วิชามาร ตามราวีอดีต ผบ.ตร.ไม่เลิก บ.แพ้ประมูล ได้ทีขย่ม ชง “หมัก” เชือดฮั้วประมูลจัดซื้อ จยย.มูลค่า 1,200 ล้านบาท แฉพิรุธอื้อ จี้สอบวินัยร้ายแรงเพิ่ม ส่งรองเลขานายกฯ โดดรับเรื่องด้วยตนเอง
วันนี้ (17 มี.ค.) นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ประธานพันธมิตรสหภาพแรงงานประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ตนได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตการจัดซื้อจักรยานยนต์สายตรวจขนาด 200 ซีซี จำนวน 19,147 คัน มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ด้วยระบบทางอิเลกทรอนิกส์ (e-Auction) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยมี พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นตัวแทนรับเรื่อง โดยหนังสือดังกล่าวระบุถึงความไม่ชอบมาพากล มีลักษณะของการล็อกสเปกเอื้อบริษัทผู้จำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหนึ่ง โดยการกำหนดสเปกขนาดรถ 200 ซีซี ทั้งๆ ที่รถในท้องตลาดส่วนใหญ่ จะมีตั้งแต่ 125 ซีซี/150 ซีซี/250 ซีซี และโดดขึ้นไปเป็น 400 ซีซี เท่านั้น แต่ทราบมาว่า ผู้ใหญ่ใน สตช.ระบุให้เลือกขนาด 197 ซีซี ซึ่งมีเพียงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์เพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้นที่มี และใกล้เคียงที่สุด ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า จะเป็นการล็อกสเปกหรือไม่ และเป็นที่น่าสังเกตว่า การจัดประกวดราคารถจักรยานยนต์ของทางราชการแทบทุกครั้ง “บริษัทแม่” ของรถจักรยานยนต์ญี่ปุ่นชื่อดัง อาทิ ฮอนด้า ยามาฮ่า ซูซูกิ คาวาซากิ ฯลฯ ไม่เคยเข้าร่วมประกวดราคาสักครั้งเดียว เนื่องจากราคากลางที่ทางราชการกำหนด ต่ำกว่าราคาขายในท้องตลาดของเขามาก จึงเป็นช่องทางให้บริษัทตัวแทนจำหน่ายขนาดเล็กของรถยี่ห้อต่างๆ ดังกล่าว สวมสิทธิ์เข้าร่วมประกวดราคาแทน เพื่อหวังเงินก้อนหนึ่งจากการฮั้ว และยังเป็นการจัดฉากให้กับหน่วยราชการแห่งนั้น
นายสมยศ กล่าวว่า นอกจากนี้ การยื่นแบบประมูลโครงการก็เป็นไปอย่างรวบรัด กล่าวคือ ตามกฎหมายกำหนดต้องแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน แต่วันแรกที่ประกาศประกวดราคาทางเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลาง ตรงกับวันที่ 31 ก.ค.2550 ซึ่งยังเป็นวันหยุดชดเชยของทางราชการ และยังหยุดต่อเนื่องไปถึงวันที่ 1 ส.ค.50 โดยมีการกำหนดเปิดขายแบบในวันที่ 1-3 ส.ค.2550 เป็นจำนวน 3 วัน การลงประกาศทางเว็บไซต์ในวันหยุดชดเชยของทางราชการดังกล่าว และการเปิดขายแบบเพียงแค่ 3 วันนั้น ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเตรียมตัวไม่ทัน ตรงนี้เหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง ที่ได้มีการล็อคสเปนไว้แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวมีข้อพิรุธมากมาย ซึ่งตนได้ยื่นเอกสารทั้งหมดเพื่อให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบแล้ว
“พฤติกรรมความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ 19,147 คัน ของ สตช. ครั้งนี้ มีบุคคลใกล้ชิดกับ ผบ.ตร.คนหนึ่ง ชอบใส่เสื้อสูท ยืนข้างหลังท่านตลอดเวลา เป็นผู้จัดการทั้งหมด ท่านเข้ามารักษาการเพียงไม่กี่วัน ก็มีการประมูล รถตู้ รถกระบะ ด้วยงบประมาณ 6-7 พันล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยผ่านไปแล้ว ก่อนที่จะจัดให้มีการประมูลรถจักรยานยนต์ล็อตนี้อย่างเร่งรีบ ทั้งหมดเป็นงบผูกพัน 3 ปี ส่วนรถตู้ รถกระบะ ผูกพัน 5 ปี 3 เดือน” นายสมยศ กล่าว
ด้าน นายสมนึก วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท แพล็ททินัม มอเตอร์เซลส์ จำกัด หนึ่งในบริษัทที่ร่วมยื่นแบบประมูล กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี ศาลปกครอง และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนวินัยเพิ่มเติม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาต (ผบ.ตร.) ในกรณีดังกล่าวแล้ว