xs
xsm
sm
md
lg

6 พรรคสลอนอ้างชอบธรรมตั้งรัฐบาล “หมัก” ฉุนถูกซักโหวตนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


6 พรรคนั่งสลอนแถลงตั้งรัฐบาล 315 เสียง อ้างความชอบธรรม-สมานฉันท์-แก้วิกฤต “หมัก” ฉุนสื่อถามกวนใจเรื่องโหวตเป็นนายกฯ ตอกกวนประสาท ขณะที่ “เติ้ง” หลบลงรูปลาไหลผวา “ชูวิทย์” รอฉีกหน้ากลางวงส่ง “เสธ.หนั่น” รับหน้าแทน

คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง 6 พรรคฯ ร่วมแถลงข่าว

วันนี้ (19 ม.ค.) ที่โรงแรมสุโขทัย เวลา 14.10 น. บรรดา แกนนำทั้ง 6 พรรคอันประกอบด้วย นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยในฐานะตัวแทนนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าว ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว รวมทั้งมีสมาชิกพรรคคนสำคัญจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพรรคพลังประชาชนจนเต็มห้องแถลงข่าว

โดยก่อนเริ่มแถลงข่าวตั้งรัฐบาล นายสมัครได้เป็นผู้ดำเนินรายการ ทำหน้าที่เป็นคนจัดสรรเวลาให้หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคได้แถลงคนละไม่เกิน 2 นาที และเรียงตามลำดับอาวุโส หลังจากเกริ่นนำด้วยการขอบคุณทุกฝ่าย โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ระบุว่าจัดการเลือกตั้งด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าแต่ละพรรคจะได้ใบเหลืองใบแดง ซึ่งแต่ละพรรคต้องทำใจต้องว่ากันไปทีหลัง และมีการรับรองจนได้เสียง ส.ส.ครบ 95 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เปิดสภาได้

นายสมัครยังกล่าวขอบคุณพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ทำให้การเมืองเดินไปได้ และทำให้เกิดรัฐบาล 315 เสียงซึ่งถือว่ามีความมั่นคงแข็งแรง

จากนั้น นายเสนาะ กล่าวว่า การร่วมรัฐบาลเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เนื่องจากบอบช้ำมามากพอแล้ว ส่วนรัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค และเห็นว่าพรรคพลังประชาชนมีความชอบธรรมในการตั้งรัฐบาล เพราะมีเสียงมากที่สุด ไม่ใช่มาบล็อกกัน

พล.ต.สนั่น กล่าวเป็นคนต่อมาว่า มาในฐานะตัวแทนของหัวหน้าพรรคชาติไทย และเหตุผลในการร่วมรัฐบาลทางหัวหน้าพรรคก็ได้แถลงไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นการมาในวันนี้เพื่อยืนยันในการเข้าร่วมรัฐบาล

พล.อ.เชษฐา กล่าวย้ำถึงความชอบธรรมที่พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เพราะได้รับการเลือกตั้งเข้มามากที่สุด ซึ่งพรรครวมใจไทยฯได้ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลมานานแล้ว

นายสุวิทย์ ให้เหตุผลในเรื่องความสมานฉันท์ เพื่อแก้ปัญหาชาติให้เดินไปข้างหน้าและกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมแสดงความดีใจที่ได้รับเชิญเข้าร่วมรัฐบาล

ส่วน นางอนงค์วรรณ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน และเห็นว่ามีความชอบธรรมที่จะตั้งรัฐบาล เพราะเป็นพรรคที่ประชาชนเลือกเข้ามามากที่สุด

จากนั้น นายสมัครได้แถลงอีกครั้งโดยตอบคำถามผู้สื่อข่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำถามเกี่ยวกับความมั่นใจที่จะได้รับการเสนอเป็นนายกฯในสภาหรือไม่ ซึ่งนายสมัคร ได้กล่าวแบบเก็บอารมณ์โกรธ โดยพยายามเลี่ยงตอบคำถาม และไม่ตอบโต้ผู้สื่อข่าว แต่เมื่อถูกถามย้ำหลายครั้งก็กล่าวว่า เป็นคำมั่นแล้วว่าทุกพรรคสนับสนุนหัวหน้าพรรคที่ได้รับเสียงมากที่สุดในการเป็นผู้นำรัฐบาล

