“เติ้ง” ชี้ “คมช.-ขิงแก่” ปิดฉากเหมาะสมแล้ว อ้างยังไม่รู้ได้รับโควตามากี่กระทรวง แต่ย้ำต้องใช้โควตา 5 ต่อ 1 ไม่ใช่ 9 ต่อ 1 เหมือนที่ “เลี้ยบ” ว่า เชื่อได้ ครม.ชุดใหม่หลังตรุษจีน “จองชัย” ปัดข่าวแย่งเก้าอี้ กับ “ประพัฒน์” ระบุแล้วแต่หัวหน้าพรรคจะเมตตา
คลิกที่นี่เพื่อฟังเสียง "เติ้ง" ย้ำต้องใช้โควตา 5 ต่อ 1 เชื่อได้ ครม.ชุดใหม่หลังตรุษจีน
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่พรรคชาติไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ประกาศยุติบทบาทถือว่าเป็นเวลาเหมาะสมหรือไม่ ว่า น่าจะเป็นเวลาที่พอสมควร เพราะตอนนี้เปิดรัฐสภาและเลือกประธานสภา และรองประธานสภาเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะมีการเลือกนายกฯและตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งไม่ใช่แต่ คมช.แม้แต่รัฐบาลก็ประกาศว่ามีการประชุม ครม.นัดสุดท้ายแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงการลงมติเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคร่วมรัฐบาลมีแตกไปลงให้ฝ่ายค้าน นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะมีการลงคะแนนลับ ตอบไม่ได้ แต่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ละคน อย่าไปคิดอะไรมากเลย เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่าเสียงเหล่านั้นเป็นของนายบรรหารด้วยหนึ่งเสียง นายบรรหาร หัวเราะ พร้อมกับกล่าวว่า คิดเอาเองก็แล้วกัน เมื่อถามว่า ทำไมจึงถูกพุ่งเป้ามาที่ตัวนายบรรหาร หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ไม่รู้ตอบไม่ถูก ตนตอบไม่ได้ เมื่อถามว่าพรรคพลังประชาชน ระบุว่า เป็นการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่รู้ ตนไม่ตอบ ไม่มีความเห็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า คมช.มีการกำหนดสเปก รมว.กลาโหม ว่า น่าจะเป็นทหารและไม่สังกัดพรรคการเมือง นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นความเห็นของ คมช.ว่า รมว.กลาโหม ควรจะเป็นทหาร ส่วนจะเป็นทหารนอกราชการ หรือในราชการยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่จะเลือกใครก็เป็นสิทธิ์ ใครเป็นนายกฯมีสิทธิ์เลือกใครก็ได้ เมื่อถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน จะนั่งควบ รมว.กลาโหม ด้วย นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น
เมื่อถามว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ระบุว่า ครม.เริ่มลงตัวแล้วใช้สูตร 9 ต่อ 1 พรรคชาติไทยได้รับทราบเรื่องสัดส่วนบ้างหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ยังต้องมีการเสนอชื่อคนเป็นนายกฯก่อน และเมื่อได้ตัวนายกฯจึงค่อยมาดูกันว่าพรรคไหนจะได้กี่ที่นั่งอะไรบ้าง ตอนนี้ยังไม่มี ยังไม่ได้คุยกัน ทางพรรคชาติไทยก็ยังไม่รู้ว่าได้นั่งกระทรวงใดบ้าง
เมื่อถามว่า พรรคชาติไทย แจ้งความจำนงไปหรือไม่ว่าต้องการดูแลกระทรวงด้านใดบ้าง เช่น สังคม การศึกษา นายบรรหาร กล่าวว่า เขายังไม่ได้บอกเรามา เราก็ยังไม่ได้แจ้ง เพราะเมื่อมีตัวนายกฯแล้ว เราก็ต้องบอกเขาไปว่าจะเอาอะไรบ้าง แล้วก็ดูอัตราส่วน อาจจะ 5 ต่อ 1 หรือ 6 ต่อ 1 ส่วนพรรคชาติไทยจะได้กระทรวงใดบ้าง เมื่อถึงเวลาค่อยว่ากันอีกครั้ง และเมื่อแต่ละพรรคทราบว่าจะได้ดูแลกระทรวงใดบ้างค่อยเสนอชื่อตัวบุคคลเข้าไป
