กองทัพยืนยัน เมื่อสันติภาพ-ความสงบสุขกลับคืนมา การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายไทยจะสิ้นสุด ขอประชาคมโลกเข้าใจ แจง BM-21 กัมพูชาถล่มศรีสะเกษ ไม่มีประชาชนแขนขาด ขณะ ทร.ย้ำ หากประชาชน จ.ตราดจำเป็นต้องออกจากเคหสถานในช่วงเคอร์ฟิวสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดย พลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ ว่า ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ฝ่ายกัมพูชายังระดมยิงเข้ามาฝ่ายไทยโดยเฉพาะอาวุธหนักต่างๆ และฝ่ายไทยจำเป็นต้องป้องกันตนเองตามกฎการปะทะและกฎหลักสากล ตั้งแต่ 4 ทุ่มจนถึงตี 1 มีการทบทวนของฝ่ายกัมพูชาพยายามแทรกซึมเข้ามาจำนวนมาก ฝ่ายไทยก็สกัดกั้นและตรวจสอบโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตราดซึ่งทางกองทัพเรือได้มีความพยายามป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย
พร้อมระบุด้วยว่า กองทัพเรือได้ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดตราด ตั้งแต่ 19.00 น. จนถึง 05.00 น. เริ่มจั้งแต่วันนี้ (14 ธ.ค. 68) ใน 5 อำเภอ คือ คลองใหญ่บ่อไร่แหลมงอบเขาสมิง และอำเภอเมือง ยกเว้นเกาะช้าง และเกาะกูด
ขณะที่ นาวาเอก นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เพลงที่กองทัพเรือได้รับมอบหมายบริเวณบ้านฉราพ อำเภอเมือง จังหวัดตราด เราพยายามจะยึดคืนพื้นที่ที่ถูกรุกล้ำเข้ามาและยึดครองเป็นเวลานาน จึงพยายามโต้ตอบและยึดคืน โดยเมื่อเช้านี้ได้รับการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศจากกองทัพอากาศทิ้งระเบิดปูทาง จากนั้นหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินโดยกชอได้ใช้กำลังทหารราบดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดคลังพื้นที่ ระหว่างนี้มีการตอบโต้จากกัมพูชาอย่างหนาแน่น แต่สุดท้ายก็สามารถสถาปนาพื้นที่และเชิญธงชาติขึ้นสู่เสาธงชั่วคราวในพื้นที่ได้ ถือเป็นการแสดงอำนาจอธิปไตยในพื้นที่ของไทยเอง ปัจจุบันยังมีการโจมตีโต้ตอบจากกัมพูชาไม่ลดหย่อนลง ฝ่ายไทยก็ต้องพยายามกำจัดภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากการดำเนินการของหน่วยนาวิกโยธินแล้ว ยังมีหน่วยสนับสนุนอื่น เช่น หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมสรรพาวุธทหารเรือ และหน่วยอื่นๆ ที่ประกอบกำลังกัน เพื่อเข้าดำเนินกลยุทธ์ต่อพื้นที่เป้าหมาย
ส่วนการประกาศเคอร์ฟิว ยอมรับว่าส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน แต่เนื่องจากที่ผ่านมามีการรบกวนจากฝ่ายกัมพูชาอย่างหนัก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนก็จำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิว แต่หากประชาชนมีความจำเป็นต้องออกจากเคหสถานนอกเวลา ก็สามารถขออนุญาตและชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งเราจะรับฟังเหตุผลและอำนวยความสะดวก แต่ขอเน้นความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
โฆษกกระทรวงกลาโหมยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า จำนวนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ BM-21 ของกัมพูชาโจมตีในพื้นที่ชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย โดย 1 ราย ให้กลับบ้านแล้ว อีก 5 รายยังรักษาอยู่ โดย 4 รายรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ อีก 1 รายรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมยืนยันข่าวประชาชนแขนขาดไม่เป็นความจริง ตรวจสอบแล้วเป็นเพียงอาการกระดูกหักเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ยืนยันด้วยว่าประเทศไทยไม่ได้ยกระดับความขัดแย้ง การดำเนินการของฝ่ายไทยเพื่อป้องกันตนเองโดยชอบธรรมและตอบสนองต่อภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากที่ฝ่ายกัมพูชาได้ทำมาโดยยึดหลักความจำเป็นตามสัดส่วนและมุ่งเป้าทางทหาร
เมื่อถามว่าทำไมไทยยังมีปฏิบัติการทางทหาร และไม่ยอมรับการเจรจาหยุดยิงในช่วงนี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารในช่วงนี้เพื่อนำสันติภาพกลับคืนมาสู่ประชาชน และสกัดกั้นภัยคุกคามเผชิญหน้า จึงจำเป็นต้องลิดรอนความสามารถของภัยคุกคาม และเมื่อสันติภาพความสงบสุขกลับคืนมา การปฏิบัติการทางทหารก็จะสิ้นสุดลง แต่ตราบใดที่ฝ่ายกัมพูชายังเป็นปฏิปักษ์ของภัยคุกคาม ปฏิบัติการทางทหารของไทยก็ยังดำเนินอยู่ต่อเนื่อง และยืนยันว่าไทยไม่ได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมขอให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าใจบริบทด้านความมั่นคงในพื้นที่จริงและสนับสนุนแนวทางในการช่วยเหลือคุ้มครองพลเรือน ลดความตึงเครียดและเคารพธิปไตยของรัฐ


