วันที่ 25 ธ.ค.เฟซบุ๊กเพจ Army Military Force เผยแพร่วิดีโอคลิปทหารกัมพูชาพาภรรยาและลูกน้อย 2 คนเข้ามาอาศัยอยู่ร่วมกันภายในบังเกอร์ โดยมีเสียงเด็กร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวเสียงปืน ท่ามกลางการสู้รบอย่างดุเดือดกับทหารไทยในแนวหน้า
ทั้งนี้ การที่ทหารกัมพูชานำภรรยาและบุตรซึ่งเป็นพลเรือน เข้าไปพำนักอยู่ภายในบังเกอร์และพื้นที่ทางทหารในเขตปฏิบัติการขณะมีการสู้รบในแนวหน้า สะท้อนถึงการนำพลเรือนโดยเฉพาะสตรีและเด็ก ไปอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร อันเป็นการนำผู้บริสุทธิ์มาเสี่ยงอันตรายเพื่อหวังผลในการป้องกันเป้าหมายทางทหาร และเข้าข่ายการละเมิดหลักการคุ้มครองพลเรือนตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
หากเป็นการจงใจใช้พลเรือนเพื่อประโยชน์ทางทหาร จะถือเป็นการขัดต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 ปี ค.ศ.1949 มาตรา 28 ซึ่งห้ามมิให้ใช้การปรากฏตัวของพลเรือนเพื่อให้พื้นที่หรือเป้าหมายทางทหารรอดพ้นจากการปฏิบัติการทางทหาร รวมถึงพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 1 ปี ค.ศ.1977 มาตรา 51 วรรค 7 ที่ห้ามใช้พลเรือนเพื่อบดบังหรือคุ้มกันเป้าหมายทางทหาร
นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงครามภายใต้ธรรมนูญกรุงโรมของศาลอาญาระหว่างประเทศ หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการจงใจใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์เพื่อคุ้มกันเป้าหมายหรือปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งอาจอยู่ภายใต้มาตรา 8(2)(b)(xxii) หรือ 8(2)(e)(xiii)


