาท ได้พยายามโทรศัพท์เชิญนายสมเกียรติไปพบ โดยนายสมเกียรติได้มีโอกาสไปพบ ในช่วงเย็น เมื่อนายสมเกียรติเดินทางไปถึงห้องได้พบว่านายการุณได้รออยู่แล้ว โดย พ.อ.อภิวันได้พยายามไกล่เกลี่ยให้ยอมความ แต่นายสมเกียรติไม่ยอม โดยแจ้งต่อ พ.อ.อภิวันว่ากรณีที่เกิดขึ้นมีหลักฐานการถูกทำร้ายชัดเจน และถือเป็นการคุกคาม การทำงานของส.ส. และเป็นเรื่องของพรรคพลังประชาชนจะต้องพิจารณา
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการฯ จะสรุปผลการสอบสวนในวันนี้วิปฝ่ายค้านจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการเปิดเผยผลการสอบสวนต่อ สภาผู้แทนราษฏรและประชาชน โดยขอให้พรรคพลังประชาชนและนายการุณรับผิดชอบ เพราะได้ออกมาพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลาออกจากการเป็นส.ส. หากผลการสอบมีความผิด
นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาตกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทะเลาะวิวาทระหว่างนายการุณ โหสกุล กับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่มีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นประธาน กล่าวว่า ผลการวินิจฉัยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ดังนี้ 1.จากเอกสาร พยานและหลักฐานเชื่อได้ว่านายการุณทำร้ายนายสมเกียรติจริง 2.กรณีที่มีการใช้ถ้อยคำตอบโต้ คณะกรรมการเห็นว่าจากพยาน หลักฐานเห็นว่านายการุณได้ใช้ถ้อยคำ ที่หยาบคายอย่างยิ่งว่ากล่าวนายสมเกียรติจริง รวมทั้งมีการโต้เถียงระหว่าง นายการุณและนายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่เข้ามาห้ามปรามจริง ซึ่งผลการสอบสวนดังกล่าว ประธานฯ และคณะกรรมพิจารณาทุกคนได้เซ็นชื่อรับรอง ขาดเพียง นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทราปราการ พรรคพลังประชาชน
ซึ่งหลังจากนี้ นายอภิวันท์จะทำหนังสือรายงานต่อประธานสภาฯ เพื่อแจ้ง ให้สมาชิกสภาฯ รับทราบ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมา เพื่อนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ส่วนจะมีบทลงโทษกรณีขัดจริยธรรมและข้อบังคับสภาฯ หรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของสภาฯ
ด้านนาย การุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ยังไม่ทราบผลสอบ เมื่อถามย้ำว่า หากผิดจริงจะทำตามสัญญาที่จะลาออกจาก ส.ส. หรือไม่ นายการุณ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ผมไม่ทราบข่าว ผมไม่คุยกับคุณ” จากนั้นก็ได้ตัดสายโทรศัทพ์ทิ้งทันที
โดยนายสาทิตย์ กล่าวว่า วิปฝ่ายค้าน รู้สึกเป็นห่วงเรื่องดังกล่าวภายหลังจาก นายสมเกียรติได้แจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่สองในฐานะประธานคณะกรรมการสอบ ส.ส.วิวาท ได้พยายามโทรศัพท์เชิญนายสมเกียรติไปพบ โดยนายสมเกียรติได้มีโอกาสไปพบ ในช่วงเย็น เมื่อนายสมเกียรติเดินทางไปถึงห้องได้พบว่านายการุณได้รออยู่แล้ว โดย พ.อ.อภิวันได้พยายามไกล่เกลี่ยให้ยอมความ แต่นายสมเกียรติไม่ยอม โดยแจ้งต่อ พ.อ.อภิวันว่ากรณีที่เกิดขึ้นมีหลักฐานการถูกทำร้ายชัดเจน และถือเป็นการคุกคาม การทำงานของส.ส. และเป็นเรื่องของพรรคพลังประชาชนจะต้องพิจารณา
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการฯ จะสรุปผลการสอบสวนในวันนี้วิปฝ่ายค้านจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการเปิดเผยผลการสอบสวนต่อ สภาผู้แทนราษฏรและประชาชน โดยขอให้พรรคพลังประชาชนและนายการุณรับผิดชอบ เพราะได้ออกมาพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลาออกจากการเป็นส.ส. หากผลการสอบมีความผิด
นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาตกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทะเลาะวิวาทระหว่างนายการุณ โหสกุล กับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่มีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นประธาน กล่าวว่า ผลการวินิจฉัยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ดังนี้ 1.จากเอกสาร พยานและหลักฐานเชื่อได้ว่านายการุณทำร้ายนายสมเกียรติจริง 2.กรณีที่มีการใช้ถ้อยคำตอบโต้ คณะกรรมการเห็นว่าจากพยาน หลักฐานเห็นว่านายการุณได้ใช้ถ้อยคำ ที่หยาบคายอย่างยิ่งว่ากล่าวนายสมเกียรติจริง รวมทั้งมีการโต้เถียงระหว่าง นายการุณและนายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่เข้ามาห้ามปรามจริง ซึ่งผลการสอบสวนดังกล่าว ประธานฯ และคณะกรรมพิจารณาทุกคนได้เซ็นชื่อรับรอง ขาดเพียง นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทราปราการ พรรคพลังประชาชน
ซึ่งหลังจากนี้ นายอภิวันท์จะทำหนังสือรายงานต่อประธานสภาฯ เพื่อแจ้ง ให้สมาชิกสภาฯ รับทราบ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมา เพื่อนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ส่วนจะมีบทลงโทษกรณีขัดจริยธรรมและข้อบังคับสภาฯ หรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของสภาฯ
ด้านนาย การุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ยังไม่ทราบผลสอบ เมื่อถามย้ำว่า หากผิดจริงจะทำตามสัญญาที่จะลาออกจาก ส.ส. หรือไม่ นายการุณ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ผมไม่ทราบข่าว ผมไม่คุยกับคุณ” จากนั้นก็ได้ตัดสายโทรศัทพ์ทิ้งทันที
