กรุงเทพฯ - “สุพจน์-สุพัฒน์” คู่แฝดหมัดสะท้าน ม.112 เปิดใจก่อนบินไปพักร้อนที่ฮาวาย บอกสาเหตุเหวี่ยงกำปั้นใส่หน้าหัวโจกนิติเรดเพียงแค่เห็นว่าทุกตารางนิ้วในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เต็มไปด้วยเสรีภาพในการแสดงออก ล่าสุดรายการทีวีรุมจองคิวอื้อแต่ปฏิเสธหมด อ้างไม่อยากดัง แค่ต้องการหนับหนุนประชาธิปไตย
ก่อนบินไปพักร้อนนอนดูทะเลที่เกาะฮาวาย นายสุพจน์ และนายสุพัฒน์ พี่น้องฝาแฝดที่เคียงบ่าเคียงไหล่กันไปรอนายวรเจตน์ แกนนำนิติเรด บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จากนั้นใช้ช่วงเวลาที่อาจารย์หนุ่มผู้ทุ่มเทสติปัญญาเพื่อแก้ไขมาตรา 112 อย่างสุดลิ่มทิ่มกะโหลก เก๊กหล่อต่อหน้าลูกศิษย์สาว วิ่งเข้าไปชกเปรี้ยงเข้าตรงใบหน้าอย่างจัง จนกลายเป็นข่าวดังไปทั้งประเทศ ได้เปิดเผยกับยอด ยาหยี บรรณาธิการบริหารผู้จัดกวนสุดเสน่ห์ บนชั้นผู้โดยสารขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ ว่าขณะนี้มีรายการทีวีมากมายหลายช่องโทรศัพท์มาติดต่อขอให้เขาสองคนไปเปิดใจและแบไต๋ความจริงถึงสาเหตุการกรูเข้าไประดมกำปั้นไม่มีรูเข้าใส่อาจารย์หนุ่มดีกรีนักเรียนนอกจนชอกช้ำระกำทรวง ทว่าพวกตนได้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเรื่องราวที่กลายเป็นข่าวฮอตไปในทุกๆ สื่อ หาใช่มีต้นกำเนิดมาจากความอยากเด่นอยากดัง แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปเพราะเป็นเรื่องของประชาธิปไตยล้วนๆ
“ผมสองคนเป็นชาวปทุมธานี แม้ร่ำเรียนมาน้อย แต่รับรู้อยู่เสมอว่าภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทุกตารางนิ้วเลยก็ว่าได้ เต็มไปด้วยสิทธิเสรีภาพ ไม่เชื่อลองไปถามอาจารย์อาจารย์ชาญวิทย์ อาจารย์สมศักดิ์ หรือแม้แต่อาจารย์วรเจตน์ดู รับรองไม่มีใครปฏิเสธความจริงข้อนี้แน่นอน ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดกับตัวเองในสิ่งที่รับรู้มา ผมและน้องชายคู่แฝดจึงพากันมุ่งหน้าจากปทุมฯ ไปที่ธรรมศาสตร์ จากนั้นอาจารย์วรเจตน์เดินอาดๆ เข้ามาแบบนักประชาธิปไตยจ๋า ผมสองคนก็เลยจ้วงคนละหนุบละหนับเข้าใส่ตามใบหน้าอาจารย์วรเจี๊ยก เอ้ย! วรเจตน์ จนแกตาลีตาลานวิ่งหนี อันที่จริงผมสองคนอยากแสดงความเป็นประชาธิปไตยโดยชี้ให้เห็นสิทธิและเสรีภาพให้มากกว่านี้ เสียดายอาจารย์วรเจตน์ไม่ให้ความสนับสนุนเท่าที่ควรจะเป็น” นายสุพจน์กล่าว
ถามว่ามีคนจ้างให้มาทำร้ายอาจารย์วรเจตน์ใช่หรือไม่ สองพี่น้องฝาแฝดส่ายหน้าและว่า เขาสองคนขอยืนยันว่าพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทุกคนสามารถทำทุกอย่างที่ต้องการแสดงออกบอกให้รู้ถึงการเป็นประชาธิปไตย รวมทั้งใช้สิทธิเสรีภาพ ดังนั้นจึงชวนกันไปชกหน้าอาจารย์วรเจตน์ เพราะคิดว่าสิ่งที่ทำลงไปคือเสรีภาพของพวกตน “นี่ยังเป็นประชาธิปไตยน้อยไป ถ้าให้เต็มใบต้องรอทักษิณกลับมาเมืองไทย หรือไม่ก็ต้องให้ด็อกเตอร์เหลิมไปแถวเมืองปทุม” นายสุพัฒน์ผู้น้องกล่าวก่อนขอตัวไปขึ้นเครื่อง