“หมัก” เชื่อ 7 วันรู้ รมต.คนไหนขี้เหร่ พร้อมปรับภายใน โว 3 เดือนหากมีดีต้องอวด แต่ถ้า 6 เดือนยังไม่ได้เรื่องต้องตั้งวงสนทนา
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวที่พรรคพลังประชาชน ในตอนหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จหรือไม่ในการตัดสินใจ เพราะ ครม.ก็ยังบอกว่าขี้เหร่นิดหน่อย ต่อไปอำนาจการตัดสินใจยังอยู่นอกประเทศหรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ตนทำกรรมวิธีตนออกจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินมาก็เล่าให้ใครฟังไม่ได้ แต่ต้องบอกคณะที่ร่วมงานกันว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านรับสั่งอะไรอย่างไรบ้าง ก็พอสมควรแก่เหตุ ธรรมดาเรื่องที่เจ้านายรับสั่งเขาไม่ไปเผยแพร่ แต่คนพวกนั้นเขาต้องทำงานกับตน ตนก็ไปอาสาเจ้านายไว้ว่าจะทำงานอย่างเต็มที่อะไรต่างๆ ก็ต้องละลายพฤติกรรม คือทั้งหมด ไม่ว่าจะมาพรรคไหนอย่างไร มาอยู่ ครม.แล้วก็จะเป็นพวกเดียวกัน คิดอย่างเดียวกัน คิดไม่อย่างเดียวกันก็มาช่วยกันคิด วิธีการแบบนี้บางครั้งคนที่ไม่ได้เป็นพวกพ้องอะไรกันมาเลย แต่มาอยู่ในแวดวงที่เกิดความพึงพอใจเกิดความเข้าใจกันและช่วยกันทำงานเราก็จะลุยกันต่อไปว่า จะเป็นอย่างไร
“ของผมยากกว่าคุณอภิสิทธิ์เยอะ คุณอภิสิทธิ์ท่านเอา 165 มาตั้ง 36 ง่ายจะตาย ไม่ต้องเอาคนอื่นมาเลย ของผมต้องเอา 5 พรรคมาผสมกัน แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังพยายามจะรวมกันเป็นพวกพ้องคือคณะรัฐมนตรีทำงานให้บ้านเมือง เมื่อเราตั้งใจไว้อย่างนี้ มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา นี่คือความตั้งใจอย่างยิ่ง แม้กระทั่ง เสธ.หนั่นก็คุยกันไปจับมือกันไป คุยกันเยอะ คุยกันเรื่องเนื้อนกกระจอกเทศ เรื่องโน้นเรื่องนี้ ทุกอย่าง จระเข้ที่ริมบึงก็คุย แล้วเรื่องงานก็จะบอกก็บอกเลยว่าเสธ.ดูงานส่วนต่างๆ ลองไปถาม เสธ.หนั่นดูสิว่าเป็นไง” นายสมัครกล่าว
เมื่อถามว่าจะไม่ขี้เหร่เหมือนกับที่ท่านเคยพูดใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า “คำว่าขี้เหร่ ขออธิบายสักที นสพ.บางกอกโพสต์ใช้คำขี้เหร่ว่า “Ugly Ducking” ตอนจบมันเป็นผมนะ สิ่งสำคัญเวลาเราดูหนังเรื่อง “Ugly American” คนอเมริกันเขาก็ไม่โกรธว่าคนอเมริกันทั้งหมดมัน Ugly คนอเมริกันที่มาเป็นทูตอยู่แถวนี้ต่างหากที่โดน บัดนี้อเมริกันก็ไม่เป็น Ugly เมื่อผสมผสานเสร็จเราไม่ได้ดั่งใจเราก็บ่นว่าขี้เหร่หน่อยมันก็เท่านี้ บางคนปรารถนาดีบอกว่า ขี้เหร่ ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า สวย ก็ให้มันมีอารมณ์ขันบ้าง”
“รู้ไหมคุณสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีบอกว่า เขาบอกว่าเปลี่ยนผมไม่ได้ แต่พอเจอกันที่สถานทูตเขาก็ต้องมาไหว้ และถามว่าตกลงว่าไง ผมบอกว่าไม่ว่าไง โอเค ก็แปลว่านี่มันการเมือง ผมก็บ่นหน่อย คุณสุวิทย์ก็บอกว่าโอเค ไม่มีปัญหา เราก็ยอมให้เขาตามที่เขาอยากได้ ความผสมผสานอย่างนี้มันดี น่าจะทำงานกันได้ ให้โอกาสผมหน่อยสิ”
เมื่อถามว่า ระยะเวลาในการทำงานจะเอาอะไรเป็นตัวชี้วัดในการตัดสินใจว่าคนนี้ทำงานผ่านหรือไม่ผ่าน นายสมัคร กล่าวว่า “ผมเป็นคนนะ ถ้าผมขอเขาผสมผสานกันแล้วมันต้องให้โอกาสซึ่งกันและกัน ไปขีดคอกี่วัน กี่เดือนไม่ได้หรอก ทำงานกัน 7 วันก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จะแก้ก็แก้กันภายใน ถ้า 3 เดือนดีขึ้นเราก็ต้องเอามาอวด 6 เดือนก็ต้องตั้งวงสนทนาว่าอะไรเป็นอะไร ฉะนั้นเรื่องนี้กรุณาอย่าใช้วันเวลามาขีดวง สื่อต่างประเทศสนใจประเทศไทยจริงๆ ผู้สื่อข่าวไทยไม่สนใจประเทศอื่นเลยประหลาดจริงๆ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า อนาคตขี้เหร่พร้อมจะศัลยกรรมหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า อสัญกรรมต้องใช้กับคนระดับสมเด็จเจ้าพระยาเท่านั้น ผู้สื่อข่าวแย้งว่าไม่ใช่อสัญกรรม นายสมัครหัวเราะร่วนพร้อมกล่าวว่า “โอ๊ยโทษที ผมนึกว่าอสัญกรรม”