โฆษกรัฐบาลกัมพูชา อ้างมีเจ้าหน้าที่-ประชาชน-พระสงฆ์ เป็นลมและได้รับบาดเจ็บสาหัส 28 ราย จากเหตุเจ้าหน้าที่ไทยยิงกระสุนยาง-แก๊สน้ำตา สลายม็อบเขมรที่บ้านหนองหญ้าแก้ว
วันนี้(17 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.นายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ได้แถลงข่าวกรณีเหตุการณ์ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งทางฝ่ายกัมพูชาเรียกว่าบ้านไพรจัน ต.โอไบชัน อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ ประชาชน และพระสงฆ์กัมพูชารวม 28 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาของกองเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่พวกเขากำลังออกไปปกป้องดินแดนที่ถูกกฎหมายจากการละเมิดสิทธิของฝ่ายไทย
นายเพ็ญกล่าวว่า เมื่อบ่ายวันที่ 17 กันยายน 2568 เวลา 15.44 น. กองกำลังติดอาวุธและเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนของไทย ได้ใช้กระบอง โล่ และอุปกรณ์อื่นๆ และยิงแก๊สน้ำตาอีกครั้งในพื้นที่บ้านไพรจัน เพื่อปิดล้อมพื้นที่ที่ชาวกัมพูชาอาศัยและใช้ประโยชน์มายาวนาน ซึ่งพวกเขาได้ออกมาปกป้องพื้นที่ของตนด้วยการรื้อถอนลวดหนามออก
โฆษกรัฐบาลกัมพูชาอ้างว่า เจ้าหน้าที่ไทยได้ยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาใส่ชาวกัมพูชาจนน้ำตาไหล และใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงทำลายแก้วหูและสมอง นอกจากนี้ยังกระทำรุนแรงต่อชาวกัมพูชาด้วยการใช้อุปกรณ์ระงับเหตุและยิงกระสุนยาง ทำให้ประชาชนและพระสงฆ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่กัมพูชาที่ไม่มีอาวุธหมดสติและได้รับบาดเจ็บสาหัสรวม 28 คน
ทหารและเจ้าหน้าที่กัมพูชาที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ ได้เข้าร่วมในเหตุการณ์ด้วย เพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชน ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพและมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และเคารพหลักการที่ตกลงกันไว้ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาอย่างสันติและถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ
โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลและทางจังหวัดบันเตียเมียนเจยได้เข้าช่วยเหลือประชาชนและพระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บ และส่งรถพยาบาลไปนำผู้บาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาลแล้ว