ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถจักรยานยนต์ดักเจรจาตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์หลังบ้านอัยการ แต่ตกลงกันไม่ได้ใช้อาวุธปืน .38 จ่อยิงท้ายทอยเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ และกระชากสร้อยคอทองคำ 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง และอาวุธปืนประจำกายไปอย่างลอยนวล
วันนี้ (13 มี.ค.) เวลา 00.30 น. ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ ชาตรูปะมัย ร้อยเวร สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้ง เกิดเหตุตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ของ สภ.เมืองชลบุรี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณหน้าปากซอยบ้านอัยการยงค์ กุลพานิช ม.2 กลางถนนหนองข้างคอก ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรายไปยัง พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.อุดม จันทร์พิทักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.เมืองชลบุรี พ.ต.ท.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองชลบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนาย พร้อมแพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นจากโรงพยาบาลชลบุรีรุดมาที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางถนนสายหนองข้างคอก ห่างสวนอาหารยิ้มยิ้ม ประมาณ 30 เมตร หมู่ 2 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี พบศพ ดาบตำรวจ บรรเจิด มีคำ อายุ 48 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี สภาพศพถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ท้ายทอย ทะลุออกปาก 1 นัด เสียชีวิตในสภาพนอนตะแคงคร่อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ สีเลือดหมู ทะเบียนตราโล่ หมายเลข 11042 พลิกคว่ำกลางถนน
จากการตรวจสอบพบรอยรองเท้าคนร้ายย่ำเลือดตำรวจผู้เสียชีวิต เศษสร้อยคอทองคำตกอยู่ และวิทยุตำรวจ มีรอยกระสุนถูกยิงกลางเครื่อง ตรวจสอบพบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง และอาวุธปืนขนาด .357 ประจำกาย ถูกคนร้ายโจรกรรมไปด้วย
ในเวลาต่อมาภรรยาและลูกของดาบตำรวจ ผู้เสียชีวิตเดินทางมาดูศพพร้อม ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ
จากการสอบสวนทราบว่า ดาบตำรวจบรรเจิด ผู้ตายเป็น ผบ.หมู่ ปป.สภ.เมืองชลบุรี สายตรวจรถจักรยานยนต์ ซึ่งมี ด.ต.สมบูรณ์ สุกใส ผบ.หมู่ ปป. เป็นคู่หู แต่เนื่องจาก วันนี้ ด.ต.สมบูรณ์ คู่หู หยุด จึงเข้าเวรออกตรวจเพียงคนเดียว ตั้งแต่เวลา 00.00-08.00 น. ระหว่างที่กำลังออกตรวจจุดตรวจตู้แดงจนมาถึงบริเวณบ้านของนายยงค์ กุลพานิช อัยการ ซึ่งเป็นบ้านซอยเปลี่ยว
หลังปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมา และพยานพบว่ามี ชายคนก่อเหตุขี่ จยย.ไม่ทราบชนิดสีตาม ด.ต.บรรเจิด ผู้ตายมาตั้งแต่บริเวณหน้า สภ.เมืองชลบุรี จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ และมาจอดรถพูดคุยเหมือนกับเจรจาตกลงอะไรกันบางอย่าง แต่เกิดตกลงกันไม่ได้ ผู้ตายพยายามขี่จักรยานยนต์หนีออกมาจนตำเสียชีวิตคาที่
จากนั้นคนร้ายก็ยังเดินย่ำกองเลือดอย่างใจเย็นเข้าไปกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ และอาวุธปืนประจำกายไป ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนบายพาส อ.เมือง จ.ชลบุรี มุ่งเข้าเข้า กทม.
