xs
xsm
sm
md
lg

โจรใต้ถล่มทหารดับพลีชีพ 8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โจรใต้เปิดฉากป่วนหนักขึ้นอีก ซุ่มวางระเบิดก่อนยิงถล่มทหารชุดลาดตระเวนครูที่ "บ้านดุซงญอ" เกิดปะทะเดือดราว 20 นาทีฝ่ายทหารพลาดดับ 8 นาย หนีรอดมาได้ 4 ขณะเดียวกันคนร้ายป่วนซ้ำอีกหลายจุดในพื้นที่ปัตตานี-ยะลา ทั้งลอบเผ่าเสาสัญญาณ-ตู้โทรศัพท์ ทำร้าย จนท. "สุรยุทธ์" จวกตำรวจบกพร่องปล่อย 6 ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงแหกคุกหนี ชี้ต้องตั้งกรรมการสอบผู้ดูแล ยอมรับมีทหารเป็นหนอนบ่อนไส้ขายข้อมูลก่อการร้าย

กลุ่มโจรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงก่อเหตุสร้างความไม่สงบให้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยวานนี้ (14 ม.ค.) เวลา 10.45 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ลอบวางระเบิดและใช้อาวุธสงครามซุ่มโจมตีทหารชุดลาดตระเวน ร้อย ร.2923 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 34 ขณะกำลังลาดตระเวนไปตามเส้นทางบนถนนในหมู่บ้านรือเปาะ ม.6 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส จนเกิดยิงปะทะกันขึ้นประมาณ 20 นาที หลังสิ้นเสียงปืนผลปรากฏเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งเสียหลักและเพลี่ยงพล้ำฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิตรวม 8 นาย รอดมาได้ 4 นาย

สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตทั้ง 8 นายประกอบด้วย ร.ต.อานนท์ บุญธรรม หัวหน้าชุด, ส.อ.วัชระ วัฒโณทัย, ส.อ.พงษ์ศักดิ์ จันทร์มาลา, ส.อ.ประชุม ขอปะการ, จ.ส.อ.บุณธรรม นิลสนธิ, จ.ส.อ.สมจิตต์ พัวพุ่มพฤกษ์, พลทหาร สมปอง กมลช่วง และพลทหารสุพิศ ปานมาตร
ส่วนอีก 4 นายที่ขับรถจักรยานยนต์ปลอดภัย คือ ส.ท.อมร ศักดิ์ศีสมุทร, ส.ต. อนุสรณ์ สู้ณรงค์, พลทหารกฤษดา วงศ์จันทร์ และพลทหารณรงค์ เพิ่มฉลาด

พ.ท.กานต์นาท นิกรยานนท์ ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจที่ 34 นราธิวาส เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 08.00 น.ทหารชุดดังกล่าวทั้งหมด 12 นาย ได้ออกลาดตระเวนเส้นทางเพื่อตรวจความเรียบร้อยตามเส้นทางในหมู่บ้านรือเปาะ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ครูโดยนั่งรถจักรยานยนต์ 4 นาย รถฮัมวี 8 นาย ขณะที่ขับผ่านถนนสายในหมู่บ้านซึ่งเป็นเส้นทางหุบเขา กลุ่มคนร้ายซึ่งได้ดักซุ่มอยู่แล้วได้จุดชนวนระเบิดที่ฝังไว้ใต้ถนนขึ้น แรงระเบิดทำให้รถฮัมวีกระเด็นไปถึง 50 เมตร

จากนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายยิงกราดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทันทีและเกิดปะทะกันขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ที่ขับรถจักรยานยนต์ 4 นายได้หลบหนีออกจากบริเวณที่เกิดเหตุมาได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บภายในรถฮัมวี่ถูกกลุ่มคนร้ายเข้ามายิงซ้ำจนทั้งหมดเสียชีวิตทั้ง 8 นาย โดยการลอบก่อเหตุครั้งนี้คาดว่า คนร้ายมีมากกว่า 20 คน และมีการเตรียมการมาอย่างดีทั้งการวางระเบิด การซุ่มโจมตีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงการปิดกั้นเส้นทางการเข้ามาช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่เสริมเข้ามาถึงที่เกิดเหตุล่าช้า

