“เหนาะ” รั้งผู้นำ ปชร.อีก หนุนแก้ รธน.ทั้งฉบับ

“เหนาะ” รั้งหัวหน้าพรรคประชาราชอีกรอบ ส่วนกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ล้วนนามสกุลเทียนทอง เว้นแต่ “ป้าอุ” ที่เป็นรัฐมนตรี อ้างคนอื่นไม่มีใครกล้ามาเป็นกลัวติดร่างแหความผิดต้องเว้นวรรคการเมือง หนุนแก้ รธน.ทั้งฉบับโดยนำข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญในอดีตมาเปรียบเทียบ แล้วให้ ส.ว.-ส.ส.ดำเนินการไปเลย โดยไม่ต้องทำประชามติให้วุ่นวาย

วันนี้ (23 มี.ค.)นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคประชาราชว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้เป็นหัวหน้าพรรคต่อ และให้ นายฐานิสร์ เทียนทอง เป็นเลขาธิการพรรค มีกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด (รวมหัวหน้าพรรค) 14 คน

อย่างไรก็ดี นายเสนาะตั้งข้อสังเกตว่า เลขาธิการและกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่นามสกุลเทียนทอง เพราะไม่มีใครอยากเป็นกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากเกรงว่าหากมีใครในพรรคกระทำความผิดแล้วจะถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในรายชื่อกรรมการบริหารพรรคประชาราช ไม่มีนางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรวมอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อสอบถามนายเสนาะได้รับคำตอบว่า นางอุไรวรรณ มีหน้าที่รับผิดชอบงานในตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเดียว ไม่ต้องรับผิดชอบในพรรค

นอกจากนี้ นายเสนาะยังเห็นว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยพิจารณาว่าสิ่งใดที่เป็นปัญหา ไม่ใช่แก้ไขเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง ไม่เช่นนั้นจะถูกกล่าวหาว่าแก้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จึงควรดูว่าอะไรที่ยากหรือขัดต่อการปฏิบัติและควรปรับปรุง นอกจากนี้ ยังเห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำประชามติเพื่อสอบถามประชาชน เพราะผู้ที่ควรจะพิจารณาแก้ไข คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

“ไม่ต้องตั้ง ส.ส.ร. หรืออะไรต่างๆ นานา ให้ ส.ส. และ ส.ว.เป็นคนตัดสินแก้ไขปัญหาบ้านเมือง คือ 480+150 คน มาปรึกษาหารือกัน แล้วให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการ เพราะทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ก็มาจากการเลือกตั้งอยู่แล้ว ถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ถ้าทำประชามติก็จะมีองค์กรต่างๆ มาอ้างกันอีกไม่จบสิ้น” นายเสนาะ กล่าว

ส่วนกรณีที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นตัวตั้งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่ควรนำรัฐธรรมนูญฉบับใดมาเป็นตัวกำหนด แต่ต้องการให้พิจารณาข้อดีของรัฐธรรมนูญในอดีตมาใส่ไว้ ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 มีข้อบกพร่องเช่นกัน ขอให้ดูจากประสบการณ์ในการปฏิบัติว่า อะไรที่ปฏิบัติไม่ได้ก็ต้องแก้ไข ซึ่งจะเห็นว่ายังมีคนจำนวนมากที่ไม่ยอมรับความจริง คิดว่าปฏิบัติได้ แต่จริงๆ แล้วมีปัญหา

“ส่วนจะมีประเด็นใดบ้างที่ควรแก้ไข ผมไม่อยากชี้นำ เพราะมีบทเรียนมาแล้วว่าพูดอะไรไป บางครั้งไม่ถูกใจคน จะเห็นว่าหลังเลือกตั้ง ผมเก็บตัวเงียบ ส่วนที่มีหลายฝ่ายเห็นว่า ควรแก้ไขประเด็นการกระทำผิดคดียุบพรรค ควรให้ ส.ส.และ ส.ว.ที่จะเป็นผู้พิจารณา แต่คิดว่าไม่น่าจะทันคดียุบพรรค เพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 180 วัน ในการดำเนินการ” นายเสนาะ กล่าว

/0110