“ประสพสุข” แนะรัฐทำประชาพิจารณ์ อย่ามัวพล่ามชงแก้ รธน.

“ปธ.วุฒิฯ” งดวิพากษ์ฝ่ายบริหาร เสนอแก้ รธน.ลั่นขอฟังเสียง ปชช.เป็นหลัก พร้อมเป็นตัวกลางทำประชาวิจารณ์ เพราะไม่เสียสตางค์

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่รัฐสภาอาคาร 2 นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ว่า วุฒิสภาไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มในการจุดประเด็นนี้ แต่เป็นทางฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส.จุดประเด็น ฉะนั้น วุฒิสภาจะมาวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ ถ้าเรื่องดังกล่าวผ่านมายังวุฒิสภาก็ต้องมีการประชุมร่วมกันซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา

ส่วนที่พรรคพลังประชาชนจะมีการเสนอให้มีการแก้บางมาตรา อาทิ มาตรา 237 และ 309 นายประสพสุข กล่าวว่า แล้วแต่ทางรัฐบาลจะแก้ เพราะกฎหมายสามารถใช้บังคับแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้

“กฏหมายมันไม่ใช่ของที่นิ่ง สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขยกเลิกได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ทั้งประชาชน รวมทั้งและฝ่ายที่จะแก้ ต้องมีวุฒิภาวะดีพอทั้ง 2 ฝ่ายด้วย ว่า ประเทศชาติจะได้หรือเสียประโยชน์อย่างไร” ประธานวุฒิสภา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่า ทางรัฐบาลจะไม่แก้เฉพาะมาตรา 237 เท่านั้น แต่เป็นการแก้แบบแพกเกจขึ้นมา ซึ่งอาจจะส่งผลให้กลุ่มพันธมิตรฯมีการชุมนุมรุนแรงขึ้น นายประสพสุข กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ เพราะเป็นธรรมดาที่มีทั้งคนอยากแก้และคนไม่อยากแก้ ซึ่งการแก้นั้นต้องดูเป็นเรื่องๆ ถ้ามีเสนอมาสมาชิกวุฒิสภาก็ต้องมีการประชุมร่วมกันอีก

เมื่อถามว่า มีสมาชิก ส.ว.บางคนเสนอให้วุฒิสภา เป็นตัวกลางเพื่อให้มีการทำประชาพิจารณ์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายประสพสุข กล่าวว่า สามารถทำได้ เพราะไม่ถือเป็นเรื่องที่ต้องเสียสตางค์ หรือถ้ามีการเสนอมาเพื่อให้ ส.ว.เป็นตัวกลางทำประชาพิจารณ์จริง ด้าน ส.ว.ก็มีความพร้อม เพราะเป็นกฏหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชน อย่างไรก็ตาม กฏหมายไม่ได้ระบุว่า ต้องทำประชามติ หรือประชาวิจารณ์ เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดขั้นตอนไว้ เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงความชอบธรรม ซึ่งไม่จำเป็น

เมื่อถามว่า การแก้รัฐธรรมนูญดูเหมือนว่าเป็นการข้ามขั้นตอน เพราะในรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถตรวจสอบแก้ไขโดยให้รัฐบาล ส.ว.หรือ ส.ส.เป็นเจ้าภาพในการแก้ นายประสพสุขกล่าวว่า “จุดยืนของผมคือว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 ถือเป็นนวัตรกรรมใหม่ลองใช้ไปก่อนปีนึง แต่ถ้าจะมาถามว่าแก้ได้หรือไม่ แก้ก็แก้ได้”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาฯ อาจโดนคดียุบพรรค รวมถึงคดี นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภา โดนใบแดงจาก กกต.เกรงว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 จะไม่ทันใช้ตามเจตนาของท่าน นายประสพสุข กล่าวว่า รัฐธรรมนูญสามารถใช้ได้อยู่ไม่เกี่ยวกันส่วนจะมีการพยามยามโยงให้เกี่ยว จึงขอเรียนว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะกฎหมายมันคนละอย่าง

นายประสพสุข ยังเปิดเผยถึงการประชุมวุฒิสภา ที่จะมีขึ้นวันที่ 28 มี.ค.นี้ ว่า ที่ประชุมจะมีการพูดคุยกันเรื่องความเดือดร้อนของชาวประมง การตั้งกรรมิการตรวจสอบคุณสมบัติ ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งสมาชิก ส.ว.ใหม่อีก 5 คนที่ กกต.ได้ให้การรับรองแล้ว