“ขิงแก่” ได้ฤกษ์เปิดบ้านเขายายเที่ยงให้สื่อทัศนา วันอาทิตย์ที่ 20 ม.ค.นี้ ใช้โอกาสช่วงไปเป็นประธานเปิดการแข่งขันเฟสปิกเกมส์ที่โคราช ขณะเดียวกัน ยอมรับ “เกลือเป็นหนอน” เหตุการณ์ป่วนใต้
วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี ถึงกรณีที่เลื่อนนัดเชิญสื่อมวลชนไปชมบ้านพักเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา จากวันที่ 11 ม.ค.ว่า ในวันที่ 20 ม.ค.มีภารกิจเกี่ยวกับเยาวชน ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และในช่วงเย็น จะไปเป็นประธานเปิดการแข่งขันเฟสปิกเกมส์ ที่ จ.นครราชสีมา จึงถือโอกาสเชิญชวนสื่อมวลชนที่สนใจ เดินทางไปด้วยกัน
“เชิญสื่อมวลชนเดินทางไปด้วยกัน ในช่วงเช้าของวันที่ 20 ม.ค.และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นในช่วงบ่าย สื่อมวลชนก็เดินทางกลับ ส่วนผมก็ไปทำงานของผมในส่วนที่เหลือต่อไป ถ้าอยากจะไปก็เชิญ ผมไม่ว่าอะไร เพราะผมต้องไปทำงานบนเขาใหญ่ด้วย และถ้าสื่อมวลชนอยากจะเลยไปที่ จ.นครราชสีมาด้วย ก็คงไม่มีปัญหาอะไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ล่าสุดเกิดเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่เสียชีวิตหลายราย และผู้ต้องหาแหกห้องขัง ว่า เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่คงต้องตรวจสอบว่าสาเหตุที่สามารถจะงัดห้องควบคุมไปได้ เนื่องจากสาเหตุอะไร มีการใช้อุปกรณ์อะไรต่างๆ ซึ่งถือว่า น่าจะเป็นความบกพร่อง เพราะโดยปกติแล้ว ถ้าผู้ต้องหาหลบหนีจากที่ควบคุมก็จะต้องโดนตั้งคณะกรรมการสอบสวนอยู่แล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจคิดว่าคงต้องรอผล
ส่วนเรื่องการก่อเหตุการณ์ต่างๆ เท่าที่ดูข้อมูล ความรุนแรงลดลง จำนวนครั้งก็ลดลง มีผู้ที่ให้ข้อมูลข่าวสารในเรื่องความร่วมมือมากยิ่งขึ้น และเมื่อไม่กี่วันมานี้ ก็ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่ามีการวางระเบิดชุดคุ้มครองครู และสามารถช่วยกันเก็บกู้ได้ นั่นเป็นส่วนที่ตนคิดว่า เราได้รับความร่วมมือมากขึ้น มีพี่น้องประชาชนสมัครใจเข้ามาให้ความร่วมมือ มีการถอนคำสาบานต่างๆ สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การทำงานในส่วนที่จะทำให้เกิดความเข้าใจและชาวบ้านให้ความร่วมมือเพิ่มมากขึ้น คิดว่า ต่อไปจะไปสู่ขั้นของการจะพยายามหาช่องทางที่จะทำให้เกิดความสงบในพื้นที่ขึ้นมาได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่มีข่าวว่า ทหารเป็นหนอนบ่อนไส้ เอาข้อมูลภายในทางราชการไปให้ผู้ก่อการร้ายได้รับรายงานอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ได้รับรายงานมานานแล้ว เป็นเรื่องของการสอบสวน ที่จะต้องดำเนินการต่อไปโดยปกติในอาชีพทหาร ต้องระวังในส่วนเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะทุกครั้งถ้าหากมีสถานการณ์ของความขัดแย้ง มีการดำเนินการในเรื่องต่างๆ เราก็ต้องระมัดระวัง เพราะฝ่ายตรงข้ามอาจจะใช้เจ้าหน้าที่ของเราในลักษณะเช่นนี้ได้ เป็นเรื่องที่ถือว่าต้องมีการตรวจสอบ และหาวิธีการอยู่แล้ว เราเรียกว่า หน่วยต่อต้านข่าวกรอง จะมีอยู่ในวิธีการทำงานของทางทหารอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ในเรื่องการควบคุมจะต้องมีการพิจารณากันใหม่หรือไม่ เพราะแกนนำบางคนที่ถูกจับตัวมาเพียงแค่คุมขังไว้ในบ้านพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดในคุก พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องมีการพิจารณา ตนไม่ทราบในรายละเอียดของวิธีการควบคุมว่าดำเนินการกันอย่างไร เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คงจะชี้แจงให้ตนทราบต่อไป
เมื่อถามว่า เหตุการณ์เช้าวันนี้ (14 ม.ค.) ที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหารถูกซุ่มโจมตีเสียชีวิต 8 นาย ได้รับรายงานหรือไม่อย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องโดยบังเอิญ คงไม่ได้ต้องการสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นโดยทันทีแต่ก็เป็นเรื่องที่สามารถจะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพียงแต่การระมัดระวังจะทำได้อย่างไร นับว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้มากมายอยู่ที่การตรวจสอบ และการระมัดระวังในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่จะเป็นส่วนประกอบอีกส่วนหนึ่ง
