xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เหน็บ “เลี้ยบ” ป้อง รสก.ไม่ใช่ที่รองรับซาก 111 ทรท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผู้ช่วยเลขา ปชป.” เหน็บ “เลี้ยบ” โยนหินถามทางกู้ซากอดีต ทรท.111 คน นั่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ แขวะรัฐวิสาหกิจเป็นสมบัติชาติ ไม่ใช่ของตระกูลชินวัตร หรือรองรับผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

วันนี้ (14 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง ออกมาประกาศว่า จะแต่งตั้ง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน มาเป็นบอร์ดในรัฐวิสาหกิจ ว่า เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นความจริงหรือไม่ หรือว่าเรื่องนี้จะเป็นแค่การหยั่ง กระแสสังคมหรือ โยนหินถามทาง ถ้าสังคมคัดค้านก็คงอาจจะต้องถอยกลับไป แต่สังคมรับหรือไม่มีใครมาท้วงติงเรื่องนี้ก็จะเปิดโอกาสให้นักการเมือง 111 คน มีงานทำ จึงอยากจะให้สังคมได้จับตามองว่า พรรคพลังประชาชนจะเอาอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมาเป็นกรรมการบอร์ดในรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ถ้าเป็นจริงและได้รับเสียงคัดค้านจากสังคมมากขึ้น ตนคิดว่า นายกฯ ก็จะต้องออกมาเบรกเรื่องนี้อีก ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงละครเพื่อขอความเห็นใจจากประชาชน สุดท้ายก็ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป หากเป็นเช่นนั้นก็จะนำความเสียหายมาสู่บ้านเมืองงและสถาบันของนักการเมืองโดยรวมด้วย

นายเทพไท กล่าวว่า การที่จะตั้งบอร์ด รัฐวิสาหกิจ ตนคิดว่าบอร์ดจะต้องมีคุณสมบัติอยู่ 2 ประการคือ 1.จะต้องมีความรู้ความสามารถในเชิงบริหาร และ 2.จะต้องมีความรู้ความสามารถในเชิงธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจนั้นด้วย และองค์ประกอบของบอร์ดต้องประกอบด้วย 4 ส่วน คือ 1.ข้าราชการระดับสูงที่กระทรวง ที่รัฐวิสาหกิจนั้นสังกัด เช่น ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี มาเป็นตัวแทนของกระทรวง 2.จะต้องเป็นผู้ชำนาญการทางกฎหมาย เช่นตัวแทนจากอัยการสูงสุด คณะกรรมการกฤษฎีกา หรือนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญจากสภาทนายความ เป็นต้น 3.จะต้องเป็นตัวแทนของกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณหรือสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ 4.ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ในเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจนั้นๆ ซึ่งตนไม่ทราบว่านักการเมืองทั้ง 111 คนอยู่ในกลุ่มไหนขององค์ประกอบ หรือจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบริหารจัดการเรื่องผลประโยชน์เท่านั้น

“รัฐวิสาหกิจเป็นสมบัติของชาติ และประชาชน ไม่ใช่สมบัติของพรรคพลังประชาชน ถ้ารัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทในตระกูลของชินวัตร ผมคิดว่าคงจะไม่มีใครมาคัดค้านเรื่องนี้ ที่สำคัญหรือรัฐวิสาหกิจเป็นหน่วยงานของรัฐไม่ใช่หน่วยงานที่มีไว้รองรับนักการเมืองว่างงาน หรือถูกตัดสิทธิ์ หรือเป็นตำแหน่งที่ปลอบใจคนอกหักทางการเมือง ผมไม่อยากจะเห็นสังคมประนามว่า การตั้งนักนัการเมืองและพวกพร้องเข้ามาอยู่ในรัฐวิสาหกิจเพื่อมาทำมาหากิน มาหาผลประโยชน์หรือจะเป็นการถอนทุนทางการเมือง ซึ่งสังคมรู้ดีว่าการเลือกตั้งทมี่ผ่านมามีพรรคการเมืองบางพรรคลงทุนไปกับการเมือง ทั้งก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง เป็นจำนวนมหาศาล เพราะฉะนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่มีนัการเมืองเข้ามาอยู่ในรัฐวิสาหกิจ เป็นการเข้ามาทำมาหากินหรือมาถอนทุนทางการเมือง” นายเทพไท กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น