พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ออกมาแถลงสยบข่าวลือถึงสองประเด็นร้อนแรงอย่างเด็ดขาด โดยยืนยันว่า เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ฟอน ลิกเตนสไตน์ เสด็จฯ มาเยือนโรงพยาบาลตามปกติ ไม่ใช่เพื่อการซื้อหุ้น พร้อมกันนี้ยังประกาศจุดยืนอย่างหนักแน่นเรื่องการต่อสู้คดีขู่กรรโชกทรัพย์ที่ศาลอาญา ว่าตนจะใช้ "ศักดิ์ศรี" และต่อสู้ในชั้นศาลให้ถึงที่สุด โดยไม่มีทางหลบหนีคดีอย่างแน่นอน
วันนี้ (17 พ.ย.) "หมอเหรียญทอง" พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหน้า ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเกี่ยวกับข่าวการมาเยือนของ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ฟอน ลิกเตนสไตน์ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 พร้อมทั้งตอบคำถามที่เกี่ยวกับประเทศลิกเตนสไตน์และการดำเนินคดีที่ตนกำลังเผชิญอยู่ โดย “หมอเหรียญทอง” ได้ระบุข้อความว่า
"1. มีข่าวว่า เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ฟอน ลิกเตนสไตน์ มา รพ.มงกุฎวัฒนะเมื่อ 13 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา เพราะมีความสนพระทัยซื้อหุ้น บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด (มหาชน) หรือ รพ.มงกุฎวัฒนะ
ผมขอเรียนว่า "ไม่เป็นความจริงนะครับ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ แค่มาเยี่ยมเยียน รพ.มงกุฎวัฒนะเท่านั้น"
2. มีหลายท่านไม่เคยได้ยินประเทศชื่อ 'ลิกเตนสไตน์'
ผมขอเรียนว่า ประเทศลิกเตนสไตน์เป็น 'ราชรัฐ' ไม่ได้มีขนาดใหญ่จนถึงกับเป็น 'ราชอาณาจักร' เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดอันดับ 4 ในทวีปยุโรป (เล็กที่สุดอันดับ 6 ของโลก) ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่ในยุโรปกลาง มีพรมแดนด้านตะวันตกติดกับประเทศออสเตรีย ส่วนด้านตะวันออกติดกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ถึงแม้จะมีขนาดเล็กและเต็มไปด้วยภูเขาสูง แต่มีทิวทัศน์เหมือนสวิตเซอร์แลนด์ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นที่นิยมของนักเล่นกีฬาฤดูหนาว
มีประชากรประมาณ 40,000 คน ปกครองแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเฉลี่ยต่อคนสูงที่สุดในโลก เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจสูง และเก็บภาษีต่ำมาก
เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ สมาคมการค้าเสรียุโรป และสภายุโรป ถึงแม้จะไม่ใช่สมาชิกของสหภาพยุโรป แต่ลิกเตนสไตน์ก็มีส่วนร่วมในพื้นที่เชงเกน และเขตเศรษฐกิจยุโรป และมีสหภาพศุลกากรและสหภาพการเงินร่วมกับสวิตเซอร์แลนด์
3. มีน้องๆ ถามผมว่า ทำไมพี่เหรียญไม่ไปซื้อที่ดิน ปลูกบ้านที่ลิกเตนสไตน์
ผมขอเรียนว่า "ผมไม่รวยพอที่จะมีบ้านเล็กๆ ที่ลิกเตนสไตน์ ผมมีชีวิตที่เรียบง่าย ชอบอาหารไทย เกิดบนราชอาณาจักรไทย ขอตายบนราชอาณาจักรไทยครับ"
4. มีเพื่อนๆ ล้อเล่นว่า วันพฤหัสบดีที่ 20 พ.ย. 68 ที่จะถึงนี้ หากผมไม่ไปศาลอาญาหลบหนีคดีขู่กรรโชกโทรศัพท์มือถือราคา 2 พันบาทของไอ้กุ๊ยขี้ยาสูบบุหรี่เสพเฮโรอีนใน รพ.มงกุฎวัฒนะตามคำฟ้องของอัยการ แสดงว่าผมคงจะหนีคดีอาญาไปอยู่ที่ลิกเตนสไตน์ หรือไม่ก็ออสเตรเลีย
ผมขอเรียนว่า ผมจะหนีคดีไอ้กุ๊ยเฮโรอีนส้นตีนทำไมกันล่ะครับ ถึงแม้ผมจะไม่ร่ำรวย แต่ผมก็มีธุรกิจหลายพันล้านบาทที่ต้องรับผิดชอบ มีมูลค่ามากกว่าโทรศัพท์มือถือแค่ 2 พันบาท ผมจะขู่กรรโชกไปเพื่ออะไร
ถ้าผมจะต้องติดคุกตามที่ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเกลี้ยกล่อมให้ผมรับผิด ผมก็ขอสู้ครับ ทั้งๆ ที่สัมผัสได้ว่าผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะตัดสินผมอย่างไร ผมไม่กลัวผู้พิพากษาหรอกครับ ผู้พิพากษาก็เป็นคนมีรัก โลภ โกรธ หลง ถึงแม้ท่านจะหวังดีเผยให้ผมรับรู้ว่าท่านจะตัดสินผมอย่างไร ผมก็จะสู้
ถึงแม้ผมจะแพ้ศาลชั้นต้นทั้งที่สัมผัสได้จากท่าทีของผู้พิพากษา หากผมต้องติดคุก ผมก็ขออุทธรณ์ หากศาลอุทธรณ์ยืนให้ติดคุก ผมก็ขอฎีกา หากศาลฎีกายืนให้ติกคุก ผมก็ติดคุก
ถึงแม้ชีวิตบั้นปลายของผมจะลำบาก แต่คนอย่างผมมีเกียรติและศักดิ์ศรีมากเกินพอที่จะไกล่เกลี่ยไอ้กุ๊ยขี้ยา เพราะกฎหมายหน่อมแน้มคุ้มครองเยาวชนที่กระทำผิดที่ไหนก็ได้ตามอำเภอใจ วันพฤหัสบดีที่ 20 พ.ย. 68 ผมก็ไปรายงานตัวที่ศาลอาญา และขอประกันตัวสู้คดี สู้จนถึงที่สุดไงล่ะครับ"
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
กรรมการผู้จัดการ บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด (มหาชน)
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
ประธาน บริษัท วิไลศิริ จำกัด
ประธานมูลนิธิ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อผู้ป่วยโรคร้ายแรง(มวรร)
17 พ.ย. 68 เวลา 08.37 น."


