ใครจะคิดว่าแค่ไข่นกกระจอกเทศที่สมัยก่อน ไม่มีใครเห็นคุณค่า มุ่งใช้ประโยชน์จากเนื้อของนกกระจอกเทศเท่านั้น แต่กลับมีผู้ประกอบการที่เคยคลุกคลีอยู่ในวงการจิวเวอรี่ ได้เล็งเห็นถึงช่องทางธุรกิจ หากได้รับการออกแบบ ให้ดูทันสมัย เจาะกลุ่มลูกค้าไฮโซ พร้อมเพิ่มประโยชน์ใช้สอย ก็สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน และมีรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัวได้
ปทิตตา ชุมพล เจ้าของธุรกิจไข่วิจิตร แบรนด์ชุมพล คอลเลคชั่น เล่าว่า ตนเองและสามีได้ดำเนินธุรกิจนี้มาได้ประมาณ 12 ปี แล้ว แต่ในช่วงเริ่มต้นรูปแบบยังเป็นแบบธรรมดา ใช้วิธีการเพ้นท์ทั่วๆ และใช้ไข่ใบเดียวมาทำเป็นกระเป๋า แต่เมื่อผลิตไปได้ระยะหนึ่งก็เริ่มมีคู่แข่งขึ้นมาบ้าง และรูปแบบก็ไม่ได้มีการพัฒนามากนัก เพราะขนาดไข่ของนกกระจอกเทศที่มีขนาดจำกัด ทำให้คิดที่จะปรับปรุงรูปแบบขึ้น จึงได้นำความรู้และประสบการณ์จากร้านจิวเวอรี่ ที่ตนเองเคยทำงานด้านควบคุมสต๊อก และฝ่ายจัดซื้อ มาให้เกิดประโยชน์ ซึ่งได้ปรึกษากับสามี (นายพรศรชัย ชนะเลิศกุญชร) ที่มีฝีมือในงานจิวเวอรี่ โดยได้มีการนำหนัง และโลหะ มาประดับตกแต่ง พร้อมได้นำวิธีการยืดไข่มาใช้ คือ การนำไข่มีผ่าครึ่ง และเชื่อมด้วยพีวีซี เพื่อทำให้ได้กระเป๋าไข่นกกระจอกเทศที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
“เป็นความบังเอิญที่เพื่อนของน้องชายที่กลับมาจากประเทศออสเตรเลีย และได้นำไข่นกกระจอกเทศมาให้ นำงานจิวเวอรี่มาตกแต่ง ซึ่งในช่วงนั้นในไทยยังไม่มีใครนำไข่นกกระจอกเทศมาทำเป็นกระเป๋า ในขณะที่ออสเตรเลีย เป็นที่นิยมมาก ทำให้ตรงจุดนั้นเป็นการเริ่มต้นที่จะนำงานจิวเวอรี่มาผลิตร่วมกัน ทำให้สินค้ามียอดขายเพิ่มขึ้น แม้ว่าในช่วงแรกยังต้องมีการนำเข้าเปลือกไข่นกกระจอกเทศมาในราคาใบละ 500 บาทก็ตาม”
หลังจากที่ผลิตภัณฑ์จากไข่นกกระจอกเทศได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภค นายพรศรชัย จึงคิดที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์จากสารพัดไข่อย่างจริงจัง ด้วยการนำไข่ทุกๆ ขนาดทั้งนกพันธุ์จากต่างประเทศ หรือในไทยมาประยุกต์เป็นข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ โดยเฉพาะกระเป๋า และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ซึ่งเป็นที่นิยมมากในกลุ่มไฮโซ และกลุ่มคนระดับสูงของประเทศ เนื่องจากสินค้ามีราคาค่อนข้างสูง จากวัตถุดิบที่ใช้แต่ของที่มีคุณภาพ อย่าง การใช้หนังและเงินแท้ มาเป็นส่วนประกอบหลัก รวมถึงสินค้าทุกชิ้นยังเป็นงานแฮนด์เมด ที่คัดเลือกแรงงานที่มีฝีมือมาผลิตให้ทั้งสิ้น
“การออกแบบ สามีจะเป็นผู้ออกแบบเองทั้งหมด ดังนั้นรูปแบบจะไม่ซ้ำใคร เพราะที่ผ่านมามีผู้ประกอบการที่ได้นำไข่นกระจอกเทศมาทำเป็นงานกระเป๋าบ้าง แต่จะเป็นงานเพ้นท์ซะส่วนใหญ่ ยังไม่มีการนำงานจิวเวอรี่ หรืองานหนัง มาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ ส่วนการนำไปใช้งานลูกค้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความทนทานของงานไข่ เพราะจากกรรมวิธีการผลิต เราจะเคลือบเปลือกไข่ (ภายใน) ด้วยไฟเบอร์ ทำให้กระเป๋าจากบรรดาไข่มีความคงทาน ตกไม่แตก ส่งผลให้อายุการใช้งานยาวนาน”
ทั้งนี้ขั้นตอนการออกแบบ ทางชุมพล คอลเลคชั่น จะคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานให้มากที่สุด โดยแบ่งเป็นกระเป๋า สำหรับออกงาน และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เช่น กาน้ำชาที่สามารถเทได้ 2 ด้าน รวมถึงของตั้งโชว์ที่เป็นศิริมงคล เช่น พระบูชา ที่บรรจุอยู่ในไข่ สามารถเปิดชมได้ทั้ง 4 ด้าน เป็นต้น โดยราคาจะขึ้นอยู่กับชนิดของไข่ที่นำมาใช้ในการผลิต คือ กระเป๋าไข่ห่าน ราคา 200-5,000 บาท ไข่นกอีมูและนกรี ราคา 3,500-6,500 บาท ส่วนกระเป๋าไข่นกกระจอกเทศราคา 5,000-15,000 บาท ซึ่งกระเป๋าจากไข่เหล่านี้จะเป็นที่นิยมมาก
“เมื่อเราเริ่มมีออเดอร์มากขึ้น ทำให้ต้องใช้เงินเพื่อกักตุนวัตถุดิบ เราจึงคิดขอสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) ที่เพื่อนแนะนำและเคยเป็นลูกค้ามาก่อนในวงเงิน 5 แสนบาท โดยได้นำสร้างบ่อชุบเครื่องเงินเอง เพื่อลดต้นทุนการผลิต หลังจากที่ได้รับออเดอร์ใหญ่จากทีวีไดเรค ที่สั่งให้ผลิต 1,000 ชุด ส่งผลให้เราไม่พลาดโอกาสในการรับออเดอร์”
สำหรับการทำตลาดส่งออก ทางชุมพล คอลเลคชั่น ไม่ได้ทำตลาดเอง เนื่องจากเป็นความตั้งใจแรกที่ต้องการเป็นผู้ผลิตอย่างเดียวเท่านั้น โดยให้ผู้ที่รับซื้อไปขายต่อติดแบรนด์ของตัวเอง ติดแบรนด์ได้แต่มีคนไทยในต่างประเทศซึ่งขณะนี้มีคนไทยในประเทศ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ที่มีหน้าร้านจำหน่ายสินค้าไปเปิดตลาดให้ ส่วนในประเทศ มีการวางจำหน่ายที่ ห้างดิโอลด์สยาม, เซ็นทรัลเวิร์ล และ ซีคอนสแควร์ เป็นต้น
***สนใจติดต่อ 08-1702-3662, 08-9206-1321, 034-297-656 หรือที่ www.chumpolcollection.com***