ชาวเน็ตโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นร้อน กรณี "กัน จอมพลัง" รับงานจากภาครัฐ โดยตั้งคำถามสวนกลับว่า หากไม่มีข้อผิดกฎหมายชัดเจน การจ้างคนที่รู้จักและไว้ใจก็เป็นเรื่องปกติ พร้อมยกตัวอย่างกรณีของพรรคก้าวไกลและสื่อมวลชนที่เคยรับงานภาครัฐเพื่อเปรียบเทียบ นอกจากนี้ โพสต์ดังกล่าวยังขยายประเด็นไปถึงการรับบริจาค โดยยืนยันว่ากัน จอมพลัง มีเอกสารชี้แจงสรรพากร และชี้ให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศว่า แทนที่จะมุ่งโจมตีความช่วยเหลือจากภาคประชาชน ควรรณรงค์ให้คนไทยส่วนใหญ่กว่า 3 ใน 4 ที่อยู่นอกระบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เข้ามาทำหน้าที่พลเมืองให้ถูกต้องก่อน แทนที่จะ "สอนให้ประชาชนเป็นขอทาน รอความหวังจากรัฐ"
วันนี้ (21 ต.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Izana Rungruangthanya" วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นเกี่ยวกับการทำงานของ "กัน จอมพลัง" ให้กับภาครัฐ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมือง การรับบริจาค และระบบภาษี โดยได้ระบุข้อความว่า
"กันจอมพลังรับงานรัฐแล้วไงอะ ถ้ามีตรงไหนผิดกฎหมายก็ระบุมาเลย ผิดก็ว่าไปตามผิด ก็แค่นั้น แต่นี่ไม่ ตัวเองก็บอกเองว่าไม่ผิด แค่เน้นย้ำความสนิท
แล้วตอนก้าวไกลมีกรณีล็อบบี้ประมูลจัดเลี้ยงสส. นี่สนิทกันมากปะอะ ตอนที่มีข่าวสส.เชียงใหม่ก้าวไกล ทิ้งงานทำถนนที่แพร่ สนิทกับภาครัฐมากมั้ย
แยม ฐปนีย์ เดอะรีพอร์ตเตอร์ก็รับนี่ หลายงานเลยนะ ส่วนมติชนนี่ใครเป็นเจ้าของนะ รับงานโรดโชว์ยุคยิ่งลักษณ์ฉ่ำ ๆ 240 ล้านบาท
เอ้า อย่างน้อยคุณไปถามเขาเรื่องรับบริจาค บัญชีถูกต้องไหม เขาก็บอกมีเอกสารแจงสรรพากรอยู่นะ ดีกว่าคนสนับสนุนพรรคคุณ หรือแม้แต่พรรคคุณเอง ที่มีบ้างไม่มีบ้าง ไม่คิดจะเปิดเผยบัญชีแถมด่าคนไปทวงถามก็มี
นี่ไม่ใช่บอกว่าเขาทำได้ใครก้ทำได้นะ แต่สามัญสำนึกคือ ถ้ากฎหมายเปิดไว้ ว่างานไม่เกินกี่บาทจ้างใครทำก็ได้ เราก็ต้องจ้างคนที่เราไว้ใจไหม คนที่เรารู้จัก รู้ว่าให้งานไปงานจะออกมาตามเป้าหมาย จะกลุ่มการเมืองเดียวกันก็เรื่องปกติ แต่ถ้างานไหนต้องประมูลแล้วมีลับลมคมใน นั่นอีกเรื่อง
จริง ๆ เรื่องสแกมเมอร์นี่นานแล้ว เบน สมิธ นี่ชื่อโผล่มานานแล้ว แปลกดีที่ตอนนั้นพรรคประชานไม่นำมาโจมตีรัฐบาลแพทองธาร ทักษิณบอกไม่สนิทก็เชื่อ แต่ธรรมนัสบอก ไม่เชื่อ เอามาตามโจมตีในรัฐบาลภูมิใจไทย
