ครม.ไฟเขียวนำข้าว 5% บรรจุขายประชาชนราคาทุน

ครม.ไฟเขียว นำข้าว 5% บรรจุถุงขายให้ประชาชนในราคาทุน ในเบื้องต้น 650,000 ตัน ทยอยออกขายครั้งละ 100,000 ตัน ขณะที่ “มิ่งขวัญ” ยาหอมชาวนา บอกถึงเวลาขายข้าวได้แล้ว

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์นำข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล มาทำข้าวสารบรรจุถุงในราคาต้นทุนออกมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในประเทศ โดยเป็นข้าวขาว 5% ทยอยออกจำหน่ายเดือนละ 10,000-20,000 ถุง ในราคาต้นทุน

ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. เห็นชอบภายในเดือน เม.ย.นี้ก่อนประกาศรายละเอียดต่อไป โดยยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์จะติดตามดูแลสถานการณ์การส่งออกข้าวอย่างใกล้ชิดและดูแลไม่ให้ผู้บริโภคภายในได้รับความเดือดร้อนแน่นอน หากไม่พอบริโภคภายในประเทศอาจกำหนดโควตาการส่งออก และอาจรับจำนำเพิ่มขึ้นก็ได้

นอกจากนี้ ขอฝากข้อความและส่งสัญญาณถึงชาวนาไทยว่าได้เวลาขายข้าวออกมาแล้ว เพราะราคาข้าวในตลาดโลกขณะนี้อยู่ในระดับสูง โดยราคาข้าวสารในตลาดโลกขณะนี้ ข้าวเปลือกกอมมะลิราคาตันละ 16,000-17,000 บาท ราคาส่งออกข้าวสารหอมมะลิ ตันละ 30,000 บาท และราคาข้าวเปลือกขาวตันละ 12,000-13,000 บาท และราคาข้าวส่งออก ตันละ 22,500 บาท ส่วนราคาข้าวสารส่งออกของอินเดีย ประเภท ข้าวบาสมาติ ราคาตันละ 54,000 บาท ข้าวอินเดีย ตันละ 22,500 บาท

“ถ้าถามผมว่าราคาข้าวจะขึ้นมากกว่านี้อีกหรือไม่ ผมตอบไม่ได้ แต่ราคาขณะนี้เป็นราคาคุ้มทุน มีกำไร และในประวัติศาสตร์ของชาวนา ข้าวไม่เคยราคาสูงเท่านี้มาก่อน และที่ให้ดูราคาข้าวบาสมาติของอินเดีย ตันละ 54,000 บาท ก็อย่าไปหวังเลยว่าราคาข้าวของไทยจะสูงขนาดนั้น ขณะนี้ราคาส่งออกข้าวสารหอมมะลิตันละ 30,000 บาท มาถึงแล้ว จากที่คิดว่าต้องใช้เวลา 1-3 เดือน แต่เพียง 1 สัปดาห์ ราคานี้ก็มาถึง จึงขอให้ชาวนาขายข้าวออกมา ไม่เช่นนั้น ไม่รู้อนาคตราคาข้าวต่อไปจะเป็นเช่นใด เพราะไม่มีใครพยากรณ์ได้ ไม่มีเทวดาท่านใดตอบได้ว่า ข้าวของเวียดนามและอินเดียที่กำลังจะออกมาจะมีผลผลิตเท่าใด และในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้จะมีผลผลิตข้าวนาปรังออกมาอีก เป็นปริมาณข้าวเปลือก 6.5 ล้านตัน สีเป็นข้าวสารได้ 4.29 ล้านตัน ฉะนั้น ราคาข้าวจึงขึ้นอยู่กับดีมานด์และซัพพลาย”

นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อไปว่า ขอฝากข้อความถึงประชาชนด้วยว่าแม้จะมีการส่งออกข้าว แต่ปริมาณข้าวภายในประเทศยังเพียงพอต่อการบริโภค จึงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะถ้าราคาข้าวในตลาดโลกยังสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ทางรัฐบาลก็จะกำหนดโควต้าการส่งออกข้าว เพราะรัฐบาลมีความเป็นห่วงชาวนาและผู้บริโภคมากที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าไม่ห่วงพ่อค้าข้าว

