xs
xsm
sm
md
lg

เคสจริง! ชายวัย 48 ปี “แบตชีวิตหมด” หมอชี้เสี่ยงโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง ตรวจเลือดรู้ได้แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อจ.หมอสุรัตน์เผยเคสอุทาหรณ์ ผู้ชายวัย 48 ปีเพลียเรื้อรังจนต้องหยุดงาน พบป่วย “โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง” หรือ Chronic Fatigue Syndrome โรคหายากที่แม้หลับเต็มอิ่มก็ไม่ฟื้นแรง ล่าสุดอังกฤษพัฒนาชุดตรวจเลือดระบุโรคได้แม่นยำถึง 98%

วันนี้ (13 ต.ค.) เพจ “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์“ หรือ ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาทได้โพสต์เคสคนไข้รายหนึ่ง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ โดยระบุว่า ”มันจะมีโรคหนึ่ง เพลีย ล้า พักไม่ฟื้น จะซึมเศร้าก็ไม่ใช่ จะขาดวิตามินก็ไม่เชิง จะขี้เกียจก็ไม่นะ เรามีโรคนี้ด้วย "โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง Chrnic Fatique Syndrome"

คนไข้ ผู้ชาย อายุ 48 ปี มาพบ อจ. ครับ
อาการแบบนี้เลย บอกแบตฯ ชีวิตหมด
ตื่นเช้ามาเหมือนนอนไม่พอ ทั้งที่เมื่อคืนก็หลับเต็มอิ่ม ทำงานนิดเดียวก็หมดแรง รู้สึก “ล้า” แบบที่พักยังไงก็ไม่ฟื้น พอไปหาหมอก็ถูกบอกว่า “น่าจะเครียดนะ” หรือ “พักผ่อนบ้างสิ” ตรวจมาหมด รวมทั้งการนอน ไม่พบอะไร หมดปัญญา

ต้องหยุดงาน ขาดเงิน นอนเปลี้ยเพลียแรง อยู่บ้าน สรุป เป็นโรคนี้เลย

“โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง chronic fatique syndrome" นานๆ พบที ต้องแยกโรคอื่นออกก่อน โรคนี้ทำให้คนทั้งร่างกายและสมองเหมือน “แบตเตอรี่เสื่อม” อยู่ตลอดเวลา

ฉันเป็นหรือเปล่านะ มาเล่าให้ฟัง

การวินิจฉัย ผู้ป่วยจะต้องมีอาการหลักต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป และอาการนั้นรุนแรงพอจะกระทบชีวิตประจำวัน

เกณฑ์หลักที่ต้องมี คือ:
1. อาการอ่อนเพลียรุนแรงเรื้อรัง (Severe chronic fatigue) - ไม่ดีขึ้นแม้พักผ่อน
2. อาการทรุดลงหลังออกแรง (Post-exertional malaise) - ทำอะไรหนักนิดเดียว จะ “ล้า” ไปหลายวัน
3. นอนแล้วไม่สดชื่น (Unrefreshing sleep) หลับนานแต่ยังเหนื่อยเหมือนเดิม
4. อย่างน้อย 1 อย่างในนี้
• อาการทางสติปัญญา (Cognitive impairment) เช่น สมาธิสั้น จำไม่ค่อยได้ คิดช้า
• อาการของระบบประสาทอัตโนมัติ (Orthostatic intolerance) เช่น เวียนหัว หน้ามืดเมื่อยืน

แต่งานวิจัยใหม่จากอังกฤษระบุว่า เลือดบอกได้ว่าคุณมีโรคนี้จริงหรือไม่

นักวิจัยจาก University of East Anglia และ Oxford Biodynamics พัฒนา “ชุดตรวจเลือด” ที่สามารถระบุได้ว่าคนคนนั้นมี CFS หรือไม่ ด้วยความแม่นยำสูงถึง

Sensitivity 92%
Specificity 98%

เรียกได้ว่า “แทบไม่พลาด” และ “แทบไม่ผิดคน”

เขาใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า EpiSwitch®
ซึ่งไม่ได้ดูแค่ยีน แต่ดู “การพับเก็บของโครโมโซมทั้งสามมิติ”

การรักษา

บอกเลย รักษายากพอควร ต้องบูรณาการ
เรียกว่า “จัดการพลังงานชีวิต”

จัดการพลังงาน (Pacing):
ใช้พลังงานอย่างพอดี ไม่ฝืนกิจกรรมเกินขีดที่ร่างกายรับได้

ต้องฟื้นฟูการนอน:
รักษาเวลาเข้านอนให้สม่ำเสมอ อาจใช้ melatonin หรือยานอนหลับขนาดต่ำ

อีกวิธีที่ดีคือ
จิตบำบัด (CBT), mindfulness, กลุ่มผู้ป่วย เพื่อคลายความรู้สึกโดดเดี่ยว

ยาที่กำลังทดลอง
ยา Rituximab, Copaxone, Low-dose naltrexone (LDN) และเทคโนโลยี EpiSwitch®
อยู่ระหว่างการทดลอง บางตัว fail ไป บางตัวอาจช่วยในอนาคต

โรคแปลกๆ เนอะเนอะ จู่ๆ ก็เพลีย

- อจ.สุรัตน์


กำลังโหลดความคิดเห็น