“ต้องรู้ก่อนว่าเขาให้เรากี่ตำแหน่งแล้วเราค่อยขอไปว่าจะมีกระทรวงใดบ้าง แล้วจะชนกับพรรคอื่นบ้างหรือเปล่า ถ้าชนก็ต้องหารือกันก่อนว่าจะพอหลีกกันได้หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำเป็นผู้จัดว่าเป็นอย่างไร ต้องถามแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลก่อนว่าพรรคไหนต้องการอะไร ถ้าความต้องการตรงกันก็ต้องค่อยๆ คุยกันว่าขอให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ได้หรือไม่ ต้องเกี้ยเซี้ยะกัน ยังมีเวลา ที่สำคัญคือ ต้องมีนายกฯก่อน แต่ในใจผมไม่ได้คิดว่าจะไปดูกระทรวงไหน เพราะทำงานได้ทุกกระทรวง ให้กระทรวงอะไรก็ทำได้หมด ส่วนจะได้กระทรวงที่ถนัดหรือไม่ค่อยว่าอีกที ยังตอบไม่ได้ สำหรับข่าวที่ลงชื่อว่าคนในพรรคได้นั่งกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ ผิดหมดถ้าเกิดไปลงชื่อแล้วถ้าเกิดเขาไม่ได้เป็นเขาก็จะเสียใจแย่” นายบรรหาร กล่าว
เมื่อถามว่า แล้วจะปลอบใจคนที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ตนจัดรัฐบาลมาหลายหนแล้ว คงไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามมีข่าวว่า จะประชุม ครม.นัดแรกในวันที่ 29 ม.ค.นี้ทันหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อโปรดเกล้าฯประธานสภาแล้ว ประธานสภาต้องเรียกประชุมเพื่อคัดเลือกตัวนายกฯ จากนั้นนายกฯจึงฟอร์มคณะรัฐมนตรี เมื่อฟอร์มเสร็จจึงเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน จากนั้นจึงจะมีการประชุม ครม.นัดแรก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหลังตรุษจีน ยังมีเวลาไปตรุษจีนกันก่อนก็ทัน ซึ่งในวันที่ 7 ก.พ.นี้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรีก็จัดงานตรุษจีนเช่นกัน และตนก็จะเดินทางไปร่วมงานด้วย
ด้าน นายจองชัย เที่ยงธรรม รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวปฏิเสธข่าวความขัดแย้งกับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ในตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า ตนไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับนายประภัตร ซึ่งเราก็อยู่จังหวัดเดียวกัน ยืนยันว่า พรรคชาติไทยไม่มีกลุ่มหรือตั้งกลุ่มเพื่อที่จะต่อรองตำแหน่งใดๆอยู่ที่การตัดสินใจของหัวหน้าพรรค และการได้เป็นรัฐมนตรี 2 ครั้งที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคชาติไทยก็ให้ความเมตตา ตนไม่เคยต่อล้อต่อเถียงเพื่อต่อรองตำแหน่ง และระมัดระวังไม่อยากให้หัวหน้าเกิดความไม่สบายใจ ไม่เช่นนั้นท่านจะเครียด จึงขอความเป็นธรรมให้ท่านด้วย แต่ก็ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับสมาชิกในพรรค ซึ่งเป็นเพียงการรับประทานอาหารร่วมกัน และไม่ใช่เฉพาะส.ส.ในพรรค ส.ส.พรรคอื่นก็ได้มาร่วมรับประทานอาหารและพูดคุยกันอยู่บ่อยครั้ง มีแต่ตั้งคำถามว่าทำไมพรรคเราได้น้อยและคุยว่าจะพัฒนาพรรคกันอย่างไร
เมื่อถามว่า มีรายชื่อว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล นายจองชัย กล่าวว่า ก็แล้วแต่หัวหน้าพรรคชาติไทยจะตัดสินใจถ้าได้ก็ถือว่าเป็นโชควาสนา ยืนยันว่า ตนไม่เคยไปต่อรองในเรื่องตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น
/0110