อดีตแกนนำพันธมิตรฯ รุมประชาทัณฑ์ “ครม.นอมินี” ชี้ เหมือนกระทืบความรู้สึกของคนทั้งประเทศ ยกทั้งลูกทั้งเมียมาครองอำนาจกันให้สลอน ไม่แคร์ใครทั้งสิ้น ขณะที่บางคนปูมหลังทำเรื่องผิดกฎหมาย ยังได้เป็นเสนาบดี ท้า “แม้ว” กลับมาสู้คดี พร้อมเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมให้เที่ยงธรรม ลั่น อย่าให้ประชาชนต้องพึ่งตนเองด้วยการเดินขบวน
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.00 น.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายพิภพ ธงไชย ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และอดีตแกนนำพันธมิตรฯ นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชน ร่วมวิเคราะห์การเมืองปัจจุบันในรายการสภากาแฟประชาชน ทางเอเอสทีวี โดยมี นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และ นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที เป็นผู้ดำเนินรายการ
นายพิภพ เผยมุมมองที่เห็นบ้านเมืองตลอดสองปีที่ผ่านมา ว่า แย่ลง โดยเฉพาะการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ที่ค่อนข้างผิดหวัง คิดไม่ถึงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะไม่ถนอมน้ำใจคนไทยเลย โดยการเลือก ครม.ที่คนไทยรับไม่ได้ ประวัติของแต่ละคนก็เกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย ในประเทศอารยะ คนแบบนี้จะไม่ได้รับเลือกเป็น ส.ส.หรือประธานสภาผู้แทนแน่ๆ และถึงแม้จะมีประวัติดี แล้วได้เข้ามาบริหารประเทศ แค่พูดเท็จคำเดียว เขายังต้องลาออก
“ที่พูดนี้ไม่ใช่ไม่ให้โอกาส แต่เราต้องให้โอกาสกับคนที่ประวัติดีไม่มีด่างพร้อยและมีความสามารถ ไม่ใช่กับคนที่ประวัติไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไม่ให้โอกาส แต่มันเป็นเรื่องทีไม่ควรจะเกิด” นายพิภพ ระบุ
นายพิภพ กล่าวด้วยว่า การที่บ้านเมืองเรามีนักการเมืองและหัวหน้าพรรคที่ขาดจิตสำนึกในการเลือกคนขึ้นมาบริหารประเทศเป็นเรื่องที่หดหู่ แต่มองในแง่การเมือง ถ้ามันตกถึงทีสุด มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ประชาชนจะทนไม่ไหว คนที่ผ่านร้อนหนาวมามากไม่มีทางจะอยู่นิ่งเฉยได้
นายสมเกียรติ กล่าวว่า คณะรัฐประหารชุดที่ผ่านมา เป็นชุดที่ไม่มีความหมายทางประวัติศาสตร์เลย ที่ผ่านมา หลังรัฐประหารไม่เคยมีครั้งไหนที่คนถูกรัฐประหารจะได้ฟื้นกลับมาทันทีอย่างครั้งนี้ แล้วฟื้นไม่พอยังจะมาซ้ำเติมคนไทยอีก ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่แค่ซ้ำเติมคนไทยอย่างเดียว แต่มันกระทืบคนไทยเลย
“รัฐบาลชุดนี้ระบอบทักษิณได้ใช้ภูมิปัญญาแหลมคม ได้ยกให้ตัวแสบทั้งหลายขึ้นมาในครม. มีแต่ดาวร้ายทั้งนั้นเลย มันขยี้ความรู้สึกคนไทย ผมอยากส่งสารไปถึงคนที่กระทืบความรู้สึกประชาชน ว่า คนทั้งประเทศเขารู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ เขารู้สึก และอยากจะบอกว่าพันธมิตรประชาชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาได้เหมือนกัน ระบอบทักษิณยังฟื้นได้ แล้วทำไมพันธมิตรฯจะฟื้นไม่ได้ เพียงแต่จะฟื้นด้วยสติปัญญา” นายสมเกียรติ กล่าว