"ยืนยันว่าการก่อเหตุครั้งนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ในสังกัดคนใดเป็นหนอนบ่อนไส้ เชื่อว่าเหตุครั้งนี้ที่เกิดขึ้นเป็นการจ้องทำร้ายของกลุ่มก่อความไม่สงบอยู่แล้ว และหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกตรวจค้นพื้นที่ที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยพบร่องรอยเส้นทางที่เจ้าหน้าที่หลบหนีรวมถึงเสื้อผ้าที่มีการถอดทิ้งไว้ โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อหาคนร้ายต่อไป ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นกลุ่มในหมู่บ้านหรือไม่"

ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ จ.ปัตตานี คนร้ายได้ก่อกวนสร้างสถานการณ์หลายแห่ง ทำให้ จ.ปัตตานี เกิดความวุ่นวาย โดยเวลา 01.00 น.คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบชนิดนำประทัดยักษ์ ตระเวนโยนใส่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะที่อยู่ริมถนนกลาพอ หน้าบริษัทฮีโน่เก่า หน้าสุสานโตะอาเยาะ หน้ามัสยิดเก่า เขต ต.จะบังติกอ ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ทำให้กระจกของตู้โทรศัพท์แตกเสียหาย

ขณะเดียวกันคนร้ายยังได้ก่อกวน โดยได้โยนประทัดยักษ์บริเวณริมถนนหน้าร้านไทปัน ต.รูสะมีแล อ.เมือง และบริเวณริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมืองปัตตานี แต่ไม่มีอะไรเสียหาย

เวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายยังได้ใช้ผ้าชุบน้ำมันเบนซิน เผาตู้โทรศัพท์สาธารณะ บริเวณหน้าโรงเรียนศาสนูปถัมภ์ ม.2 ต.บานา อ.เมือง และหน้าสถานีอนามัยตันหยงลูโล๊ะ ม.3 ต.ตันหยงลูโละ อ.เมืองปัตตานี ทำให้ได้รับความเสียหายทั้ง 2 ตู้

นอกจากนั้นคนร้ายยังได้ลอบวางเพลิงเผาตู้โทรศัพท์สาธารณะบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านคูระ ม.2 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เสียหายเล็กน้อยอีกด้วย จากนั้นคนร้ายได้เผายางรถยนต์ และตัดต้นไม้ขวางถนนบนถนนสาย 410 บ้านไผ่-บ้านปรีกี ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง เจ้าหน้าสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้

ต่อมาเวลา 03.00 น.คนร้ายได้ลอบเผาสายโทรศัพท์ บริเวณริมถนนสาย 4060 กะพ้อ-สายบุรี ม.4 ต.กะรูบี อ.กะพ้อ ทำให้ได้รับความเสียหาย และเวลา 07.00 น.วันเดียวกันคนร้ายได้ลอบเผาสายนำส่งสัญญานโทรศัพท์ ดีแทค บริเวณริมถนนเพชรเกษม ม.2 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ และริมถนน ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ 2 จุด ได้รับความเสียหาย ส่งผลให้สัญญานโทรศัพท์ไม่สามารถใช้การได้

ส่วนที่ จ.ยะลา ในเวลา 01.00 น.คนร้ายได้ลอบเผาสายนำสัญญาณโทรศัพท์ได้รับความเสียหายที่บริเวณ ม.1 ต.บาลอ อ.รามัน ในเวลาไล่เลี่ยกันที่บ้านบูโล๊ะสะนิแย ม.4 ต.บ้านแหร อ.ธารโต คนร้ายได้นำยางรถยนต์จุดไฟเผาบนถนนกลางหมู่บ้าน จากนั้นคนร้ายได้ลอบเผาเสาโทรศัพท์อีกที่บริเวณบ้านพงดูดา ม.3 ต.ยะหา อ.ยะหา จนไม่สามารถใช้งานได้