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีผลผลิตข้าวเปลือก 31 ล้านตัน และเมื่อสีเป็นข้าวสารได้ประมาณ 20.5 ล้านตัน แบ่งเป็นใช้ในประเทศ 11 ล้านตันและส่งออก 9.5 ล้านตัน โดยที่ใช้ในประเทศ 11 ล้านตันแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ปริมโภค 6.6 ล้านตัน ส่วนอีก 4.4 ล้านตัน แบ่งใช้เป็นพันธ์ข้าวในการปลูก ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ และเพื่อเก็บสต๊อก ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 2.1 ล้านตัน

สำหรับข้าวที่มีอยู่ในสต๊อก ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้นำข้าว 5% ออกมาบรรจุถุงเพื่อขายให้ประชาชนในราคาต้นทุน แต่ขณะนี้ยังไม่กำหนดราคาเพราะข้าวในสต๊อกมีหลายล็อตทั้งนาปี นาปรังและนาปรัง-ปี ซึ่งจะมีการประชุมกันอีกครั้งในคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งวิธีกระจายข้าวสู่ประชาชนจะขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย เพื่อใช้กลไกของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อบต. อีกทั้งจะใช้กลไกของพาณิชย์จังหวัด และการค้าภายในจังหวัด ตลอดจน ส.ส.ให้ร่วมสังเกตุการณืและร่วมตรวจสอบ โดยข้าวบรรจุถุงนี้จะไม่กระจายผ่านร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หรือโมเดิร์นเทรด หรือเปิดช่องทางอื่นเพื่อซื้อไปกักตุน ขณะที่ตอนซื้อจะต้องแสดงสำมะโนครัวการบริโภคข้าว และทาง กขช.จะจัดตั้งคณะอนุกรรมการฯดูแลความโปร่งใส และการบริหารจัดการ ได้แก่ การบรรจุถุงและการจำหน่ายด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุม ครม.ทางองค์การคลังสินค้าได้เสนอว่าจะนำข้าวขาว 5%ที่รับจำนำไว้มาบรรจุถุงขาย ในเบื้องต้น 650,000 ตัน และทยอยออกขายครั้งละ 100,000 ตัน โดยข้าวนาปีปี 2549/2550 จะขายในปริมาณถุงละ 5 ก.ก. ราคา 72.10-72.90 บาท ข้าวนาปรังปี 2549 ขายราคาถุงละ 85.70-86.50 บาท ข้าวนาปรังปี 2550 ขายถุงละ 72.40-73.45 บาท เพราะปัจจุบันราคาข้าวสารบรรจุถุงที่ขายตามท้องตลาดราคาถุงละ 76-88 บาท ซึ่งสูงกว่าช่วงที่ผ่านมา ราคาถุงละ 65-70 บาท

นายมิ่งขวัญ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทย ส่งออกข้าวปีละ 9.55 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 31.40% ของการส่งออกรวมในตลาดโลก ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลก รองลงมา คือ อินเดีย ส่งออก 5 ล้านตัน คิดเป็น 16.40% เวียดนาม 4.50 ล้านตัน คิดเป็น 14.80% อเมริกา ส่งออก 3 ล้านตัน คิดเป็น 9.90% ปากีสถาน ส่งออก 2.60 ล้านตัน คิดเป็น 8.50% และประเทสอื่น ๆ รวมกันส่งออก 5.80 ล้านตัน คิดเป็น 19% รวมการส่งออกข้าวในตลาดโลก ทั้งสิ้น 30.45 ล้านตัน ทั้งนี้ ในปี 2551 ประเทศไทยยังส่งออกข้าในปริมาณไม่ต่างจากเดิม ที่ 9.55 ล้านตัน แต่อาจจะเป็นสัดส่วนการส่งออกข้าวเกิน 50% ของปริมาณการส่งออกรวม เนื่องจากอินเดียและเวียดนามเริ่มมีปัญหาการส่งออกที่น้อยลง