ก่อนหน้านี้ “ทราย” มีนามสกุลห้อยท้ายอย่างอื่น แต่พลันที่เธอเปิดศึกสายเลือด ถูกพี่สาวคนละพ่อเปิดฉากด่าทอจนชนิดต้องบอกว่าชาตินี้ และภพหน้าต่างผีไม่เผา เงาไม่เหยียบกันอย่างแน่นอน ส่งผลให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้นามสกุลใหม่ อันว่ากันว่าเธอมุ่งหมายอยากจะเป็นสมาชิกของคนในตระกูลนี้มาเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้วเห็นจะได้
จากบรรทัดนี้ต่อไป ลองฟังความในใจหลากหลายของ “ทราย” ดู
“บอกตามตรงว่าตอนนี้สุขภาพจิตดีขึ้นมาก ถามว่ารักนามสกุลเดิมไหม ขอสารภาพด้วยเนื้อแท้ของหัวใจว่าปกติทรายก็ไม่ยี่หระอะไรกับวัฒนธรรมประเพณีเห่ยๆ แบบนี้อยู่แล้ว ทรายเป็นอะไรที่ไม่แคร์กับสังคมไทย อย่างที่เคยพูดไป ทรายไม่รู้สึกผูกพันกับญาติพี่น้อง อย่างผู้ใหญ่ ญาติๆ ก็ดี เราทำไมต้องนอบน้อมด้วย ก็ต่างคนต่างอยู่ไปดิวะ ชิมิ ท่านเป็นคนแก่ ดูแลเรามาตอนเด็กๆ อ้ะ! (เอียงคอ) แล้วงาย ฮะแล้วไง ต้องกราบไหว้กันไปจนตายเลยเหรอ ไม่มั้ง เพราะฉะนั้นอย่าว่าแต่พี่สาวนอกไส้เลย นามสกุลแท้ๆ ทรายยังเขวี้ยงทิ้งได้ แล้วเป็นไง นามสกุลใหม่ ชินวัตรนะเฟ้ย”
(ชื่นชมกับนามสกุลใหม่มาก) “มั่กๆ (น้ำเสียงร่าเริง) เพราะท่านทักษิณเป็นคนเก่งที่ทรายปลื้มฝุดๆ ท่านเก่งจนโดนพวกอำมาตย์อิจฉา กลั่นแกล้งทุกวิถีทาง แต่ท่านก็ไม่ตอบโต้ พยายามสร้างคุณงามความดีเพื่อแผ่นดินเกิด ขนาดถูกไล่จนจะตกโลก ท่านยังอุตส่าห์คิดตั้งประเทศใหม่ ท่านรักประเทศไทย และคนไทยขนาดแม้จะจัดตั้งประเทศใหม่ขึ้นมา ยังต้องมีอาณาบริเวณติดกับประเทศไทย ทรายคิดว่าท่านคงเป็นห่วงคนที่ไม่ได้เป็นพลเมืองของ สปป. ล้านนา ซึ่งในอนาคตจะไม่มีผู้นำสตรีที่ฉลาดฝุดๆ อย่างคุณยิ่งลักษณ์ เพราะท่านคงย้ายตัวเองมาเป็นนายกฯ สปป. ล้านนาแน่นอน”
(นอกจากเปลี่ยนนามสกุล ยังคิดจะเปลี่ยนไปอยู่อีกประเทศหนึ่งด้วยใช่ไหม) “พูดจริงๆ ทรายเปลี่ยนประเทศอยู่มานานแล้ว พวกเรามีการจัดตั้งกันอย่างเงียบๆ เราไม่ยอมรับอะไรหลายๆ อย่างของเมืองไทย โดยเฉพาะความล้าหลัง เราจึงสร้างคุณภาพใหม่ๆ ขึ้นมา พลเมืองของ สปป. ล้านนา ล้วนแต่เป็นคนหัวก้าวหน้า เทิดทูนประชาธิปไตย รักความสงบ ยกตัวอย่าง ท่านทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ ป้าธิดา พี่จตุพร พี่ณัฐวุฒิ อาเฉลิม น้าคำรณวิทย์ สื่อเราก็มี นักวิชาการเราก็มาก อนาคตของชาติก็อย่างตั้ง อาชีวะ อั้ม- เนโกะ เห็นมะ เจ๋งโคตร”