“จะไปถาม ถ้านั่นถ้านี่อะไรอีก เป็นคำถามที่ไม่สมควรถาม ผมไม่ตอบเดี๋ยวมีเรื่องอีก เป็นคำถามกวนประสาท” นายสมัคร กล่าวกับผู้สื่อข่าวตอนหนึ่ง อย่างไรก็ดี เขาตั้งความหวังว่ารัฐบาลผสม 6 พรรคจะอยู่ได้นานที่สุด มีการปรึกษาหารือกัน ถ้าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หลายหลายนินทากัน คงต้องมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ไม่ใช่ต่อไปแยกย้ายกันไป

เป็นที่น่าสังเกตว่า นายบรรหารไม่ได้มาร่วมแถลงครั้งนี้อาจมาจากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้มาเช่าห้องของโรงแรมเพื่อรอแถลงข่าวในเวลา 15 .00 น. และประกาศว่าจะแฉ นายบรรหาร อีกรอบหลังจากบุกไปที่พรรคชาติไทยเปิดโปงมาแล้วเมื่อบ่ายวานนี้ (18 ม.ค.) โดยนำเมนูปลาไหลมารับประทานประชดด้วย

นอกจากนี้ ระหว่างการแถลงข่าว นายสมัครยังได้กล่าวชม นพ.สุรพงษ์ ซึ่งในอดีตสมัยเหตุการณ์เดือนตุลาคมถือว่าอยู่คนละขั้วเป็นลักษณะขวากับซ้ายอย่างชัดเจน

อ่านรายละเอียดคำแถลง

นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน
“ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานกับเราวันนี้ เมื่อตะกี้ผมได้แสดงความขอบพระคุณทุกท่านมาร่วมกับผมข้างในแล้ว อยากจะบอกแต่เพียงว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ดูเหมือนจะใช้ระยะเวลายาวนาน แต่ถ้าหากเราถือกฎกติกาซึ่งเรากำหนดขึ้นให้ทันสมัยกับชาวโลกเขา ก็คือ มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งนี่แหละครับ ก็เป็นกรรมการซึ่งผมเชื่อว่า ทุกคน ทุกฝ่าย พอใจที่จะมีท่านมากกว่าไม่มีเหมือนแต่ก่อน งานแบบนี้ถ้าเมื่อก่อนนี้ 3 วันก็ตั้งรัฐบาลกันแล้ว แล้วก็ไปฟ้องร้องศาลเอา แต่การที่ดำเนินการอย่างนี้ก็เหมือนกระบวนการที่ชาวโลกเขาทำกัน วันใดที่เลือกตั้งเสร็จ คณะกรรมการได้ทำหน้าทำตาให้ประเทศไทยไปแล้ว คือ การเลือกตั้งที่เรียบร้อย แล้วการจะมาตรวจ มาสอยกันนั้น

ต้องขอเรียนว่า ทุกคนคงจะต้องทำใจ ใครโดนเข้าก็รู้สึกชอกช้ำ ใครไม่โดนก็สบายใจกันดี ทั้งหมดจะได้เห็นเลยครับว่า บางที บางจุด หัวหน้าพรรคแสดงอะไรไม่ได้เลย เพราะเกรงใจกรรมการ แต่ผู้ที่อยู่ท้องถิ่นหมื่นๆ ท่าน แสดงอะไรออกมา ผมก็เกรงใจกรรมการท่าน แต่อย่างพรรคชาติไทยท่านบอก ท่านประท้วงเองเลย ผู้ที่โดนใบแดงประท้วงเอง กางมุ้งท้วงเลย จะได้เห็นเลยว่าความรู้สึกคนที่โดนเป็นอย่างนั้น แต่เราก็กล้ำกลืนจนจบ เรียบร้อยนะครับ ขอขอบคุณคณะกรรมการเลือกตั้งที่ทำให้วิธีการได้เสร็จสิ้นตามที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็คือว่า ท่านประกาศเรียบร้อย 95 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์จะทำพิธีเปิด หลังจากนั้นจะเป็นพิธีเลือกประธาน เลือกนายกรัฐมนตรี

