โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงเสียใจเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ อ้างไม่ได้วางใหม่แต่เป็นทุ่นระเบิดเก่าตกค้างจากยุคสงครามกลางเมือง แนะทหารไทยอย่าลาดตระเวนพื้นที่นั้น เผยสถานการณ์ปกติแล้ว หลังทหารแนวหน้าทั้งสองฝ่ายสื่อสารกัน
เช้าวันนี้ (11 พ.ย.) พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชาขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนในพื้นที่ที่ยังมีทุ่นระเบิดเก่าหลงเหลือจากสงครามกลางเมืองกัมพูชาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568
“ขณะเดียวกัน ตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงวันนี้ สื่อมวลชนไทยหลายสำนักได้เผยแพร่แถลงการณ์โดยอ้างคำพูดของผู้นำและเจ้าหน้าที่ทหารไทยที่กล่าวหากัมพูชาว่าวางทุ่นระเบิดใหม่ และทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัสในจังหวัดพระวิหาร กระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาขอประกาศปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ของฝ่ายไทยที่มีต่อกัมพูชา
กระทรวงกลาโหมขอย้ำว่านับตั้งแต่เข้าเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา กัมพูชาได้ยึดมั่นในหลักการและพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศมาโดยตลอด โดยไม่วางทุ่นระเบิดใหม่ที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของมนุษยชาติ
แท้จริงแล้ว แม้จะมีความพยายามในการกวาดล้างทุ่นระเบิดในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นเศษซากจากสงคราม ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของชาวกัมพูชาผู้บริสุทธิ์ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวชายแดนกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศไทย
ในเรื่องนี้ กระทรวงกลาโหมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยงดการลาดตระเวนในพื้นที่ทุ่นระเบิดเก่า โดยเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีทุ่นระเบิด เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการระเบิดทุ่นระเบิดเก่าเหล่านี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความตึงเครียดที่ไม่จำเป็น
ตามข้อมูลที่ได้รับจากภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา หลังจากเกิดเหตุการณ์ กองกำลังทั้งสองฝ่ายที่อยู่แนวหน้าได้ติดต่อสื่อสารกัน และ ณ เวลานี้สถานการณ์ยังคงสงบและปราศจากความตึงเครียด
กระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายไทยเพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างหลักประกันความมั่นคงและความปลอดภัยของพลเรือน ตามปฏิญญาร่วมว่าด้วยสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568” โฆษกกลาโหมกัมพูชาระบุ


