นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า อย่ากลัว หาก สว.จะแก้ กม.ประชามติ จากร่างเดิมของ ส.ส.
30 กันยายน 2567 คือวันที่ วุฒิสภานัดประชุมเพื่อลงมติวาระ 2 และ 3 ใน พ.ร.บ.ประชามติ ที่อยู่ในขั้นวุฒิสภา
ประเด็นที่หวาดหวั่นกันคือ การแก้กลับไปใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น (double majority) สำหรับการทำประชามติเรื่องสำคัญ เช่น แก้รัฐธรรมนูญ ว่า ชั้นที่ 1 ต้องมีผู้มาใช้สิทธิเกินครึ่ง และชั้นที่สอง มติที่ชนะก็ต้องเกินครึ่งของผู้มาใช้สิทธิ
ความเป็นห่วง คือ หากกลับไปใช้เกณฑ์นี้ หากรัฐบาลจะจัดให้มีการลงประชามติแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ในเดือน กุมภาพันธ์ ปีหน้าจะไม่ทัน
เพราะ หากส่งกลับไปที่สภาผู้แทนแล้ว สส.เห็นต่าง สส.จะยืนยันอีกครั้งได้ก็ต้องรอไว้ 180 วัน
หลายคนเลยแปลว่า เดือน กุมภา ไม่ทันแน่ และกว่าจะมี กม. ประชามติที่รัฐบาลอยากได้ ก็อาจเป็นเกือบปลายปี 2568 โน่น
ทางออกในเรื่องนี้
1. รอลุ้น สว. จะลงมติเรื่องนี้ ตามเสียงข้างมากของกรรมาธิการ (ใช้ 2 ชั้น) หรือ ตามเสียงข้างน้อย (ใช้ 1 ชั้น)
2. หากสุดท้ายร่างของ วุฒิ ในการลงมติวาระ 3 เป็นแบบ double majority รัฐบาลก็ไม่ต้องปอดแหก เลื่อนความตั้งใจจัดประชามติแก้รัฐธรรมนูญออกไปจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568
3. เนื่องเพราะ คาดว่าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีการเลือก ส.อบจ. ทั้งประเทศ ซึ่งไม่ยากที่จะมีคนมาใช้สิทธิเกินครึ่งอยู่แล้ว จึงไม่สมควรวิตกว่า หากทำประชามติ จะไม่ผ่านด่านแรก
4. ครม. จึงควรมีมติให้มีการทำประชามติเพื่อให้มี สสร. จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับได้เลย โดยไม่ต้องสนใจว่า พ.ร.บ.ประชามติ จะมีหลักเกณฑ์ double majority หรือไม่ เพราะไม่ว่าจะมีหรือไม่มี หากจัดในวันที่ 2 ก.พ. 2568 คนก็ควรมาใช้สิทธิเกินครึ่งค่อนข้างแน่
5. หาก ครม. ยังยึกยัก ไม่ยอมให้มีการลงประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ก็สมควรให้ด่าพรรคเพื่อไทยและ รองนายก ฯ ภูมิธรรม ที่เป็นตัวหลักในเรื่องนี้ ว่า ตระบัดสัตย์ อีกรอบได้เลย