บ้านพระอาทิตย์ - "แม่ค้า " พ่อค้าทั่วประเทศแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนความคิด "ออหมัก" รับปากตั้งแต่นี้ต่อไปราคาข้าวแกงจะขึ้นคราวละ 20 สลึง มั่นใจช่วยเศรษฐกิจไทยโชติช่วงชัชวาลเทียบชั้นสหรัฐอเมริกาอย่างช้าไม่เกิน 6 เดือน
ต่าย-อรทัย โคกสันเทียะ แม่ค้าขายข้าวแกงจากบ้านเนินผักแฮด เปิดเผยความในใจผ่านรายการเช้านี้ที่เมืองไทย ทางคลื่นยามเฝ้าแผ่นดินซึ่งดำเนินรายการโดยขุน ของยุ้ย กับน้อย ใจรัก ว่า "อะโหล ก่อนอื่นต่าย-อรทัย ขอสวัสดีกับพี่ขุนและพี่น้อยนะคะ ฟังรายการนี้ทุกเช้าวันเสาร์และวันอาทิตย์เลย คุยสนุก เปิดเพลงก็เพราะมาก ต่าย-อรทัยชอบยิ่งกว่ารายการหลับไม่ลงของคุณอาธรรมรงค์ เพชรสุนทรอีกแน่ะ อยากเห็นตัวจริงพี่น้อย จังเลย ได้ข่าวว่าแมนมั่กๆ เพื่อนบอกสูงยาว เข่าดี สงสัยจะตีเจ็บน่าดูเลยนะเนี่ย อิอิอิ เออ..พี่ขุนคะ ได้ฟังนโยบายของท่านนายกฯ สมัครหรือเปล่าคะ ที่ท่านมีความคิดว่าจะใช้เศษสตางค์เหรียญสลึงกับเหรียญห้าสิบสตางค์ช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างในอเมริกาที่ท่านเคยไปเรียนหนังสือมา ต่าย-อรทัยในฐานะของแม่ค้าขายข้าวแกงเอื้ออาทรคนหนึ่ง ขอชูจั๊กกะแร้สนับสนุนท่านนายกฯ สมัคร ทั้งสองข้างเลยค่ะ เพราะไม่อยากให้เศรษฐกิจของประเทศไทยย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้อีกแล้ว ที่สำคัญเศษสตางค์ที่คนชอบเก็บซุกไว้ตรงนั้นตรงนี้จะได้มีค่าเวลาที่นำออกมาจับจ่ายใช้สอย ต่าย-อรทัยเต็มใจที่จะขอขึ้นราคาข้าวแกงนับจากนี้ไปเป็นจานละ 15 บาทกับอีก 20 สลึง ปกติร้านข้าวแกงของต่ายจะขายข้าวราดซี่โครงไก่ต้มฟักจานละ 15 บาท แต่เพื่อสนองไอเดียช่วยชาติของท่านสมัคร ต่าย-อรทัยจะขึ้นราคาข้าวแกงอีกจานละ 20 สลึง สุดท้ายนี้ ต่าย-อรทัยขอเพลงประเทืองของไทด์ " ธนาวุฒิ มอบให้แก่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ขอบอกว่าชอบท่านมากเลย หล่อสุดๆ หวัดดีนะค้า...ปู๊นปู๊น"
ฝ่ายเจ๊มิ่ง อดีตพ่อค้ารถที่หันมาเอาดีทางขายตรงส่งข้าวแกงพร้อมบริการขนมหวานถั่วดำราดน้ำมันมะกอก บอกว่าตอนนี้รัฐบาลนอมินีของนายสมัครเดินมาถูกทางแล้ว เขาเองในฐานะที่เรียนจบมาทางเศรษฐศาสตร์ และมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องการขายมาอย่างข้นคลั่กเห็นว่านโยบายขึ้นราคาสินค้าทีละสลึง หรือทีละ 50 สตางค์ จะทำให้เศรษฐกิจของไทยในกลุ่มรากหญ้ากระเตื้องขึ้น ดังนั้นเพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เขาและสมาชิกร้านข้าวแกงธงสีม่วงซึ่งมีมากกว่า 8 ล้านคนทั่วประเทศจะเขยิบราคาข้าวแกงหนละ 20 สลึง และจะพยายามตรึงราคานี้ไว้ชั่วกาลนาน
