นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ออกมาโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการบริหารจัดการน้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งล่าสุด โดยระบุว่า "ระบบเตือนภัยล้มเหลว" ชี้ให้เห็นว่าแม้ปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วัน (19-22 พ.ย.) จะสูงถึง 595 มิลลิเมตร ซึ่ง มากกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2553 เสียหายหลายหมื่นล้าน แต่ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเทศบาลนครหาดใหญ่กลับออกแถลงการณ์แจ้งว่า "อยู่ในสภาวะปกติ ธงเขียว" เมื่อวันที่ 20 พ.ย. หรือเพียง 48 ชั่วโมงก่อนที่น้ำจะเข้าท่วมเมืองกลางดึกคืนวันที่ 22 พ.ย. ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่ทำให้ประชาชนนับแสนต้องเผชิญชะตากรรมโดยไม่มีการเตรียมพร้อม
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. "สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับน้ำท่วมหาดใหญ่ ชี้ "ระบบเตือนภัยล้มเหลว" โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
"น้ำท่วมหาดใหญ่คราวนี้ เสียงสะท้อนออกมาตรงกันว่า "ระบบเตือนภัยมีปัญหา" ฝนตกหนักระดับ “Rain Bomb” ในพื้นที่หาดใหญ่และหลายจังหวัดในภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. จนถึงวันที่ 22 พ.ย. ปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วัน วัดได้ 595 มิลลิเมตร มากกว่าปี 2553 (516 มิลลิเมตร) ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ เสียหายนับหมื่นล้านมาแล้ว
ปีนี้ ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองหาดใหญ่กลางดึกคืนวันที่ 22 พ.ย. โดย "แก้มลิงคลองเรียน" ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้แล้ว
ตามแผนเผชิญเหตุฯ จะต้องมีการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าก่อนเกิดสาธารณภัยไม่ต่ำกว่า 120 ชั่วโมง หรือ 5 วัน ซึ่งหากนับเอาวันที่ 22 พ.ย.เป็นจุดวิกฤต เท่ากับว่าต้องออกประกาศเตือนภัยตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.
และหากข้อมูลที่มียืนยันว่ามีโอกาสเกิดสาธารณภัยมากกว่าร้อยละ 60 ให้แจ้งเตือนภัยไม่ต่ำกว่า 72 ชั่วโมง หรือวันที่ 19 พ.ย. (ซึ่งเป็นวันที่ฝนตกหนัก ระดับน้ำเริ่มสูง)
แต่ในวันที่ 20 พ.ย. หรือ 48 ชั่วโมงก่อนเกิดสาธารณภัยน้ำท่วม ทางศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่มีนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่เป็นผู้อำนวยการ ยังเพิ่งออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 และแจ้งว่า “อยู่ในสภาวะปกติ ธงเขียว”
นี่คือความผิดพลาดร้ายแรงในการบริหารจัดการภัยพิบัติ และทำให้คนหาดใหญ่นับแสนต้องเผชิญชะตากรรม สูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน บ้าน รถ จมน้ำนับร้อยนับพัน มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่าหมื่นล้านบาท (เทียบกับน้ำท่วมใหญ่ปี 2553)"


