“หมัก” เคลิ้มบ่อนเขมร รำลึกเหตุเด้ง “เสรีพิศุทธ์” พ้นทาง

“นายกฯ” เป็นปลื้มเยือนกัมพูชา หลงเสน่ห์มนต์ขลังกาสิโนเขมร ยันเดินหน้าต่อแน่ เคลิ้มเปิด 5 จุด เก็บค่าต๋งหัวละแสน แย้มไต๋เหตุเด้ง ผบ.ตร.หวังเปิดทางเปิดบ่อนเสรี ให้ถูกกฎหมาย ตำรวจไม่ต้องไปตามจับให้เสียเวลา

วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ และได้เปิดแถลงข่าวร่วมกับนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.โดย นายสมัคร แถลงว่า การเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาตนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งประเทศกัมพูชา และได้รับการต้อนรับจากสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสสนทนากับทีมไทยแลนด์และประชาชนชาวไทย โดยพบว่าประเทศที่เข้ามาลงทุนประเทศกัมพูชามากที่สุด คือ จีน และเกาหลี ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 6 ทั้งที่ประเทศกัมพูชาน่าลงทุนอย่างมาก

แต่ปรากฏว่า วันนี้คนที่สามารถไปลงทุนได้จำกัดเฉพาะเพียงอัครมหาเศรษฐี มีเงินถุงเงินถัง นักธุรกิจธรรมดาธนาคารของไทยไม่เอื้อเฟื้อ ใครจะไปลงทุนต้องกู้เงินจากประเทศไทยไปยังกัมพูชา ใครจะลงทุนต้องเอาของในประเทศไทยไปค้ำประกัน ถึงได้เงินมาลงทุนในกัมพูชา หมายความว่า ธนาคารไทยในประเทศกัมพูชาไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากไม่เชื่อถือนักธุรกิจไทย ก็น่าเสียใจแทน ที่ธนาคารไทยไม่เอื้อเฟื้อจะขอวางเงินค้ำประกัน ก็บอกให้เอาเงินสดมาวาง110 ค้ำประกันได้ 100 ฟังแล้วก็หดหู่ ธนาคารไทยไม่ได้หน้าเลือดในเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ออกไปมีสาขาต่างประเทศแล้วก็ยังใจร้ายต่อคนไทย อย่างนี้ธุรกิจไทยไม่มีวันเจริญก้าวหน้า ตนก็ฟังเขาบ่นมาอย่างนี้ก็เอามาเล่าให้ฟังว่าไทยไม่สนับสนุนไทย

นายสมัคร กล่าวว่า ตนสนใจการนำภาษาโบราณมาใช้ และสนใจเรื่องที่จะนำชื่อเต็มมาใช้แทนราชทินนามที่เราเรียกกันติดปากว่าสมเด็จฮุนเซน หรือ สมเด็จเจียซิม โดยวันนี้เขาตั้งใหม่เป็นสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน และ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี โพธิสาร เจียซิม เป็นต้น ซึ่งของประเทศไทยได้เลิกไปแล้ว

นายสมัคร กล่าวว่า ทางกัมพูชาอยากให้ของคืน 18 ชิ้น เราคืนไป 7 ชิ้น ที่เหลือเอารูปไปให้ดูแล้วชี้แจงว่ากำลังตรวจสอบ 11 ชิ้นที่เหลืออยู่ ก็คุยกันดิบดีถึงขั้นที่ว่ากัมพูชาจะทำพิธีรับของกลับคืน ส่วนเรื่องคนหลบหนี ผบ.ทบ.ก็ได้ชี้แจงว่ากำลังสะสางอยู่ ทหารตำรวจปฏิบัติกับเขาอย่างดี ถ้อยทีถ้อยอาศัย ส่วนจุดปักปันเขตแดนที่ยังมีปัญหา ตนก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็วโดยปรึกษา รมว.ต่างประเทศ และ ผบ.ทบ.ว่า เราไม่ขัดข้องที่จะหลบไป 3-4 กม.แล้วให้เปิดทางผ่านด่านเข้าไป

