xs
xsm
sm
md
lg

"หมอวรงค์" จี้รัฐบาลหยุดเจรจา JBC ชี้กัมพูชาปฏิเสธสร้างรั้วชายแดน แถมยังยึดแผนที่ 1:200,000 ถามทำไมไม่รอผลประชามติยกเลิก MOU 43/44

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ตั้งคำถามแรงถึงรัฐบาล หลังการประชุม JBC ว่า ทำไมไม่รอผลประชามติยกเลิก MOU 43/44 ก่อนเดินหน้าเจรจา? พร้อมชี้ประเด็นสำคัญที่น่ากังวล กัมพูชาปฏิเสธพิจารณาข้อเสนอสร้างรั้วชายแดน และ การใช้เทคโนโลยี LiDAR ทำแผนที่ใหม่ ยังต้องอ้างอิงแผนที่ 1:200,000 ที่ไทยไม่ยอมรับ โดยนายกฯ กัมพูชา ยังยึดแผนที่นี้เป็นฐานการเจรจา ทำให้ประเทศมีความเสี่ยงเสียดินแดน

จากกรณี รมว.กลาโหม แถลงผลประชุม GBC ที่มาเลเซีย เผยเป็นครั้งแรกที่กัมพูชาให้ความร่วมมือไทยมากขึ้น เห็นพ้องทำแผนถอนอาวุธหนัก ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิดโดยไม่เกี่ยงเรื่องเขตแดน ปราบไซเบอร์สแกมโดยตำรวจ 2 ฝ่ายตั้งกองกำลังเฉพาะกิจร่วมกวาดล้าง จัดการพื้นที่บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้วโดยร่วมสำรวจจากหลักเขตที่ 42-47 เพื่อปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่าย แต่ย้ำทั้ง 4 ข้อต้องคืบหน้า จึงจะยุติการเป็นปฏิปักษ์

ล่าสุด วันนี้ (23 ต.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom” ตั้งคำถามถึงรัฐบาล ว่าทำไมรัฐบาลไม่รอผลการลงประชามติของประชาชน ว่าจะยกเลิก MOU 43/44 ก่อน แล้วจึงค่อยเจรจาต่อ? การเดินหน้าเจรจาตอนนี้อาจทำให้ประเทศเสียเปรียบ โดย  นพ.วรงค์ ได้ระบุข้อความว่า

"การประชุมJBC ที่สิ้นสุดลงล่าสุด จากจ.จันทบุรี มีประเด็นที่น่าสนใจ เฉพาะที่สำคัญคือ
ฝ่ายไทยมีการเสนอพิจารณาการสร้างรั้ว เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดน ยาเสพติด แต่ผู้แทนฝ่ายกัมพูชา ระบุว่าไม่มีอำนาจในการหารือกรณีนี้ จึงได้นำประเด็นออกจากการหารือ และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดการแก้ไข Terms of Reference 2003 (TOR 2003) เกี่ยวกับการจัดทำแผนที่ภาพถ่าย (Orthophoto Maps) เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Light Detection and Ranging (LiDAR) มาใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย

1.สิ่งที่ต้องถามรัฐบาล การที่ไทยเราเสนอสร้างรั้ว แล้วเขมรไม่รับพิจารณา ท่านจะดำเนินการอย่างไรต่อ??

2.ส่วนการใช้เทคโนโลยี LiDAR เพื่อใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย โดยมาทดแทน Orthophoto Maps
ท่านก็ไม่ได้อธิบายประชาชนว่า ประเทศยังมีความเสี่ยงเสียดินแดน เพราะในTORเดิม ยังระบุว่า การทำแผนที่ใหม่นี้ ต่อให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ LiDAR แต่ก็ยังใช้พื้นฐานมาจากแผนที่ มาตราส่วน 1ต่อ2แสนอยู่ดี แม้จะอ้างว่ายังมีอนุสัญญา1904 และสนธิสัญญา1907 รวมทั้งเอกสารอื่นๆ อย่าลืมว่าศาลโลกเคยตัดสินไว้อย่างไร

3.ที่สำคัญนายฮุน มาเน็ต ยังได้โพสต์ลงแฟนเพจวันที่ 23 ต.ค.นี้เองว่า ทั้งสองฝ่ายได้ยึดแผนที่มาตราส่วน 1ต่อ2แสน(เขาจะเกาะไว้แน่นทั้งๆที่เราไม่ยอมรับ และยังมาโพสต์อ้างแผนที่นี้)) และสนธิสัญญา1907 ซึ่งจริงอยู่ตำแหน่งนี้ เราอาจจะกังวลน้อยกว่า ตำแหน่ง ระยะทาง195 กิโลเมตร ที่ไม่มีหลักหมุดตั้งแต่ ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษไปยังช่องบก จ.อุบลราชธานี ซึ่งอนุสัญญาระบุหลักสันปันน้ำ และแผนที่1ต่อ2แสนที่เอาเปรียบเรายังค้ำอยู่

การที่รัฐบาลปล่อยให้มีการเจรจาJBCเดินหน้าลึกไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่รัฐบาลจะให้ประชาชนลงประชามติว่า จะยกเลิก MOU43/44 หรือไม่ ทำไมพวกท่านไม่รอความชัดเจนจากผลประชามติเสียก่อน จะไม่ดีกว่านี้หรือ??"


กำลังโหลดความคิดเห็น