ต่อมาเวลา 08.30 น. คนร้ายได้ลอบวางระเบิดทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง ร้อย ร.1542 ประจำฐานปฏิบัติการบ้านท่าละไม ม.4 ต.ประแต อ.ยะหา และยังเกิดการปะทะกันอีกประมาณ 10 นาที ทำให้พลทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ พลทหารพิภพโชค ชูยง อายุ 21 ปี และพลทหารมะตอเฮ จอแจะ อายุ 20 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาในเวลาต่อมา
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกรณี 6 ผู้ต้องหาหนีออกจากห้องขังที่ สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่าสาเหตุที่สามารถจะงัดห้องควบคุมไปได้เนื่องจากสาเหตุอะไร มีการใช้อุปกรณ์อะไรต่างๆ ซึ่งถือว่าน่าจะเป็นความบกพร่อง เพราะโดยปกติแล้วถ้าผู้ต้องหาหลบหนีจากที่ควบคุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลก็จะต้องโดนตั้งคณะกรรมการสอบสวนอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องการก่อเหตุความไม่ไม่สงบนั้น เท่าที่ดูข้อมูลความรุนแรงลดลง จำนวนครั้งก็ลดลง มีผู้ที่ให้ข้อมูลข่าวสารในเรื่องความร่วมมือมากยิ่งขึ้น และเมื่อไม่กี่วันมานี้ก็ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่า มีการวางระเบิดชุดคุ้มครองครูและสามารถช่วยกันเก็บกู้ได้ นั่นเป็นส่วนที่ตนคิดว่าเราได้รับความร่วมมือมากขึ้น มีพี่น้องประชาชนสมัครใจเข้ามาให้ความร่วมมือ มีการถอนคำสาบานต่างๆ สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การทำงานในส่วนที่จะทำให้เกิดความเข้าใจและชาวบ้านให้ความร่วมมือเพิ่มมากขึ้น คิดว่าต่อไปจะไปสู่ขั้นของการจะพยายามหาช่องทางที่จะทำให้เกิดความสงบในพื้นที่ขึ้นมาได้

ส่วนที่มีข่าวทหารเป็นหนอนบ่อนไส้เอาข้อมูลภายในทางราชการไปให้ผู้ก่อการร้ายนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ได้รับรายงานมานานแล้ว เป็นเรื่องของการสอบสวนที่จะต้องดำเนินการต่อไปโดยปกติในอาชีพทหาร ต้องระวังในส่วนเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะทุกครั้ง ถ้าหากมีสถานการณ์ของความขัดแย้ง มีการดำเนินการในเรื่องต่างๆ เราก็ต้องระมัดระวัง เพราะฝ่ายตรงข้ามอาจจะใช้เจ้าหน้าที่ของเราในลักษณะเช่นนี้ได้

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า แกนนำผู้ก่อความไม่สงบนั้นมีอยู่ทั้งในและนอกประเทศ แต่รัฐบาลก็ยังคงยึดแนวทางสันติวิธีแก้ปัญหาด้วยการเจรจา เมื่อถามว่าเครือข่ายของกลุ่มคนร้ายในประเทศที่อยู่ในพื้นที่ขณะนี้มีจำนวนมากหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คงมีพอสมควร อย่างที่เราได้รับข้อมูลจากทาง อ.ยะหา จ.ยะลา ที่เข้ามามอบตัวและขอทำพิธีถอนคำสานบานเฉพาะตำบลเดียว 120 คน แสดงว่าถ้าจะประเมินก็คงไม่น้อย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารถูกคนร้ายซุ่มโจมดีจนเสียชีวิต 8 นายด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นเรื่องโดยบังเอิญ แต่ก็เป็นเรื่องที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ เพียงแต่การระมัดระวังจะทำได้อย่างไร ซึ่งการระมัดระวังในการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ถือเป็นส่วนประกอบอีกส่วนหนึ่งเหมือนกันที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นได้

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ดูแลฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะปัญหาภาคใต้ที่ให้เกาะติดสถานการณ์ถึงเวลาที่จะต้องลงไปดูแลในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านหรือยัง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ได้มอบให้ท่านไปกินนอนที่นั่น แต่ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ ก็ลงไปในพื้นที่ทั้งโดยส่วนตัวและพร้อมตน

"ผมมอบให้ท่านลงไปดูแลพี่น้องมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ เพราะสะดวกในการเข้าไปพูดจาทำความเข้าใจ และการที่พี่น้องมุสลิมเดินทางไปทำพิธีฮัจญ์ ที่ซาอุดิอาระเบีย ก็เป็นเรื่องที่ผมมอบหมายให้ พล.อ.สนธิ ไปดูแล ถือเป็นเรื่องการทำความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น"
กำลังโหลดความคิดเห็น