นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมแต่งตั้งอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะบุคคลที่จะเข้ามาบริหารงานรัฐวิสาหกิจจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขานั้นๆ เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ การบริหารองค์กรเหล่านี้ควรอยู่บนพื้นฐานของความเป็นมืออาชีพ และปราศจากอิทธิพลทางการเมือง แต่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มีความเกี่ยวโยงกับรัฐบาลและพรรคพลังประชาชน ดังนั้น การแต่งตั้งบุคคลเหล่านี้อาจจะนำไปสู่ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้ไม่ได้บริหารงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่อาจเป็นการบริหารงานเพื่อพรรคพวก หรือเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
นายกรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าองค์กรรัฐวิสาหกิจมีความสำคัญเกินกว่าที่จะใช้เป็นบ้านพักสำหรับนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ประกาศตั้งแต่รับตำแหน่งวันแรกว่า วาระสำคัญคือ การฟื้นความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในภาวะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนกับสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ การเร่งสร้างงาน สร้างโอกาสให้กับประชาชนมากกว่าที่จะเป็นการสร้างงานและโอกาสให้กับนักการเมืองที่อยู่ในช่วงการว่างงาน ซึ่งไม่ใช่หนทางที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นกลับคืนมาต่อระบบเศรษฐกิจไทยได้ ตรงกันข้ามอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะนักลงทุนจะเกิดความเคลือบแคลงว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลมีความจริงใจแค่ไหนกับการฟื้นฟูความเชื่อมั่นตามที่มีการระบุเอาไว้
นายกรณ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรแต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถระดับมืออาชีพ และสามารถเป็นตัวแทนประชาชนที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนได้ เข้าไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยให้สรรหาจากกลุ่มบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง และมีความตั้งใจที่จะทำงานในแต่ละสาขา ซึ่งจะทำให้องค์กรรัฐวิสาหกิจมีทางเลือกมากขึ้นในการคัดสรรบุคคลที่มีคุณภาพ แต่หากจะตั้งนักการเมืองเข้าไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว ก็ควรเป็นนักการเมืองที่ยุติบทบาททางการเมืองอย่างถาวรและเป็นบุคคลที่มีความสามารถในระดับมืออาชีพที่เหมาะสมกับหน่วยงานนั้นๆ ด้วย
ส่วนกรณีที่นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารของกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น นายกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะนายพันศักดิ์ ถือเป็นบุคคลภายนอก และการประชุมดังกล่าวเป็นความลับของทางราชการ อาจมีปัญหาในเรื่องความลับรั่วไหลได้ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยากให้นายพันศักดิ์เป็นผู้ช่วยในการอุดช่องโหว่เกี่ยวกับความรู้ ความสามารถก็ควรแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ตรวจสอบได้ ซึ่งจะเป็นผลดีมากกว่า
นายกรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าองค์กรรัฐวิสาหกิจมีความสำคัญเกินกว่าที่จะใช้เป็นบ้านพักสำหรับนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ประกาศตั้งแต่รับตำแหน่งวันแรกว่า วาระสำคัญคือ การฟื้นความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในภาวะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนกับสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ การเร่งสร้างงาน สร้างโอกาสให้กับประชาชนมากกว่าที่จะเป็นการสร้างงานและโอกาสให้กับนักการเมืองที่อยู่ในช่วงการว่างงาน ซึ่งไม่ใช่หนทางที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นกลับคืนมาต่อระบบเศรษฐกิจไทยได้ ตรงกันข้ามอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะนักลงทุนจะเกิดความเคลือบแคลงว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลมีความจริงใจแค่ไหนกับการฟื้นฟูความเชื่อมั่นตามที่มีการระบุเอาไว้
นายกรณ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรแต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถระดับมืออาชีพ และสามารถเป็นตัวแทนประชาชนที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนได้ เข้าไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยให้สรรหาจากกลุ่มบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง และมีความตั้งใจที่จะทำงานในแต่ละสาขา ซึ่งจะทำให้องค์กรรัฐวิสาหกิจมีทางเลือกมากขึ้นในการคัดสรรบุคคลที่มีคุณภาพ แต่หากจะตั้งนักการเมืองเข้าไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว ก็ควรเป็นนักการเมืองที่ยุติบทบาททางการเมืองอย่างถาวรและเป็นบุคคลที่มีความสามารถในระดับมืออาชีพที่เหมาะสมกับหน่วยงานนั้นๆ ด้วย
ส่วนกรณีที่นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารของกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น นายกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะนายพันศักดิ์ ถือเป็นบุคคลภายนอก และการประชุมดังกล่าวเป็นความลับของทางราชการ อาจมีปัญหาในเรื่องความลับรั่วไหลได้ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยากให้นายพันศักดิ์เป็นผู้ช่วยในการอุดช่องโหว่เกี่ยวกับความรู้ ความสามารถก็ควรแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ตรวจสอบได้ ซึ่งจะเป็นผลดีมากกว่า