"ความจริงสมาชิกร้านข้าวแกงธงสีม่วงของเจ๊รวมๆ กันแล้ว แบบว่าเน็ตๆ เลยนะ น่าจะมีสมาชิกมากกว่า 10 ล้านคนซะด้วยซ้ำ แต่ที่บอกว่ามีแค่ 8 ล้านคน เพราะหลายคนยังเป็นสมาชิกแบบแอบๆ อยู่ แอ๊บๆ ก็มี แต๊บๆ เนี่ยเยอะมาก คือประเภทอีนังเพ็ญเย็นไข่ไงล่ะ พวกนี้ที่แท้ก็ธงสีม่วงกันทั้งน้าน ทำเป็นธงสีฟ้าบังหน้าไปงั้นแหละ ลองเจอล่ำๆ หล่อๆ ดูสิ แต๋วแตกกระจาย แล้วอย่าลืมใช้บริการร้านข้าวแกงธงม่วงนะเคอะ รับรองรสชาติซี้ดอูย เอ๊ย! ซี้ดซ้าด น้ำมูกน้ำตาไหล อิ่มไม่อิ่มไม่เป็นไร เจ๊แถมถั่วดำให้ล้างปาก ราดน้ำกะทิข้นๆ ขาวๆ ราคาแค่ 20 บาทกับอีก 20 สลึงเท่านั้น คืองี้ ไหนๆ เราก็จะรณรงค์หันกลับมาใช้เศษสตางค์กันแล้ว จะขึ้นทีละสลึงมันก็กระไรอยู่ สู้ขึ้นทีเอาให้โรงงานกษาปณ์ผลิตเหรียญสลึงกับเหรียญห้าสิบสตางค์ไม่ทัน มันถึงจะเวิร์ก อ้อ! แต่อย่าคิดคำนวณแบบว่า...4 สลึงเป็น 1 บาท อะไรแบบนั้นนะ ประเดี๋ยวจะหาว่าร้านค้าธงม่วงหัวหมอ ขึ้นราคาข้าวแกงทีแพงบัดซบ ไม่สนองนโยบายนายกฯ สมัคร เดี๋ยวท่านโกรธเจ๊ตายเลย"
ทางด้านนายสมัคร กล่าวถึงเรื่องที่ร้านข้าวแกงพร้อมใจจะสนองนโยบายเศษสตางค์ช่วยชาติ ว่าถ้าพ่อค้าแม่ขายทำได้จริงๆ ตนเชื่อว่าภายในเวลา 6 เดือนจะเห็นผลทันตาแน่ แต่ถ้าเลยไปจากนั้นอันนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรม
"6 เดือนเท่านั้น ผมขอแค่นี้ ถ้าผิดไปจากนี้ก็ตัวใครตัวมัน ผมจะกลับไปเลี้ยงแมว ทำรายการอาหารของผม รึไม่ก็พับนกเล่นบ้าง พอแล้ว พอ ไม่ต้องมาถาม เดี๋ยวผมย้อนถามกลับมั่งคุณจะยุ่งนะ เอามะ ให้ผมถามคุณกลับมั่งมั้ย แค่ผมอ้าปากจะถามว่าเมื่อคืน...เห็นไหม แค่นี้พวกคุณก็เดาออกแล้วว่าผมจะพูดต่อว่าไง ผมบอกแล้วอย่ามายุ่ง อ้าว! อะไรมารุนหลังผมอยู่เนี่ย เอ...สงสัยจะเป็นมือที่มองไม่เห็นอีกแล้ว เมื่อไหร่จะเลิกตอแยกับผมเสียที เอ๊ะ...หรือว่าที่จริงมือที่มองไม่เห็นมันไม่มี แต่ที่รุนหลังผมอยู่เรื่อยๆ กลายเป็นมือของคนชักหุ่นที่พยายามจะเชิดผมอยู่ตลอดเวลา แหม ไอ้กระผมก็คิดว่ามือที่มองไม่เห็น ทำกันถึงขนาดนี้ไม่ไหว อยู่แค่ 6 เดือนไม่ต้องให้ชาวบ้านออกมาไล่ ผมก็เปิดก้นตัวเองหนีไปไกลๆ แล้ว" นายสมัครกล่าว
