“อภิสิทธิ์” หนุนรัฐบาลผลักดันเมกะโปรเจกต์ แต่ต้องคุ้มค่า-ไร้คอร์รัปชัน แนะ “หมัก” รับฟังทุกฝ่าย-เลี่ยงสร้างปัญหาการเผชิญหน้า ปฏิเสธตั้ง ครม.เงาไม่ใช่เสียดสีรัฐบาล ยันจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์
วันนี้ (5 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศผลักดันโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) หลายโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศว่า การะตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นสิ่งสำคัญ การจะมีโครงการขนาดใหญ่หรือโครงการที่มีเงินลงไปถึงระดับชุมชนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ขอให้รัฐบาลประเมินความคุ้มค่าและระมัดระวังว่าทุกโครงการต้องเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ซึ่งตรงนี้เราต้องรอฟังรายละเอียดจากรัฐบาลก่อน เพราะขณะนี้ยังเป็นเพียงกระแสข่าว ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีไม่ใช่การกระตุ้นที่เพียงเอาเงินลงไปแล้วมันหายไป ไม่มีคุณค่า ไม่มีประโยชน์ในระยะยาว หรือสร้างภาระในระยะยาว เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐบาลจะกระตุ้นด้วย 2 วิธีดังกล่าว เราไม่ขัดข้องแต่ขอให้ดูความคุ้มค่าของทุกโครงการแล้วให้มีความยั่งยืน นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะต้องนำปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตมาทบทวนว่า อย่าให้มีลักษณะของการบริหารจัดการที่ทำให้เกิดความฟุ่มเฟือยแล้วไม่ยั่งยืน และต้องไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอย่าคิดกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น เพราะยังมีปัญหาอื่นๆ โดยเฉพาะปัญหาระยะยาว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลก่อน ทั้งนี้ โดยมารยาทเราต้องให้โอกาสเขาในการแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะทำอะไรอย่างไรบ้าง แต่เราอาจตั้งประเด็นปัญหาสำคัญๆ ไว้ในช่วงแรก และเมื่อเขาแถลงนโยบายแล้วเราก็จะมีข้อเสนอให้
เมื่อถามว่าภาคประชาชนมีความไม่สบายใจต่อนโยบายของรัฐบาลใหม่ในเรื่องน้ำ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องให้มีความชัดเจนจากรัฐบาลออกมาก่อน แต่การเพิ่มพื้นที่ชลประทานและการทำให้ประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรสามารถมีแหล่งน้ำใช้เป็นสิ่งจำเป็น แต่รูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด คือ อย่าคิดโครงการใหญ่ แต่ให้คิดโครงการขนาดกลางและขนาดย่อยให้มากแล้วเชื่อมโยงกันซึ่งนี่จะเป็นหัวใจ เมื่อถามต่อว่าดูเหมือนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เริ่มแสดงอารมณ์ไม่พอใจต่อเสียงต่อต้านจากกลุ่มเอ็นจีโอ โดยพูดว่า“เอ็นจีโอไม่ใช่พ่อ” นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากฝากให้นายกฯ รับฟังทุกฝ่าย แม้อำนาจตัดสินจะเป็นของนายกฯ ตนอยากให้บรรยากาศบ้านเมืองเย็นลง ดังนั้น อยากให้หลีกเลี่ยงอะไรที่นำไปสู่การเผชิญหน้ากัน เพื่องานของรัฐบาลจะได้ประสบความสำเร็จ
ต่อข้อถามถึงผลสำรวจที่ระบุว่าประชาชนไม่เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ในบ้านเมือง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในทุกปัญหา รัฐบาลและนายกฯ ต้องพิสูจน์ตัวเอง ส่วนความเชื่อก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้าคนเชื่อ ถือเป็นแรงกดดัน แต่ถ้าไม่เชื่อก็เป็นเรื่องท้าทาย
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ทุกพรรคพูดไว้ว่าจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่าทางที่ดีที่สุด คือ ทำอย่างไรให้ทุกพรรคทำงานร่วมกันในเรื่องนี้ เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
เมื่อถามถึงการจัดวาง ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงต้องรอดูเรื่องการวางจำนวนบุคคลของตัว ครม. แต่ส่วนใหญ่เตรียมไว้หมดแล้ว ซึ่งเรื่องของจำนวนนั้นอาจจะมีความแตกต่างจาก ครม.จริงไม่มาก เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เมื่อถามต่อว่าพรรคพลังประชาชนวิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำเรื่องนี้เพื่อเสียดสีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ ทำไมเขาจึงคิดอย่างนั้น แปลว่าประเทศอังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นเขาเสียดสีกันมาเป็นศตวรรษหรือ ตนอยากมองตามความเป็นจริงและมองเจตนาที่ดีกันบ้าง ตนยังตั้งต้นของการเป็นฝ่ายค้านด้วยการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ทำไมรัฐบาลจึงมองฝ่ายค้านอย่างไม่สร้างสรรค์ ซึ่งรัฐบาลน่าจะทำบรรยากาศที่ดีได้ ทำไมนายกฯ และพรรคพลังประชาชนจึงมากล่าวหาฝ่ายค้านในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ใจเย็นๆ กันดีกว่า เราอยู่ด้วยกันในสภาฯ และต้องการประคับประคองการเมืองให้เดินไปข้างหน้า จึงขอให้ทำงานด้วยกันอย่างสร้างสรรค์ดีกว่า