ด้าน นายวีระ กล่าวว่า คุณทักษิณกำลังท้าทายมากที่ส่งนอมินีเข้ามา ดูแล้วชัดเลย ตัวเองลงไม่ได้ ก็ส่งน้องส่งภรรยามาลง เหมือนจะบอกว่าเป็นนอมินีมีอะไรไหม เขาไม่แคร์อะไรเลย ถึงแม้แต่ละคนจะดูมีการศึกษา แต่สิ่งทีให้สังคมแต่ละคนนั้นไม่ผ่าน ประวัติแต่ละคนเป็นอย่างไรเราก็ทราบดี ตัวแทนคนที่เป็นภรรยา สามีเขาเป็นยังไง แล้วคิดหรือว่าอยู่บ้านเดียวกันนอนเตียงเดียวกันจะไม่ซึมซับความคิดสามี หรือที่ลูกมาแทน เรื่องแบบนี้จะไม่สั่งสมหรือสอนกันหรือ แล้วเราจะยอมให้คนแบบนี้มาปกตรองประเทศหรือ
นายตุลย์ ถามนายพิภพ ว่า ที่ประเทศแย่ลงเป็นอย่างไร แล้วที่ผ่านมาการชุมนุมของพันธมิตรฯถือว่าศูนย์เปล่าหรือไม่
นายพิภพ กล่าวว่า เราเคยฝากความหวังไว้กับตุลาการภิวัฒน์ และคณะรัฐประหาร แต่ 15 เดือนที่รัฐบาลรัฐประหารมา เราก็เห็นอาการขององค์กรเหล่านี้ว่าไม่นิ่งอยู่ได้ ก็เลยเริ่มสงสัยว่า ไม่ใช่แค่นักการเมืองเท่านั้น แต่ข้าราชการไม่ว่าจะฝ่ายไหน ทำไมถึงยืนอยู่บนความถูกต้องไม่ได้ ทั้งที่มีอำนาจของคณะรัฐประหารคุ้มครองอยู่ แต่ในภาคประชาชน ผมคิดว่าเติบโตขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านการตรวจสอบอำนาจรัฐ ได้พัฒนามาเรื่อยจนถึงจุดที่เกิดพันธมิตรฯ จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมการตรวจสอบไปในทางที่ดีขึ้น กล้าแสดงออกมากขึ้น ผมคิดว่าการชุมชนของพันธมิตรฯ เป็นการแสดงวัฒนธรรมในการชุมนุมอย่างอารยประเทศที่คนทุกระดับชั้นเข้ามาร่วมกัน ประชาชนได้ปัญญามากขึ้น
“ผมเห็นคนหลายกลุ่มพูดเหมือนๆ กันว่า ถ้าคุณทักษิณคิดว่าตัวเองไม่ผิดต้องยอมให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไม่ใช่จะมาแก้กฎหมายทำให้ตัวเองไม่เข้าสู่การตรวจสอบของศาล” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ต้องพูดไว้ว่า ศาล อัยการ และ ตำรวจ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมต้องแสดงให้เห็นว่าได้ทำทุกอย่างไปตามกระบวนการกฎหมายและเปิดเผย ขอเรียกร้องว่า โดยเฉพาะในสถานการณ์แบบนี้ที่เราได้ผู้บริหารประเทศที่ ทุเรศ ขี้ริ้วขี้เหล่ ศาล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. อัยการ กกต.ฯลฯ ต้องแสดงให้ประชาชนเห็น ไม่เช่นนั้นประชาชนก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการจะช่วยเหลือตัวเองด้วยการชุมนุม
“ไม่ใช่พันธมิตรฯจะเอาแต่เดินขบวน แต่มันเป็นวัฒนธรรมในระบอบประชาธิปไตยและเป็นเครื่องมือของประชาชนที่จะต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ต้องเป็นการชุมนุมที่สงบและสันติ บอกข้อเท็จจริงกับประชาชน” นายพิภพ ระบุ
รายการสภากาแฟสภาประชาชน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการสภากาแฟสภาประชาชน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )