xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ” หวังไทยเป็นศูนย์กลางผลิตไฟฟ้าสีเขียว เล็งถมทะเลเพิ่มที่ดินหลายแสนไร่ หาเงินใหม่ๆ เข้าประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ทักษิณ” หวังสร้างไทยเป็นศูนย์กลางไฟฟ้าสีเขียว ลั่น รัฐกู้อีกไม่ได้ คาดถมทะเลเพิ่มที่ดินหลายแสนไร่ รองรับเช้าที่ดิน 99 ปี ดึงเงินเอกชน-ตปท.ลงทุน หาดงเยใหม่ๆ เข้าประเทศ

เวลา 19.45 น. วันที่ 17 ก.ค. 68 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปฐกถา ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤตโลก และพลิกเกมเศรษฐกิจไทย..สู่อนาคต ในงานเสวนาปลดล็อคอนาคตประเทศไทยสู้วิกฤตโลก(Unlocking Thailand’s Future) ในประเด็นการขุดคลอง ถมทะเล ว่า เรื่องที่ตนอยากสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศในหลายๆ มุม โดยตนพยายามพูดหลายรอบว่าเราอยากสร้างนิเวศน์ทำมาหากินใหม่ๆ ให้กับกลุ่มนั้นบ้าง กลุ่มนี้บ้าง ซึ่งตนเคยพูดว่าวันนี้เราตั้งงบประมาณขุดคลอง ลอกคลอง ขุดร่องน้ำ และแม่น้ำ เมื่อขุดแล้ววางไว้บนตลิ่งพอฝนตกก็ชะลงไปใหม่ หากเราอนุญาตให้แก้กฎหมาย กฎระเบียบ ให้ประชาชนขุดดิน ขุดทรายในคลองเอาไปขายหรือถมดินได้เลย แต่มีกติกาว่าต้องรักษาตลิ่งไม่ให้พังจะทำให้เกิดนิเวศน์ใหม่ รถขนดินเยอะขึ้น มีเรือท้องแบนสำหรับใส่ทรายใส่ดิน และจะทำให้ร่องน้ำกว้างขวางขึ้น ลึกขึ้น น้ำไม่ท่วม ขณะเดียวกันประชาชนได้เงินใช้ เรื่องนี้ทำยากมาก เพราะระบบราชการและกฎหมายไม่เอื้ออำนวย

ส่วนอีกเรื่อง ที่วันนี้กำลังก้าวหน้าไปเยอะ คือเรื่องถมทะเล โดยเราอยากป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ฉะนั้นทุกประเทศมีการถมทะเล (land reclaim) ของเรายังไม่ค่อยทำ แต่มีทำแถวมาบตาพุด แต่หากเราทำตรงนี้จะได้ที่ดินขึ้นมาอีกหลายแสนไร่ เพราะเราจะมีเรื่องทรัพย์อิงสิทธิ์ 99 ปีอยู่แล้ว ก็จะทำให้คนกล้าลงทุนเอาดินไปถมทะเล แต่เราจะต้องมีผังให้ชัดว่า แต่ละเกาะให้ทำอะไร วันนี้เราต้องหาการเงินใหม่ๆ โดยเฉพาะเงินภาคเอกชนและเงินต่างประเทศ เข้ามาช่วยลงทุนให้ไทย เพราะวันนี้รัฐกู้อีกไม่ไหว เนื่องจากเต็มยันเพดานแล้ว ก็เลยต้องให้จีดีพีโตขึ้น เพื่อให้มันลดลงมา ถึงจะเอาเงินไปใช้จ่ายได้ แต่จีดีพีจะลด ก็ต้องมีรายได้ มีเงินใหม่ๆ เข้ามา โดยเรื่องถมทะเลนี้ตนเชื่อว่าหลายประเทศสนใจ แต่หากสมมติว่าถมทะเลกับการลอกคลองไปด้วยกันได้ แม่น้ำเจ้าพระยาจะหายตื้นเขินแล้วไปถมทะเลอยู่ใกล้ๆ ตรงนั้น ก็จะทำให้ราคาถูกลง


นายทักษิณยัง กล่าวอีกว่า ในเรื่อง Ecosystem ซึ่งวันนี้เน้นย้ำไปหลายรอบว่าเราจะต้องตั้งภาษีสรรพสามิต สำหรับรถที่นำเข้าโดยไม่มี local content ซึ่งบางทีเราตกอยู่ในสัญญาการค้าเสรี (FTA) ที่เอาเข้ามาโดยภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ แต่เราสามารถเก็บภาษีสรรพสามิตได้ โดยเราจะเก็บตามอัตรา ตามสัดส่วน local content หรือสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในประเทศไทย เอาไปใช้ประกอบ เช่น เบาะรถยนต์ ยางรถยนต์​ ซึ่งเรามีเองเยอะแยะ ถ้าเราไม่รักษาตรงนี้ไว้ อีกหน่อยนิเวศน์ที่เราสร้างมาหลายสิบปีพัง ฉะนั้นวันนี้ต้องจริงจัง และเราจะสร้างอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าของเราให้ได้ เพราะเทคโนโลยีพวกนี้ไม่ยากอะไรเลย แต่จะไปยากตอนที่ทำรถไม่มีคนขับ ซึ่งพวกนั้นต้องใช้ชิพ แต่ตอนนี้หากเราดีไซน์รถตุ๊กๆ ใหม่เป็นดีไซน์ของไทยเลย และทำเป็นไฟฟ้าให้หมดแล้วนำมาแทนตุ๊กๆ ปัจจุบัน ทำให้ปลอดภับและประหยัด เรื่องเหล่านี้สามารถทำได้หมด ตนจึงอยากให้ช่วยกันรักษานิเวศน์ที่ดีอยู่แล้วของอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เข้มแข็งต่อไป เพราะต่อไปข้างหน้านอกจากจีนแล้ว ไทยเรายังต้องเป็นศูนย์ผลิตรถยนต์​ได้ รถยต์ไฟฟ้าก็ไม่ได้เป็นเรื่องเทคโนโลยีที่ยาก สามารถดึงนักลงทุนต่างประเทศมาร่วมลงทุนกับไทยได้

อย่างไรก็ตาม วันนี้เรานำเข้าน้ำมันดีเซล 60 ล้านลิตรต่อวัน น้ำมันเบนซิน 25 ล้านลิตรต่อวัน และน้ำมันอื่นๆ อีกประมาณ 10 ล้านลิตรต่อวัน เท่ากับโรงงานผลิตไฟฟ้า 40,000 เมกะวัตน์ สมมติว่าเราผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 40,000 เมกะวัตน์และรถใช้ไฟฟ้าหมด เราก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำมัน ฉะนั้นสมมติว่าเราอยากทำตัวเป็นศูนย์กลางไฟฟ้าสีเขียว เราจะทำโซล่าฟาร์ม ซึ่งผลิตได้ 40,000 เมกะวัตน์แทนที่น้ำมันนำเข้า เราจะใช้ที่ดินประมาณ 1.4 ล้านไร่ เพื่อเป็นระบบโซล่าเซลล์ 24 ชั่วโมง ซึ่งเราสามารถหาได้เยอะแยะ เพราะเรามีที่ดิน สปก. 40 ล้านไร่และมีแต่เพิ่มขึ้นทุกวัน เนื่องจากมีการส่งมอบเพิ่มขึ้น โดยเราจะเป็นคนที่ขายไฟฟ้าสีเขียวแล้ว data center ทั้งหลายจะมาที่ประเทศไทย วันนี้ data center ที่จะมาไทยปรากฎว่าติดไฟฟ้าสีเขียวไม่พอ หากวันนี้เราไปตั้งฟาร์มในพื้นที่อีสาน แล้วลากสายตรงมากรุงเทพฯ ไม่ต้องไปผ่านของเก่า ตนคิดว่าราคา 3 บาทต่อยูนิตยังเอาอยู่ ส่วนนี้จะทำให้ประเทศเรามีศักยภาพในการแข่งขันด้านไฟฟ้าสีเขียว data center วันนี้เหมือนอสังหาริมทรัพย์ (real eastate) สมัยที่กำลังบูมๆ โดยเขาไปซื้อที่ดินที่มีไฟฟ้าสีเขียวส่วนหนึ่ง มีน้ำและอยู่ใกล้เมืองใหญ่ โดยวันนี้เริ่มทำเป็นธุรกิจ สมมติว่าหากตนมาทำในประเทศไทย 10 แห่ง ไปทำในลาว 5 แห่ง ในมาเลเซีย 20 แห่ง แล้วนำทั้งหมดเข้าตลาดหลักทรัพย์ เหมือนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (real eastate) สร้างเสร็จขาย หรือไม่ก็ปล่อยเช่า วันนี้เริ่มเกิดขึ้นในยุโรป ตนมองว่าประเทศไทยควรถือโอกาสวันนี้รีบผลิตไฟฟ้าสีเขียวให้ได้ และเอา data center มาไว้ที่ประเทศไทย เรียกว่าเป็นเอมบาสซีของโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น