นายสมัคร กล่าวว่า หัวใจการท่องเที่ยวของกัมพูชาอยู่ที่นครวัด นครธม ที่มีนักท่องเที่ยวมากว่าปีละกว่า 2-3 ล้านคน ซึ่งประเทศเกาหลีได้มีเที่ยวบินตรงจากโซลสู่เสียมเรียบ แต่การบินไทยเอาแต่ยักท่า และให้บางกอกแอร์เวย์สเข้าไปก่อน ส่วนเรื่องที่ทางการกัมพูชากู้เงินไทยไปทำถนน 1,400 ล้านนั้น ก็ได้อนุมัติไป เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ด้านการคมนาคมระหว่างสองประเทศ ก็หวังว่า สนามบินอู่ตะเภาจะเป็นที่รองรับนักท่องเที่ยวจากยุโรป ให้เดินทางมาเที่ยวนครวัดนครธม ต่อเนื่องมายังพัทยาให้สามรถเที่ยวได้ในช่วงเวลาสั้นๆ 2-3 วัน ยิ่งช่วงที่ทางยุโรปและอเมริกาอยู่ในช่วงอากาศหนาว คนจะเข้ามาทางนี้รับกันไม่ทันแน่ เพราะหนังสือนครวัด นครธมมันออกไปทั่วโลก ก็ได้หารือกับนายกฯกัมพูชาว่าให้ช่วยเหลือกันขอยืมเรามา 30 ล้าน ก็ไม่ขัดข้อง 1,400 ล้านก็อนุมัติ

นายสมัคร กล่าวว่า สำหรับเรื่องเขาพระวิหารพูดจากันชัดเจนเอกสารทางกัมพูชาอยากแถลงร่วมกัน แต่ตนขอให้คนไทยฟังข่าวเสียก่อนกรณีที่จะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งนายกฯกัมพูชา ยืนยันที่จะเอาเฉพาะตัวพระวิหารเท่านั้นไปขึ้นทะเบียน ส่วนพื้นที่เขาไม่เกี่ยว และมีความชัดเจนว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเขตแดน ย้ำแล้วย้ำอีก ก็บอกเขาว่าจะขอมาให้ชาวไทยรู้เสียก่อน จะออกแถลงการณ์ตนก็ต้องระมัดระวังจึงมาแถลงเรื่องนี้ให้คนนไทยทราบและจะรอดูว่าจะมีใครพูดจาอะไรอย่างไร เสียหายไหม เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอย้ำที่ระบุว่า ไทยไม่ขัดข้องที่จะให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็เนื่องจากไทยได้รับคำยืนยันจากกัมพูชาว่าไม่เกี่ยวกับเขตแดน และไม่เกี่ยวข้องกับเขาพระวิหาร ขึ้นทะเบียนตัววิหารเท่านั้น

นายยกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางไปกัมพูชาครั้งนี้ได้พบสิ่งที่น่าตื่นเต้นบริเวณข้างๆกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชา มีตึกหลังใหญ่ คือ กาสิโนโฮเทลที่ลงทุนโดยมาเลเซีย เป็นสิ่งทำสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเดียวกับที่ตนคิด จึงขอพูดทบทวนเสียเลยว่า ตนพูดไว้ในการตอบคำถามบอกว่าเห็นด้วยที่จะพิจารณาให้มีกาสิโน ตนให้สัมภาษณ์จากที่โน้น ไม่รู้ว่าจะมีข่าวมาถึงที่นี่หรือเปล่าก็จะเล่าให้ฟังว่าเมื่อครั้งเป็น รมว.มหาดไทย 31 ปีมาแล้ว ได้ไปดูงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเขาเอาเรือโดยสารลำใหญ่ที่ไม่เดินแล้ว มาจอดในอ่าวมะนิลา จอดให้มันแห้งๆ ก็จัดการให้มีกาสิโนในนั้น มีทหารมีตำรวจเฝ้า นักท่องเที่ยวแสดงพาสปอร์ตเข้าได้เลย ส่วนคนฟิลิปปินส์ใครจะเข้าให้ซื้อบัตร 5 หมื่นบาทต่อคนต่อปี ก็มาบอกกับท่านธานินทร์ (กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) แต่ท่านบอกว่าเอาเก็บใส่ลิ้นชักไว้ก่อนเถอะ และต่อมา 2 ปีจากนั้นจากปี 2520-2522 ตอนนั้นหนังสือพิมพ์เอเชียวีคยังอยู่ เปิดมากาสิโน บีโลว์ ออฟ เดอะ ฟิลิปปินส์ โฆษณาในเอเชียวีคเต็มหน้ารูปสี แปลว่า งานกาสิโนของฟิลิปปินส์ 10 แห่งในมะนิลา 5 แห่ง ที่บาเกียว ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวอีก 5 แห่ง เป็นธุรกิจที่รัฐบาลทำเองนั่นคือเมื่อ 31 ปีที่แล้ว