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานการสังหารครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น ประเด็นแรก การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตาย เนื่องจากเวลาปฏิบัติหน้าที่ตำรวจนายนี้จะทำงานอย่างตั้งใจ เวลาจับคนร้าย คนร้ายเถียงหรือด่ามักจะไม่ยอม หรือพยายามติดสินบนก็มักจะไม่รับ สร้างความโกรธแค้นให้กับเหล่ามิจฉาชีพจนกระทั่งถูกอาฆาตมาดร้ายเป็นประจำ และเมื่อ 3-4 วันเพิ่งจับแก๊งนักพนันรายใหญ่ในเมืองชลบุรีก็ยังถูกแก๊งนี้ขู่อาฆาตไว้
ประเด็นที่ 2 อาจจะมาจากเรื่องส่วนตัว ที่ผู้ตายเป็นหนี้เป็นหนี้สินพรรคพวกเพื่อนฝูงแต่ไม่ยอมจ่ายหนี้ และเมื่อพยายามตกลงกันแต่ก็ตกลงกันไม่ได้ คนร้ายจึงลงมือสังหารอย่างใจเย็น พร้อมกับเอาทรัพย์สินของ ด.ต.บรรเจิด ไปด้วย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามสืบสวน หาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนต่อไป
วันนี้ (13 มี.ค.) เวลา 00.30 น. ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ ชาตรูปะมัย ร้อยเวร สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้ง เกิดเหตุตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ของ สภ.เมืองชลบุรี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณหน้าปากซอยบ้านอัยการยงค์ กุลพานิช ม.2 กลางถนนหนองข้างคอก ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรายไปยัง พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.อุดม จันทร์พิทักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.เมืองชลบุรี พ.ต.ท.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองชลบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนาย พร้อมแพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นจากโรงพยาบาลชลบุรีรุดมาที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางถนนสายหนองข้างคอก ห่างสวนอาหารยิ้มยิ้ม ประมาณ 30 เมตร หมู่ 2 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี พบศพ ดาบตำรวจ บรรเจิด มีคำ อายุ 48 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี สภาพศพถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ท้ายทอย ทะลุออกปาก 1 นัด เสียชีวิตในสภาพนอนตะแคงคร่อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ สีเลือดหมู ทะเบียนตราโล่ หมายเลข 11042 พลิกคว่ำกลางถนน
จากการตรวจสอบพบรอยรองเท้าคนร้ายย่ำเลือดตำรวจผู้เสียชีวิต เศษสร้อยคอทองคำตกอยู่ และวิทยุตำรวจ มีรอยกระสุนถูกยิงกลางเครื่อง ตรวจสอบพบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง และอาวุธปืนขนาด .357 ประจำกาย ถูกคนร้ายโจรกรรมไปด้วย
ในเวลาต่อมาภรรยาและลูกของดาบตำรวจ ผู้เสียชีวิตเดินทางมาดูศพพร้อม ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ
จากการสอบสวนทราบว่า ดาบตำรวจบรรเจิด ผู้ตายเป็น ผบ.หมู่ ปป.สภ.เมืองชลบุรี สายตรวจรถจักรยานยนต์ ซึ่งมี ด.ต.สมบูรณ์ สุกใส ผบ.หมู่ ปป. เป็นคู่หู แต่เนื่องจาก วันนี้ ด.ต.สมบูรณ์ คู่หู หยุด จึงเข้าเวรออกตรวจเพียงคนเดียว ตั้งแต่เวลา 00.00-08.00 น. ระหว่างที่กำลังออกตรวจจุดตรวจตู้แดงจนมาถึงบริเวณบ้านของนายยงค์ กุลพานิช อัยการ ซึ่งเป็นบ้านซอยเปลี่ยว
หลังปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมา และพยานพบว่ามี ชายคนก่อเหตุขี่ จยย.ไม่ทราบชนิดสีตาม ด.ต.บรรเจิด ผู้ตายมาตั้งแต่บริเวณหน้า สภ.เมืองชลบุรี จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ และมาจอดรถพูดคุยเหมือนกับเจรจาตกลงอะไรกันบางอย่าง แต่เกิดตกลงกันไม่ได้ ผู้ตายพยายามขี่จักรยานยนต์หนีออกมาจนตำเสียชีวิตคาที่
จากนั้นคนร้ายก็ยังเดินย่ำกองเลือดอย่างใจเย็นเข้าไปกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ และอาวุธปืนประจำกายไป ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนบายพาส อ.เมือง จ.ชลบุรี มุ่งเข้าเข้า กทม.
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานการสังหารครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น ประเด็นแรก การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตาย เนื่องจากเวลาปฏิบัติหน้าที่ตำรวจนายนี้จะทำงานอย่างตั้งใจ เวลาจับคนร้าย คนร้ายเถียงหรือด่ามักจะไม่ยอม หรือพยายามติดสินบนก็มักจะไม่รับ สร้างความโกรธแค้นให้กับเหล่ามิจฉาชีพจนกระทั่งถูกอาฆาตมาดร้ายเป็นประจำ และเมื่อ 3-4 วันเพิ่งจับแก๊งนักพนันรายใหญ่ในเมืองชลบุรีก็ยังถูกแก๊งนี้ขู่อาฆาตไว้
ประเด็นที่ 2 อาจจะมาจากเรื่องส่วนตัว ที่ผู้ตายเป็นหนี้เป็นหนี้สินพรรคพวกเพื่อนฝูงแต่ไม่ยอมจ่ายหนี้ และเมื่อพยายามตกลงกันแต่ก็ตกลงกันไม่ได้ คนร้ายจึงลงมือสังหารอย่างใจเย็น พร้อมกับเอาทรัพย์สินของ ด.ต.บรรเจิด ไปด้วย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามสืบสวน หาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนต่อไป