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีดูแลฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะปัญหาภาคใต้ที่ให้เกาะติดสถานการณ์ ถึงเวลาที่จะต้องลงไปดูแลในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านหรือยัง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ได้มอบให้ท่านไปกินนอนที่นั่น แต่ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ ก็ลงไปในพื้นที่ ทั้งโดยส่วนตัวและพร้อมตนเอง ตนมอบให้ท่านลงไปดูแลพี่น้องมุสลิมเป็นส่วนใหญ่เพราะสะดวกในการเข้าไปพูดจาทำความเข้าใจ และการที่พี่น้องมุสลิมเดินทางไปทำพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ก็เป็นเรื่องที่ตนมอบหมายให้ พล.อ.สนธิ ไปดูแล ถือเป็นเรื่องการทำความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามที่ พล.อ.สนธิ ได้ลาไปปฏิบัติกิจส่วนตัวในต่างประเทศ เปิดเผยได้หรือไม่ว่าเป็นประเทศใด พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไปประเทศแถบตะวันออกกลาง เมื่อถามย้ำว่าพอจะเปิดเผยประเทศได้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า พล.อ.สนธิ ไม่ได้ทำรายละเอียดให้ตนทราบ
เมื่อถามว่า ขณะนี้ท่านพอจะมองเห็นหัวขบวนการการก่อความไม่สงบหรือยัง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า พอที่จะรับทราบแต่ยังไม่ชัดเจน จนถึงขั้นที่เรียกว่า อะไรเป็นอะไร ต่อข้อถามว่า ระดับแกนนำมีการบงการจากในหรือนอกประเทศ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนที่อยู่นอกประเทศก็คงมี เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า บางส่วนอยู่นอกประเทศ บางส่วนอยู่ในประเทศ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่พยายามติดตามข่าวสาร และพยายามที่จะปรับปรุงข้อมูลให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นในเรื่องเหล่านี้ คิดว่า ถ้าได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้นโอกาสที่จะทำให้เกิดความเข้าใจ และแก้ไขปัญหาความรุนแรง ก็จะมีขึ้นได้ในอนาคตข้างหน้า เราค่อนข้างที่จะได้รับการยอมรับในแนวทางการปฏิบัติมากขึ้น ตนเองได้เดินทางไปและมีโอกาสพบปะกับชาวบ้าน ความร่วมมือของชาวบ้านเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่าเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า พอจะระบุกลุ่มผู้บงการที่บอกว่าอยู่ทั้งในและนอกประเทศได้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ข้อมูลคงไม่ได้แตกต่างไปจากที่ท่านทั้งหลายได้มีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนองค์กรใดๆ ที่มีชื่อทางสื่อมวลชนก็ทราบอยู่แล้ว ตนคงไม่อยากเข้าไปในรายละเอียดพวกนั้น ความเชื่อมโยงนั้นมีแน่ เพราะบางส่วนที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศ ก็เนื่องด้วยมีข้อหาที่จะต้องถูกควบคุมตัว เมื่ออยู่ในประเทศนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ที่เขาจะต้องหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ และบางส่วนที่ได้ออกไปอยู่ต่างประเทศนานแล้ว มีอายุมากแล้วก็ยังมีอยู่ นั่นเป็นเรื่องที่ตนคิดว่า ทางที่ดีที่สุดอย่างที่รัฐบาลนี้ได้พยายามดำเนินการมาคือเปิดโอกาสที่จะทำความเข้าใจ เปิดโอกาสที่จะนำไปสู่การเจรจาให้มากที่สุด เท่าที่เราจะทำได้
เมื่อถามว่า เครือข่ายในประเทศที่อยู่ในพื้นที่มีจำนวนมากหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงมีพอสมควร อย่างที่เราได้รับข้อมูลจากทาง อ.ยะหา จ.ยะลา ที่เข้ามามอบตัวและขอทำพิธีถอนคำสานบาน เฉพาะตำบลเดียว 120 คน แสดงว่า ถ้าจะประเมินก็คงไม่น้อยนั่นเป็นตัวอย่าง
/0110