ศูนย์ข่าวศรีราชา- ผู้การฯ ชลบุรี ตั้งรางวัลนำคนจับร้าย 1 แสนบาท ใช้อาวุธปืนยิงตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์เสียชีวิตคาที่ หลังสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์หลายปาก ได้ภาพสเกตช์ใบหน้าคนร้ายแล้ว พร้อมนำตัวผู้ต้องสงสัย 2 รายมาสอบปากคำ และตรวจเขม่าดินปืน
จากกรณีเวลา 01.30 น.เช้าวันนี้ (13 มี.ค.) คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงดาบตำรวจบรรเจิด มีคำ อายุ 48 ปี ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี เสียชีวิตตายกลางถนนหนองข้างคอก ข้างสวนอาหารยิ้มยิ้ม หมู่ 2 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี เบื้องต้นพบ สร้อยคอทองคำหนัก 5 พร้อมพระเลี่ยมทอง และอาวุธปืนประจำกาย ถูกคนร้ายนำไปด้วย
ความคืบหน้าตลอดทั้งวันนี้ พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.จำนงค์ รัตนกุล รอง ผบก.ชลบุรี พ.ต.อ.อุดม จันทร์พิทักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี และตำรวจชุดติดตามคดีเกือบ 20 นาย กำลังประชุมอยู่นั้น พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รอง ผบช.ภ.2 ได้เดินทางเข้ามาร่วมประชุม และร่วมฟังการประชุมติดตามคดี เพื่อติดตามคนร้ายอย่างเต็มที่
พล.ต.ต.บัณฑิต กล่าวว่า พบว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก มีการสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปแล้วถึงเกือบ 10 ปาก โดยพบว่าทั้งหมดให้การตรงกันว่าคนร้ายมาด้วยกัน 2 คน คนขี่สวมเสื้อดำ กางเกงยีนส์ ผมรองทรง ส่วนคนซ้อนสวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ ผมยาวรากไทร ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีดำ ขับติดตาม ด.ต.บรรเจิด ผู้ตายมาตลอด ตั้งแต่ออกจาก สภ.เมืองชลบุรี
จนกระทั่งใกล้ถึงที่เกิดเหตุ ซึ่ง ด.ต.บรรเจิด ขับขี่ เข้าไปตรวจตู้แดง ภายในซอยบ้านอัยการ ยงค์ กุลพานิช ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยวและตัน จนกระทั่งออกมาพบคนร้าย ซึ่งเป็นคนซ้อนท้าย สวมเสื้อขาว ใช้อาวุธปืนขนาด .357 ยิง 3 นัด กระสุนปืนเข้าที่สะบักหลัง 1 นัด เข้าที่ท้ายทอยทะลุปาก 1 นัด ของ ด.ต.บรรเจิด จนเสียชีวิตคารถ
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง และอาวุธปืนขนาด .38 หายไปนั้น ต่อมาให้แพทย์ไปทำการผ่าพิสูจน์พลิกศพ พบว่าสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง ถูกคมกระสุนตัดขาดหล่นลงไปเสื้อขาวชั้นใน ซึ่งคนร้ายไม่ได้กระชากไป แต่คนร้ายโจรกรรมอาวุธปืนขนาด .38 ไปด้วย
นอกจากนี้ ผู้การฯ ชลบุรี โชว์ภาพสเกตช์ใบหน้าคนร้าย พร้อมประกาศว่าถ้าผู้ใดแจ้งเบาะแสนำจับ กลุ่มคนร้าย ไม่ว่าจะตรงกับภาพที่สเกตช์หรือไม่ก็ตาม ถ้าพบว่าน่าจะคนร้ายโทรแจ้งเข้ามาที่เบอร์สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี หรือสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ถ้าจับกุมตัวคนร้ายได้ แค่สอบสวนพบว่า การสอบสวนมีมูล โดยไม่ต้องรอคำพิพากษาหรือดำเนินคดี ตนจะจ่ายเป็นสินจ้างรางวัล 100,000 บาท โดยไม่มีข้อต่อรอง เพราะตร.ต้องการจับกุมคนร้าย ที่ก่อคดีอย่างอุกอาจ สะเทือนขวัญประชาชนพร้อมทั้งได้เลื่อนยศ5ลำดับขั้น
พล.ต.ต.บัณฑิต ยังกล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุน่าจะมาจากการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ ด.ต.บรรเจิด เป็นสายตรวจที่ทำงานจริงจัง และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ และวันนี้หลังปล่อยแถวปฏิบัติงาน มีโทรศัพท์แจ้งหลอก 191 สภ.เมืองชลบุรี ว่า แถวที่ ด.ต.บรรเจิดไปตรวจว่า มีการลักลอบเล่นการพนัน ซึ่ง ด.ต.บรรเจิด ก็รับแจ้งจาก วิทยุตำรวจ ให้เข้าไปจับกุม ซึ่ง ด.ต.บรรเจิด ก็ตั้งใจไปจรวจตู้แดงก็จะเลยไป แต่ก็มาถูกคนร้ายสังหารตาย ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ด.ต.บรรเจิด ก็เพิ่งจับกุมแก๊งนักพนันรายใหญ่ก็เพิ่งถูกขู่ฆ่าอีกด้วย
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่ง ก็น่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว ที่ ด.ต.บรรเจิด รับจำนำปืนขนาด .38 ที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไปด้วย ในราคา 15,000 บาท จากเพื่อนที่ลาออกจาก ตร.ไปแล้ว 5 ปี คืออดีต ด.ต.พฤติการณ์ ทะโนพลับ ผบ.หมู่ ปป.สภ.เมืองชลบุรี เคยเป็นอดีตคู่หู ต่อมาเมื่อ 6 เดือนที่ผ่าน อดีตคู่หู มาหา ด.ต.บรรเจิด นำเงินมาไม่ถึง 15,000 บาทมาเพื่อไถ่ปืน แต่ ด.ต.บรรเจิด ผู้ตายไม่ยอมให้ปืนไป พร้อมกับให้ ร.อ.วันชัย พรหมเต็ม ปัจจุบันเป็นสัสดี อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของปืนกระบอกนี้มาติดต่อเอาเงินมาจ่ายให้ครบ 15,000 บาท ก็จะให้ไป แต่แล้วก็เงียบหายไป จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว
นอกจากนี้ ตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ยังได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย อดีต ด.ต.พฤติการณ์ คู่หู และ ร.อ.วันชัย ดังกล่าว ขึ้นไปตรวจสอบหารอยนิ้วแฝง และเขม่าดินปืนที่มือ ที่ตำรวจกองวิทยาเขต 13 จ.ชลบุรี โดยต้องรอผลการพิสูจน์ถึง 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ตำรวจได้ตั้งปมสังหารว่า อาจจะเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ และเรื่องทะเลาะส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องการรับจำนำปืนดังกล่าว