xs
xsm
sm
md
lg

ทบ.โต้ กต.กัมพูชา ยันไทยมีสิทธิใช้กฎหมายจัดการเขมรบุกรุกบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกกองทัพบกโต้ กต.กัมพูชา ยันไทยมีสิทธิดำเนินการทางกฎหมายต่อชาวเขมรที่บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว ย้ำอยู่ในเขตอธิปไตยของไทยชัดเจน ซัดฝ่ายกัมพูชาต่างหากละเมิดข้อตกลงมาโดยตลอด ประท้วงกว่า 500 ครั้งยังเฉย

จากกรณีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 68 ระบุว่า “กัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงและคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลไทย เกี่ยวกับเจตนาที่จะใช้กฎหมายภายในประเทศของไทยกับพลเมืองกัมพูชาในหมู่บ้านโจกเจย (บ้านหนองจานของไทย) และหมู่บ้านไปรจัน (บ้านหนองหญ้าแก้วของไทย) ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยมีรายละเอียดกล่าวหาฝ่ายไทยว่า ฝ่ายไทยอ้างสิทธิใช้กฎหมายภายในประเทศกับพลเมืองกัมพูชาในพื้นที่พิพาท โดยการอ้างสิทธิดังกล่าวของไทยละเมิดพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ (มาตรา 2(3) และ 2(4)) เป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ขัดต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ขอเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียด ตามข้อตกลงหยุดยิง

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า ฝ่ายไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศกับบุคคลที่อยู่ในเขตดินแดนของไทย ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศยอมรับ และขอยืนยันว่าพื้นที่ที่ฝ่ายไทยอาจจำเป็นต้องดำเนินการก่อนนั้นไม่ได้อยู่ในเขตของพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชา พยายามบิดเบือน แต่อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐ

ส่วนเรื่องพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ ในมาตรา 2(3) ที่ได้ระบุไว้ว่า “รัฐสมาชิกต้องระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยวิธีสันติ เพื่อไม่ให้สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย” นั้น ในความเป็นจริงกลับพบว่าฝ่ายกัมพูชามักจะเป็นผู้ละเมิด อย่างกรณีการปลุกปั่น จัดฉาก ใช้ประชาชนมาเป็นผู้สร้างสถานการณ์ความรุนแรง

ส่วนในมาตรา 2(4) ที่ระบุว่า “รัฐสมาชิกต้องละเว้นจากการคุกคามหรือการใช้กำลังต่อบูรณภาพแห่งดินแดน” กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาอีกเช่นกันที่เป็นผู้ละเมิด อย่างกรณีการรุกรานรุกล้ำอธิปไตยไทย ด้วยการนำกำลังทหารพร้อมอาวุธมาวางกำลังในดินแดนอธิปไตยไทย และการแอบลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ในดินแดนอธิปไตยไทย แม้ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงแล้วก็ตาม

สำหรับกรณีที่กล่าวหาว่าเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ขัดต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมนั้น ต่อกรณีนี้เป็นฝ่ายกัมพูชา อีกเช่นกันที่เป็นผู้ละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ด้วยการละเลย ไม่จริงใจ ปล่อยให้มีการก่อสร้างอาคาร สถานที่ บ้านเรือนชุมชน ทั้งในเขตพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ และในเขตพื้นที่อธิปไตยของไทย ฝ่ายไทยได้ทำการประท้วงตามข้อกำหนด MOU 2000 จำนวนกว่า 500 ครั้งตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไขมากว่า 20 ปี

สำหรับกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียด ตามข้อตกลงหยุดยิงนั้น
ต่อกรณีนี้อีกเช่นกัน ที่เป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นผู้สนับสนุนและดำเนินการแบบไม่เปิดเผย เพื่อให้มีกิจกรรมการชุมนุมของประชาชนในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว และมีการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยในเขตอธิปไตยของไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย

จึงขอยืนยันว่าฝ่ายไทยมีเจตนาที่จะแก้ไขปัญหาชายแดนโดยสันติวิธี โดยจะไม่ใช้กำลังรุกรานใคร การดำเนินการในสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นนั้นอยู่ภายใต้กรอบกติกาสากลและกฎหมายไทย เพื่อรักษาอธิปไตย และปกป้องตนเองจากการคุกคามของฝ่ายกัมพูชา


กำลังโหลดความคิดเห็น