“ผมคิดให้ฟังง่ายว่าเมื่อก่อนตัวเลข 5 หมื่น แต่เดี๋ยวนี้ต้องใช้แสน สมมติหมื่นคน ก็ได้ 500ล้าน เก็บค่าต๋งเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ เอาไปทำสาธารณกุศลก็เล่าให้ฟังให้รู้ว่าน่าจะมีการพิจารณาเรื่องกาสิโนเสียที บ่อนเสรีมาทันทีทำไมต้องแปลกาสิโนว่าบ่อน และทำไมต้องบ่อนเสรี ใช้คำอื่นไม่ได้หรือ แปลว่า บ่อนกาสิโนที่เขาเล่นอยู่เต็มไปหมด เป็นบ่อนเสรี มันไม่ใช่ จะทำขึ้นมาเป็นมาตรฐานให้พวกนั้นปิดหมด อยากจะเล่นก็ไปเล่นเลย จะได้ไม่ต้องไปตามจับ ทำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์ก็ขนลุกซู่ เพราะเจอบทความเขียนชมผมว่าเป็นคนกล้าตัดสินใจ กล้าออกความเห็น ไม่ลังเล สมมติว่า มี พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ขอนแก่น อย่างละแห่ง 5 แห่ง ก็ 5 โรงแรม นักท่องเที่ยวก็ไป ใครอยากเที่ยวก็ไป นักเล่นทั้งหลายหมื่น 2 หมื่นไปเลย ซื้อบัตรใบละแสน ความหมายคือไม่ต้องไปเล่นที่บ่อน ไม่ต้องเล่นตามบ่อน ตำรวจไม่ต้องจับ ไม่ต้องมีบ่อนเสรี ตนขออภัยอดีต ผบ.ตร.ที่ต้องเอ่ยบ่อยๆ เจตนาคือต้องการให้มีกาสิโนในแหล่งท่องเที่ยว แล้วให้คนไทยที่คันอยากเล่นได้ไปเล่นกัน ไปซื้อตั๋วเล่นจะได้หมดเรื่องเสียทีตำรวจจะได้ไปทำงานอื่น” นายสมัคร ระบุ

“ผมได้มีโอกาสกินอาหารที่กัมพูชา ที่นั่นเขาบอกมีแต่ก๋วยเตี๋ยว ผมก็กินได้ เป็นก๋วยเตี๋ยวทะเล เส้นเขาดีมาก หน้าตาคล้ายบะหมี่ แต่สีขาวก็กินกัน แต่ท่านผู้บัญชาการทหารบก ท่านเป็นคนสะอาดเรียบร้อยรักษาความสะอาด ท่านกินอะไรต้องเช็ดหมด ช้อน ส้อม ตะเกียบ ต้องเช็ดหมด อย่างเช่น พริกขี้หนูที่ดองไว้ ท่านก็กลัวอันตราย แตงโมทั้งแตงโมแดง แตงโมเหลือง ก็เอามีดผ่าเลยเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ ท่านบอกท่านกลัวมีดสกปรก ก็ดีเหมือนกันท่านระมัดระวังดี ผบ.ทบ.ระมัดระวัง นายกรัฐมนตรีไม่ระวังเลย ก็กินไปอย่างนั้น เพราะมันเคย” นายสมัคร กล่าวอย่างอารมณ์ดี