“เหลิม” เชื่อ “หมัก” เป็นนายกฯแน่ไม่การันตีโหวตเสียงแตก

“เหลิม” เชื่อโหวตเลือก “หมัก” เป็นนายกฯไร้ปัญหา แม้ไม่กล้าการันตีว่าไม่มีแตกแถวร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำเขินมีลุ้นเก้าอี้ ยุติธรรม-มท.1 ส่วน ชาติไทย-รวมใจไทยฯ ยันไม่แหกโผ

วันนี้ (22 ม.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการลงคะแนนเลือกประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มี ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนลงคะแนนให้ผู้ชิงตำแหน่งจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย ให้เสียงเขาไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ภาพรวมใช้ได้ ก็ถือว่าปกติ

เมื่อถามว่า จะมั่นใจได้อย่างไรในการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวยืนยันว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกฯไม่มีปัญหา ส่วนคะแนนเสียงจะแตกหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่คะแนนเสียงเราต้องชนะ ชื่อก็บอกว่าพรรคพลังประชาชนก็ต้องใจกว้าง การโหวตมีแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะถูกใจกันทั้งหมด และเรายังมีพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งแนวคิดของพรรคร่วมรัฐบาลต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป ตนไม่ซีเรียส อย่าไปตกใจ เพราะระบอบประชาธิปไตย ถ้ามีเอกภาพมากนัก ก็ไม่ดี แต่ถ้ามีพอดี จะอยู่ได้นาน

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะได้รับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม แทน รมว.มหาดไทย นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่ทราบตนจะได้อยู่ที่ไหน เพราะผู้บริหารพรรคยังไม่ได้พิจารณา จะไปเลือกเองไม่ได้ อยู่ที่พรรคจะพิจารณา ตนไม่เกี่ยง ทำได้ทุกตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีก็มีคณะทำงานจัดการอยู่ และคงมีการจัดตั้งภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯนายกฯแล้ว เมื่อถามว่า ยังอยากได้เป็น รมว.มหาดไทย อยู่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า ไม่บอก

ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่า ถ้า ร.ต.อ.เฉลิม เป็น รมว.ยุติธรรม จะมีการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนขออธิบายว่าคนที่มองว่ากระทรวงยุติธรรมหรือกระทรวงมหาดไทยจะไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเป็นการเข้าใจผิด เพราะสำนักงานศาลยุติธรรมได้แยกเป็นอิสระ ทำให้ รมว.ยุติธรรม ไม่มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ กับสถาบันศาล ขณะที่สถาบันอัยการนั้นตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็มีความเป็นอิสระเหมือนศาล ดังนั้น คนที่บอกว่ารัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซง หรือเปลี่ยนแปลงแนวทางสำนวนการสอบสวนเป็นกรพูดที่ขาดความเข้าใจ หรือบางคนเข้าใจแต่แกล้งพูดให้รัฐบาลใหม่เสียหาย เพระในความเป็นจริง ทำไม่ได้

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนหาเสียงโดยประกาศจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาต่อสู้คดีในไทย ทำให้ประชาชนรู้สึกว่ากำลังเข้าไปล้างภาพให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ที่บอกว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมานั้น ตนเป็นคนพูดปราศรัยเอง และตนบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ทำผิดอะไร ข้อกล่าวหาก็ว่าไป แต่ที่ยังไม่กลับเพราะไม่ปลอดภัย เนื่องจากระหว่างเป็นนายกฯยังถูกลอบสังหาร 5 ครั้ง แต่คนก็กล่าวหาว่าสร้างเรื่อง วันนี้คดีความเข้สู่ศาลแล้ว โดยอัยการสั่งฟ้องผู้กระทำผิด ดังนั้นต้องแยกการแทรกแซงองค์กรอิสระเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม เพราะในความเป็นจริง ทำไม่ได้ ตนยืนยันได้ว่ารัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของใคร หนึ่งล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่มีหรอก

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิก คตส.หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จะยกเลิกไม่ได้ เพราะคดีความยังมีอยู่ ใครจะปัญญาทึบขนาดนั้นถึงแม้คตส.ทั้ง 9 คน กลั้นใจตายพร้อมกันคดีความก็ยังอยู่ ดังนั้น อย่าไปฟังพวกที่ไม่เข้าใจแล้วออกมาวิจารณ์

ส่วนเรื่องรัฐบาลจะแก้แค้น คมช.ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีใครไปแก้แค้นทำลายหรอก เชื่อตนเถอะทุกอย่างจบ วันนี้ทหารเข้าใจ และรู้หมดแล้วว่าไม่มีใครไปแก้แค้น หรืออาฆาตมาดร้าย เลิกกันไป ร่วมกันทำงาน

ด้าน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวภายหลังการปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานและรองประธานสภา ถึงกรณีการจะลงมติเลือกนาย สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า 9 เสียงของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาไม่แตกแน่นอน เพราะเป็นพรรคการเมืองแรกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมรัฐบาล และตอบรับเข้าร่วม ดังนั้น จึงไม่มีปัญหา พรรคเรามีจำนวน ส.ส.ไม่มาก และตนลงมากำกับด้วยตัวเอง

ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวยืนยันว่า ตนจะลงตามมติที่ได้เคยให้ไว้กับทุกคน ทั้ง 35 คน ไม่มีแหกโผอะไรทั้งสิ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยจำเป็นต้องมีการประชุม เพื่อสอบถามความเห็นก่อนโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า พรรคชาติไทย ยืนยันว่า ต้องเป็นไปตามข้อตกลง ที่ให้ไว้กับพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา

ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติโหวตให้ นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ พ.อ.อภินันท์ พิริยะชัย เป็นรองประธานคนที่ 1 และ 2 ว่า เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างนั้นก็ต้องยอมรับ ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่บทบาทของแต่ละท่าน ว่าเมื่อรับตำแหน่งอะไรแล้ว ได้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญตามข้อบังคับก็ไม่มีปัญหา ส่วนที่ นายยงยุทธ ยังมีคดี อยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของการซื้อเสียงเลือกตั้งนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากก็ต้องว่ากันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำงานของพรรคในฐานะฝ่ายค้านคิดว่าจะมีอุปสรรคเพิ่มขึ้นหรือไม่ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามหัวหน้าพรรค เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเป็นห่วงการปฎิบัติหน้าของประธานและรองประธานสภา จะมีปัญหาหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ยังไม่ได้เริ่มต้นทำงาน ต้องรอให้เริ่มต้นก่อน

/0110