กองทัพไทยรวบรวมหลักฐานกรณีกัมพูชาใช้โบราณสถานเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารโจมตีฝ่ายไทย พร้อมยืนยันไทยสามารถใช้สิทธิป้องกันตนเองในกรณีดังกล่าวได้
วันนี้ (11 ธ.ค.) พลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเก็บรวบรวมหลักฐานกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาใช้พื้นที่โบราณสถาน เช่น ปราสาทพระวิหาร และปราสาทตาควาย เป็นที่มั่นปฏิบัติการทางทหาร และเมื่อเกิดความเสียหายก็จะอ้างว่าเกิดขึ้นจากฝ่ายไทย ว่าฝ่ายไทยจะต้องเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ไว้อย่างแน่นอน ทั้งภาพถ่าย และคลิปวิดีโอต่างๆ ที่ฝ่ายกัมพูชาใช้โบราณสถานเป็นป้อมปืนและฐานปฏิบัติการ ส่วนความชอบธรรมในการปฏิบัติ ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายอีกครั้งว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
ด้าน พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในกรณีนี้ฝ่ายกัมพูชาทำผิดหลักสากล เนื่องจากตามหลักสากลไม่สามารถโจมตีจากปฏิบัติการทางทหารเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพบว่าใช้บริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งทางทหาร ที่ตั้งอาวุธยิง ศูนย์บัญชาการ หรือเป็นคลังเก็บสิ่งอุปกรณ์สำคัญ และใช้บริเวณดังกล่าวโจมตีกำลังพลฝ่ายไทย รวมถึงส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยด้วย เชื่อมั่นว่าฝ่ายไทยสามารถยึดแนวทางป้องกันตนเองได้ตามหลักสากล และฝ่ายไทยเรียนรู้จากการปะทะที่เกิดขึ้นครั้งก่อน 5 วันแล้วว่าฝ่ายกัมพูชาจะชิงพูดก่อน และบิดเบือนข้อมูลต่อประชาคมโลก ไทยจึงต้องเก็บข้อมูลและหลักฐานต่างๆ หากสามารถยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชาโจมตีออกมาจากพื้นที่โบราณสถานจริง การป้องกันตนเองของฝ่ายไทยถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้