การเจรจาความทั้งหมด ผมได้ขอบคุณ แล้วจะเล่าให้ฟังหน่อยว่า ทั้ง 2 พรรคที่แถลงสุดท้ายนั้น ที่เหตุผลของท่านบอกว่า เพื่อให้การเมืองไม่ไปตรงจุดอับ ได้มีที่หายใจกัน เดินหน้า และให้การเมืองเข้าสู่ปกติ ก็เป็นอันว่า การเมืองได้เริ่มต้น ก็ทั้ง 2 พรรคการเมืองได้ตัดสินใจ การตัดสินใจของพรรคการเมืองทั้ง 2 นั้นมีความหมายอย่างยิ่ง ที่จะทำให้คณะบริหารที่จะตั้งขึ้นมานั้น 315 เสียงนั้น โดยประมาณ มีความแข็งแรงพอที่จะมีอายุยืนยาวอยู่ ช่วยแก้ไขสถานการณ์ของบ้านเมือง รายละเอียดของความรู้สึกต่างๆ ที่ท่านได้รวมใจกันแล้ว บัดนี้ก็ 3 นาทีแล้ว ผมจะขอพูดเท่านี้ แล้วผมจะพูดเป็นคนสุดท้าย ขออนุญาตตรงนี้ อย่านับจำนวนสมาชิก นับอาวุโส ใครอายุมากได้พูดก่อน เชิญท่านหัวหน้าพรรคประชาราช

นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช
“ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพครับ สื่อมวลชนที่รักทั้งหลาย ผมคิดว่าการเมืองของเราวันนี้ที่เรามานั่งบนนี้ ถือว่าเป็นผู้อาสาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วคุ้นหน้าคุ้นตา และผ่านการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองมายาวนาน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สำคัญอย่างยิ่ง บ้านเมืองวิกฤตมามากพอสมควรแล้ว เพราะฉะนั้นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มีจิตใจที่แน่วแน่ในฐานะที่เป็นผู้อาสา ในการจะมาดูแลบ้านเมือง ผมคิดว่า บ้านเมืองของเรานั้นถ้าหากว่าไม่ได้รับการแก้ไขโดยด่วน หรือถ้าแก้ไขไม่ถูกจุด บ้านเมืองเราไปไม่ได้ วิกฤตต่างๆ นั้นได้บีบคั้นประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราล้มลุกคุกคลานมาตั้งแต่ลอยค่าเงินบาท ตั้งแต่อะไรต่างๆ แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง เศรษฐกิจข้างหน้านั้น ผมคิดว่า คนที่มานั่งอยู่ข้างบนนี้ ซึ่งเป็นตัวแทนของนักการเมือง เป็นตัวแทนของ ถ้าจะพูดกับผมก็ เหมือนพี่ๆ น้องๆ ลูกหลาน ได้เข้ามาอีกครั้งหนึ่ง

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การบริหารประเทศชาติบ้านเมืองนั้น จะอยู่นานหรือไม่นานนั้นอยู่ที่พวกเรา ถ้าพวกเรามุ่งมั่นแล้วมีจิตใจที่สะอาดหมดจด แล้วมีจิตใจที่จะดำเนินการตามที่เราได้อาสาเข้ามา ผมคิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย และต้องขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ได้ตัดสินใจในการทำอะไรให้มันถูกต้อง ตามกฎตามเกณฑ์ เกิดความชอบธรรม ในเมื่อเราประกาศการเลือกตั้ง มีการเลือกตั้งแล้ว ความชอบธรรมจะต้องเกิดขึ้นตรงนั้น พรรคไหนเป็นพรรคใหญ่ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจมา เราจะต้องให้เกียรติ ไม่ใช่ว่าเราจะไปบล็อกนั่นบล็อกนี่ แล้วจะไปแบล็กนั่นแบล็กนี่ ผลที่สุดใครก็มาแบล็กไม่ได้ บล็อกไม่ได้ ประชาชน เพราะฉะนั้นผมขอพูดแค่นี้ ขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ทุกคน ในการจะมาร่วมงานกันครั้งนี้ครับ”

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย
“ผมได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคชาติไทย ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ท่านได้มอบหมายให้ผมมาร่วมประชุม 6 พรรค ในการจะจัดตั้งรัฐบาล เหตุผลในการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ผมเรียนว่า ท่านหัวหน้าพรรคได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนไปแล้วเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. เหตุผลทั้งหลายก็ตามที่หัวหน้าพรรคชาติไทยได้ชี้แจง เพราะฉะนั้นวันนี้ ผมมาร่วมเพื่อยืนยันว่า จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย ขอบคุณครับ”

พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
“ผมและสมาชิกพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาทุกคน ยึดมั่นอย่างมั่นคงในเรื่องของความชอบธรรม ในเมื่อผลการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ความชอบธรรมจากพี่น้องประชาชนได้เทคะแนนเสียงให้กับพรรคพลังประชาชน ถึง 233 เสียง ในขณะนั้น เราต้องถือความชอบธรรมเป็นหลัก ถ้าเราไม่ยึดความชอบธรรมแล้ว ก็แสดงว่าเราเดินห่างออกจากระบอบประชาธิปไตย ซึ่งผมคิดว่าไม่ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นไม่ว่าพรรคใดก็ตาม ผมขอยืนยัน ถ้าได้คะแนนเสียงสูงสุด พรรคนั้นจะต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลเสียงก่อน ดังที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นผมคิดว่า มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้ตัดสินใจ เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ หลักความชอบธรรม แล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ความชอบธรรมต้องมาก่อน

ประการต่อไป ผมคิดว่า อย่างที่ทุกท่านได้กล่าวมาแล้ว ขณะนี้บ้านเมืองกำลังวิกฤต เพราะฉะนั้นมีทางเดียวเท่านั้นที่จะต้องจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อจะมาแก้ปัญหาวิกฤตของบ้านเมือง ทั้ง 3 ประการใหญ่ๆ ซึ่งทุกท่านทราบดี เพราะฉะนั้นเราจะรอเวลาอีกไม่ได้ นี่เป็นประการสำคัญประการที่ 2 ประการต่อไป ผมขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่านเลย ที่ท่านมีขีดความสามารถสูง ท่านเป็นคนดี และท่านเป็นผู้มีประสบการณ์ ขอร้องว่า ท่านจะต้องเข้ามาร่วมมือร่วมใจกับรัฐบาล เพื่อจะทำให้การแก้ปัญหาลุล่วงไปได้โดยง่าย มันจะได้เป็นความชอบธรรมว่าได้เกิดมาจากผู้ที่ได้กลั่นกรองกันมาอย่างดีแล้ว ผมอยากจะเห็นรัฐบาลในครั้งต่อไป จะต้องเป็นอย่างนั้นครับ ขอขอบคุณครับ”

นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน
“ได้แถลงไปแล้วนะครับว่า พรรคเพื่อแผ่นดินยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องการเห็น คือ ความสมานฉันท์ในบ้านเมือง การเมืองที่กลับมาสู่เสถียรภาพที่ทำให้การแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม การเมือง และบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจของเราให้เดินหน้าต่อไปได้ ถ้าการเมืองมีเสถียรภาพอย่างที่ท่านหัวหน้าสมัครพูด พวกเราร่วมมือกันทำงานคำนึงถึงประเทศชาติ และประชาชนแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจซึ่งเรากำลังได้รับผลกระทบจากทั้งภายนอก และสุญญากาศการเมืองในช่วง 2 -3 เดือนที่ผ่านมา ผมมีความเชื่อมั่นว่าความสมานสามัคคีของพวกเราทุกคนจะทำให้การเมืองของเราเดินหน้าไปได้ด้วยความราบรื่น และทำให้ประเทศชาติของเรากลับคืนสู่สภาวะปกติ และนำเอาความสุขกลับมาให้พี่น่องประชาชน เพราะฉะนั้นตรงมีเป็นความปราถนา และความตั้งใจของพรรคเพื่อแผ่นดินในการตัดสินเข้าร่วมรัฐบาล 6 พรรคในคราวนี้”

นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย
“กราบเรียนหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ท่านตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคที่อยู่บนเวทีนี้ และท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ตลอดจนสื่อมวลชนที่รักทุกคน ในนามของพรรคมัชฌิมาธิปไตย ดิฉันมีความภูมิใจที่ได้มาสนับสนุนพรรคพลังประชาชนในวันนี้ นักการเมืองทุกท่านมีความประสงค์อย่างยิ่งที่จะทำอะไรก็ตามให้ตอบสนองความต้องการ และการแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนในประเทศไทย เช่นเดียวกันพรรคการเมืองทุกพรรคก็ย่อมที่จะต้องการแก้ปัญหา และทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และมีความสุข ดังนี้สิ่งที่ประชาชนได้รอคอยนั้นคือมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และเป็นความชอบธรรมเป็นอย่างยิ่งที่แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นพรรคการเมืองที่นิยมชื่นชอบของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไทย ดังนั้นพรรคมัชฌิมาธิปไตยจึงภูมิใจที่มีส่วนสนับสนุนให้พรรคพลังประชาชน ดำเนินกิจการตามความต้องการของประชาชน โดยการมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ และมัชฌิมาธิปไตยของเรามีสโลแกนอยู่ว่า"สร้างความสุขด้วยเศรษฐกิจพอเพียง" จึงคิดว่ารัฐบาลซึ่งมาจากความต้องการของประชาชน และความนิยมของประชาชนส่วนใหญ่คงจะสร้างความสุขให้กับคนไทยทุกคนด้วยเช่นกัน”

นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน แถลงตอนท้ายอีกครั้ง
“เมื่อกี้เรียนท่านที่เคารพว่าผมได้คุยกันเมื่อตะกี้นี้ ที่นั่งในห้องก็ได้เรียนทั้งหมดมานั่งร่วมกันขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มาร่วมกันที่ทำให้การเมืองมันพ้นจากทางตัน แล้วเรียนสั้นๆ ว่าขอความร่วมมือเพราะเหตุว่าเมื่อรวมกันอย่างนี้ได้แล้ว มันได้ถึง 315 เมื่อรวมกันได้ขนาดนี้ ไม่ควรจะใช้ตัวเลขนี้ คือ อยู่กันพักๆ หนึ่งแล้วแตกแยกกันไปเพื่อไปเลือกตั้งกันใหม่ ขอร้องท่านว่า 315 ควรจะเป็นรัฐบาลที่มีความแข็งแรง การจัดสรรที่นั่งต่างๆ นั้น ยังไม่ได้ทำกันเลยยังไม่มีความต่อรองกันเลย แต่วิธีการของเรา คือ ว่าเมื่อพร้อมใจกันวันนี้รวมใจกันก่อน แล้วก็เปิดสภาฯ แล้วก็เลือกประธานฯ เลือกนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้ว จะมีคณะกรรมการของพรรคพลังประชาชน เพื่อเตรียมเจรจากันทุกพรรค คือ เจรจากันจนทุกคนพอใจได้ทำงานที่อยากได้ทำ เข้าที่เข้าทางเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงจะนำความขึ้นกราบบังคมทูล ทั้งหมด นี้ เข้าใจว่าเมื่อเลือกกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต่างฝ่าย ต่างช่วยกันทำงาน

งานต่อไปข้างหน้า คือว่า ทุกคนจะใช้ประสบการณ์ที่มี จะไปคัดเลือกผู้คนที่สามารถจะช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ผมเรียนทุกท่านแล้วว่าบ้านเมืองก็เสียเวลาไปเยอะ ถ้าตรงนี้เราได้พร้อมใจกันช่วยกันแก้ไข สักพักหนึ่งตั้งแต่ 4 หรือ 3 หรือ 2 หรือ 1สุดแท้แต่ สุดท้ายหลังจากนั้นแล้วก็ ถ้าเห็นพร้อมเพรียงกันแล้วก็จะได้ปรึกษาหารือกันว่าจะตกแต่งแก้ไขสิ่งที่เราควรจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร แล้วจึงค่อยมาเลือกตั้งกันอีกที ตอนนี้ถือว่ามีวิกฤติการณ์สถานการณ์สงบก็มาช่วยกันแก้ไขสถานการณ์จะใช้เวลายาวนานที่สุดเท่าที่จะช่วยกันแก้ไขได้ ขอร้องไว้เท่านั้นเอง ไม่มีการเจรจาอะไรกันลึกลับกันมากไป แล้วก็ไม่มีอะไรอย่างไรอื่น หวังใจว่าทั้งหมดที่มารวมกันอยู่ได้นี้จะช่วยทำให้สถานการณ์การเมืองแก้ไขปัญหา เรา 6 หัว แล้ว และต่างฝ่ายต่างมีประสบการณ์มา และต่างฝ่ายต่างจะหาผู้คนที่จะช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง วิกฤติการณ์ข้างหน้ายังมีอยู่ครับ แต่เมื่อไรตั้งรัฐบาลเสร็จ ผมเชื่อว่าทุกอย่างคงได้ออกเดินหน้ากันต่อไป”

/0110
กำลังโหลดความคิดเห็น