xs
xsm
sm
md
lg

ทบ.โต้กลับทุกเม็ด “เพน-มาลี” บิดเบือน ยันสลายม็อบในเขตอธิปไตยไทยตามหลักสากล ประณามเขมรยั่วยุ ละเมิดหยุดยิง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทบ.โต้โฆษกกัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริง กรณีควบคุมสถานการณ์บ้านหนองหญ้าแก้ว ย้ำเจ้าหน้าที่ไทยดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วงชาวกัมพูชาตามขั้นตอนของหลักสากล ภายในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยอย่างชัดเจน แต่ฝ่ายเขมรยั่วยุให้รุกล้ำ ใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ไทย

จากกรณีที่วานนี้ (17 ก.ย. 68) นาย เพน โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา และ พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงข่าวประเด็นสถานการณ์ตึงเครียด บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว

วันนี้(18 ก.ย.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงต่อแถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีเนื้อหาบิดเบือนความจริงในหลายประเด็น ดังนี้

1.กรณีอ้างว่าชาวกัมพูชาเหล่านี้กำลังออกไปปกป้องที่ดินตามกฎหมายของตนจากการถูกละเมิดโดยฝ่ายไทย

ขอชี้แจงว่าที่ดินบริเวณพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน อีกทั้งไม่ได้อยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของกัมพูชาแต่อย่างใด ชาวบ้านกัมพูชากลุ่มดังกล่าวได้เจตนารุกล้ำเข้ามาอยู่อาศัยอย่างผิดกฎหมายในเขตดินแดนของประเทศไทยมาเป็นเวลานาน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชารู้เห็นและทราบมาโดยตลอด ซึ่งฝ่ายไทยได้เคยทำการประท้วงหลายครั้งในทุกระดับ แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด

และด้วยจุดเกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่ของประเทศไทยชัดเจน ผู้ปฏิบัติหลักจึงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองประจำพื้นที่ มิใช่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนสายตาชาวโลก

2. กรณีกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยิงกระสุนยางและระเบิดควันใส่พลเมืองกัมพูชา และใช้อุปกรณ์เครื่องเสียงทำลายแก้วหูและสมอง

สำหรับกรณีนี้ เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนหลักสากล ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง เมื่อการพูดคุยเจรจาอย่างสันติวิธีไม่ได้ผล ทั้งนี้เพื่อต้องการควบคุมฝูงชนชาวกัมพูชาที่มีลักษณะท่าทีที่ก้าวร้าว แสดงออกทางอารมณ์ที่รุนแรง โดยส่วนใหญ่พกพาท่อนไม้ยาวเพื่อใช้เป็นสิ่งเทียมอาวุธ และมีท่าทีที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย รวมถึงบุกทำลายสิ่งกีดขวางของทางการไทย

3.กรณีขอประณามความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่ไทยกระทำต่อประชาชนและพระสงฆ์กัมพูชา โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ไทยยุติการละเมิดและความรุนแรงเหล่านี้

สำหรับกรณีนี้ฝ่ายไทยขอประณามเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาที่มิได้มีท่าทีจริงใจต่อการแก้ปัญหาการชุมนุมและขอประณามผู้ชุมนุมชาวกัมพูชาที่พยายามใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เพื่อป้องกันตนเองและระงับเหตุเฉพาะหน้า

4.กรณีเรียกร้องให้ฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิงและพยายามแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี โดยยึดหลักสากล ข้อตกลงที่มีต่อกัน และกฎหมายระหว่างประเทศที่มีอยู่

ต่อกรณีดังกล่าว ชัดเจนว่าเป็นฝ่ายกัมพูชาที่ไม่เคารพข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการยั่วสนับสนุนให้มวลชนมารุกล้ำดินแดนไทย และบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพื่อหวังให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของฝ่ายไทย การดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ฝ่ายกัมพูชาเจตนาสร้างขึ้นอย่างเป็นระบบ ด้วยความอดทนอดกลั้น เพื่อพยายามแก้ไขการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง ที่อาจพัฒนานำไปสู่ความขัดแย้งทางอาวุธครั้งใหม่

ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากลโดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าเจ้าหน้าที่ทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล นอกจากนี้หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้าในการรุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น