รถไฟบรรทุกน้ำมันตกรางในจังหวัดโพธิสัตว์ กัมพูชา จากเหตุดินทรุดตัวตามแนวราง ส่งผลให้น้ำมันรั่วไหลจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมเขมรรุดแจง เป็นน้ำมันนำเข้าจากสิงคโปร์ ไม่ใช่จากไทยตามที่หลายคนสงสัย
Phnom Pehn Post สื่อมวลชนกัมพูชา รายงานว่า เกิดเหตุรถไฟบรรทุกน้ำมันตกราง ในจังหวัดโพธิสัตว์ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ทำให้น้ำมันจำนวนมากรั่วไหล ซึ่งนายฟาน ริม โฆษกกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ได้แถลงเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ชี้แจงต่อคำถามของประชาชนออนไลน์เกี่ยวกับแหล่งที่มาของสินค้าดังกล่าว
นายริมกล่าวว่า เขาสังเกตเห็นว่ามีประชาชนและผู้สื่อข่าวบางรายตั้งคำถามมาทางออนไลน์เกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันดีเซล เช่น “น้ำมันมาจากไหน? นำเข้าผ่านด่านใด? เป็นของบริษัทใด?”
นายริมระบุว่า “รถไฟขบวนหมายเลข 6535 กำลังขนส่งถังน้ำมัน 25 ตู้ของบริษัท Sokimex (นำเข้าจากสิงคโปร์ผ่านท่าเรืออัตโนมัติสีหนุวิลล์)”
“รถไฟออกจากสถานีพนมเปญ มุ่งหน้าไปยังสถานีบึงปรง จังหวัดพระตะบอง เพื่อกระจายน้ำมันไปยังจังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ไม่ได้นำเข้าจากประเทศไทยตามที่บางคนคาดเดาโดยไม่มีแหล่งข้อมูลหรือการตรวจสอบที่ถูกต้อง” นายริมกล่าว และว่า ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนรอแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากบริษัทน้ำมันในเร็ว ๆ นี้
สาเหตุของเหตุรถไฟตกรางครั้งนี้ มาจากดินทรุดตัวตามแนวราง ทำให้ตู้บรรทุกน้ำมัน 4 จาก 25 ตู้พลิกคว่ำ บริเวณจุด PK191+600 บนเส้นทางรถไฟสายเหนือในอำเภอบากัน จังหวัดโพธิสัตว์
นายริมกล่าวว่า การซ่อมแซมรางรถไฟได้รับความเสียหายเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 17 พฤศจิกายน และรถไฟสามารถผ่านได้ชั่วคราว โดยเมื่อเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 18 พฤศจิกายน โดยรางรถไฟหนึ่งรางกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ขั้นตอนต่อไปคือการเคลื่อนย้ายถังน้ำมันที่พลิกคว่ำกลับไปยังพื้นที่จัดเก็บของบริษัท
ขณะที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน โดยระบุว่า คณะทำงานของกระทรวงร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและบริษัทขนส่งดำเนินมาตรการเร่งด่วน รวมถึงห้ามประชาชนเก็บน้ำมันที่รั่วไหลเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและจำกัดการปนเปื้อน
เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตรวจสอบสุขภาพของประชาชนที่อาศัยใกล้พื้นที่เกิดเหตุ และได้เสริมแนวกั้นเพื่อป้องกันน้ำมันไม่ให้กระจายเข้าสู่พื้นที่นาและบ่อน้ำในชุมชน
บริษัทถูกสั่งให้ขจัดคราบน้ำมันทั้งหมดบนรางรถไฟ และต้องเก็บรวบรวมและจัดเก็บวัสดุปนเปื้อนตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม ขณะนี้ทีมเทคนิคของกระทรวงยังคงร่วมกับท้องถิ่นติดตามการทำความสะอาดและเก็บตัวอย่างน้ำในพื้นที่เสี่ยงเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์
นายไคว อธิตย์ โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชา ระบุว่า นี่เป็นเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งที่ 2 ในรอบเพียง 4 เดือน โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่จังหวัดพระตะบอง
“การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและการป้องกันมลพิษต้องใช้เวลานาน อาจต้องใช้เวลาถึง 3 เดือนในการทำให้พื้นที่กลับมาสะอาดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของประชาชน” เขากล่าว
เขาเสริมว่า ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีตู้บรรทุกน้ำมัน 4 ตู้ตกราง และเกิดการรั่วไหล โดยส่วนใหญ่ถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่รางรถไฟประมาณ 6,000 ตารางเมตร