เกมการเมืองนี่ เก็บข้อมูลไว้ใช้โจมตีรัฐบาลที่ตัวเองยกมือโหวตให้มากับมือ ทั้งทีมีข้อมูลอยู่ในมือนานแล้วไม่ใช่้ เท่ากับเวลาที่ผ่านมา ถ้าเขาเป็นคนผิดจริง นอกจากจะสนับสนุนให้เขาได้อยู่ในอำนาจแล้ว ยังไม่เท่ากับให้เวลาเขาได้ทำผิดนานขึ้นกว่าเดิมอีกเหรอ
นิ้วกลมเอาคำพูดของเฮนนิ่ง เวน นักแสดงตลกชาวเยอรมนี มาเปิดโพสต์ว่า โดยอ้างอิงคำพูดว่า "ที่เยอรมันเราไม่บริจาคกัน เราจ่ายภาษี การเปิดรับบริจาคเป็นความล้มเหลวของความรับผิดชอบของรัฐบาล"
โพสต์นั้นชื่อว่า "สังคมดีขึ้นได้โดยไม่ต้องมีจอมพลัง"
ข้อแรก คำพูดของเวนเป็นการเสียดสึสังคมเยอรมัน เป็นการแสดงแนวคิดของตัวเขาเอง ไม่ได้สะท้อนความจริงในเยอรมนี หนึ่งในประเทศมีที่อัตราการเก็บภาษีสูงที่สุดในโลก เพราะในความเป็นจริง คนเยอรมันบริจาคเยอะมาก ปกติแล้วเกินปีละ 5 พันล้านยูโร
ทั้งที่เขาเก็บภาษีอย่างโหดแล้วนั่นล่ะ คำถามคือ ภาษีที่รัฐบาลเก็บ ไม่ว่าประเทศไหน มันเพียงพอต่องบประมาณรายจ่ายของรัฐไหม ไม่พอหรอก ไม่ว่าจะประเทศไหน จิ้มเอาเลย ไม่อย่างนั้นจะทำงบขาดดุลกันทั่วโลกทำไม
สวีเดนที่ว่าแน่ ๆ ยังต้องประกาศรับคนต่างชาติวัยแรงงานไปทำงาน เพราะเข้าสู่สังคมสูงวัย คนเกิดน้อย คนแก่เยอะ ตายยาก ภาษีที่มาอุดหนุนบำนาญลดลง เลยต้องเปิดประเทศรับแรงงานชั้นดี แถมตอนนี้ซวยหน่อย ต้องเปิดรับผู้อพยพ ทำสังคมไม่พอ งบประมาณจะใช้ยังตึงมืออีก
ส่วนสหรัฐอเมริกาปีที่แล้วบริจาครวมกัน 5925 พันล้านเหรียญ (เยอรมนีมีประชากรราว 83.5 ล้านคน สหรัฐอเมริกามี 340 ล้านคน)
แล้วไทยเรามีคนอยู่ในระบบภาษีเท่าไหร่ก่อน วัยแรงงาน 40+ ล้านคนได้ มีคนอยู่ใระบบภาษีวัดจากคนละครึ่งพลัสส่าลุด คือ 9 ล้านคน หมายความว่าคนอีก 3 ใน 4 ไม่อยู่ในระบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ขนาดแม่ค้าจะเข้าคนละครึ่งพลัสยังกลัวการถูกเก็บภาษีย้อนหลัง แต่ปากก็บอกอยู่นะฉํนจะเข้าร่วมคนละครึ่งพลัสในฐานะผู้ซื้อ แบบนี้ถูกเหรอ
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ดี มีสถานการณ์ความมั่งคงเข้ามาผสม ไม่ใช่เวลาปกติ ที่ปกติก็งบขาดดุลทุกปี ซึ่งเราต้องการความร่วมมือร่วมใจจากทุกคนในสังคม แทนที่เสียงดังกว่าคนอื่น แล้วจะออกมาเรียกร้องให้ประชาชนรู้จักการทำหน้าที่ก่อนได้รับสิทธิ กลับช่วยกันสอนให้ประชาชนเป็นขอทาน รอความหวังจากรัฐ วันหลังแจกกระป๋องเอาละกัน
คิดว่าประเทศไทยขุดกินขึ้นมาได้เป็นทองหรือไง ไปบอกให้คนติดตามตัวเองรู้จักการทำหน้าที่พลเมือง เข้ามาอยู่ในระบบภาษีให้ได้ก่อนจ้า"