xs
xsm
sm
md
lg

พระคึกฤทธิ์ เจอจับผิด ถูกเปิดโปงลวนลามสีกา พยาบาลสาวท้าดูของลับ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตลูกศิษย์พยาบาลสุดช้ำ แฉพระคึกฤทธิ์ลวนลามกลางวัด ท้าเปิดสบงพิสูจน์ ‘ขลิบ’ ของลับ หากโกหกขอให้ฉิบหาย!



เรื่องราวของพระคึกฤทธิ์ เคยเป็นข่าวครึกโครม มาจากกรณี “ไก่” มีสุข คุณดิลกชัยพัฒน์ อดีตพิธีกร จากที่เธอเข้าไปเป็นโยมอุปถัมภ์ของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ สวัสดิผล จนต้องบอกลาจากวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี มาตั้งแต่ปี 2558

ไก่ มีสุข หมดเงินไปมากมายกับพระคึกฤทธิ์ ถึงขั้นเคยถวายตั๋วเครื่องบินเฟิร์สคลาส และห้องพักโรงแรมหรูในต่างประเทศ ที่ต้องมีแบบ 2 ห้องต่อถึงกัน หรือห้องคอนเน็กติ้งตามที่พระกําหนดสเปก

อะไรที่ทำให้ ไก่ มีสุข สิ้นศรัทธากับพระคึกฤทธิ์

เธอเคยโพสต์ร่ายยาวชี้แจงไว้เมื่อปี 2562 ตอนหนึ่งว่า ไก่ออกจากวัดนี้มาตั้งแต่กลางปี 58 แล้วค่ะ เลยถือโอกาสนี้บอกกล่าวแก่ผู้เคยศรัทธา ที่ไก่นําพาไปบริจาค และเคยนําพาหลายๆ ท่านเข้าวัดนี้ไปกราบและปฏิบัติ ว่า ขออโหสิกรรมแก่ไก่ด้วยนะคะ ขอน้อมรับความหลงผิดทุกประการ

พระธรรมที่ยังคงอยู่นั้นถูกต้องจริง แต่บางส่วนสํานัก พธวจน. สอนผิดนะคะ เราก็ต้องตรวจสอบพระธรรม ยึดจากพระไตรปิฏกเอา หากแต่ลูกพระพุทธเจ้าท่านใดถือพระธรรมนั้นไว้ และปฏิบัติตนไม่สมควรแห่งการกราบไหว้ เราแค่ถอยออกมาและขอให้ท่านช่วยวางพระธรรมนั้นลง อย่านํามาเป็นหนทางหากินอีกเลย

โดยขณะเดียวกัน ช่วงนั้นมีข่าวกลุ่มอดีตศิษย์ของพระคึกฤทธิ์รวมตัวกันฟ้องพระคึกฤทธิ์ กล่าวหาว่ายักยอกเงินจํานวนสูงถึง 515 ล้านบาท ไก่ มีสุข แชร์ข่าวนี้จากเว็บไซต์ข่าว เลยโดนหางเลขจากพระช่างฟ้องทันที

โดยทีมทนายพระฟ้องกล่าวหาว่า ไก่ มีสุข โกงเงินวัดไป 3 ล้านบาท แถมให้ข่าวเท็จว่า เธอไปร้องไห้ในศาล อ้อนวอนให้ถอนคดี ซึ่ง ไก่ มีสุข ยืนยันว่า เธอไม่เคยทําอะไรแบบนั้น เรื่องเงินวัดก็มีแต่เสียเงินให้วัดข้างเดียว ไม่เคยได้จากวัดแม้แต่บาทเดียว

ไม่ใช่แค่ ไก่ มีสุข ที่ต้องเจ็บปวดจากความหลงผิดกับคําสอนแหกๆ ของพุทธวัจนะ ฉบับพระคึกฤทธิ์ แต่ยังมีอีกสีกาที่แค้นพระคึกฤทธิ์ แบบผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ เพราะมีประสบการณ์เลวร้าย แทบเอาตัวไม่รอด เห็นได้กับตาตัวเองว่า พระคึกฤทธิ์ เป็นคนคิดลึกของแท้

เธอชื่อว่า สีกาอ้อย เป็นพยาบาลสาวหน้าตาดี ที่เคยพลาดไปเข้าวัดนาป่าพง ตามคําชวนของรุ่นพี่

เธอโพสต์เล่าประสบการณ์สุดระทึกในวัดนาป่าพงไว้ เมื่อปี 2558 ซึ่งทุกวันนี้ ถ้อยคําเหล่านั้น ยังอยู่ในอินเทอร์เน็ต ให้ผู้ตื่นรู้ตื่นธรรมเข้าไปสืบค้นอ่านเพื่อวิเคราะห์เรื่องราวได้ตามอัธยาศัย

โดยที่สีกาอ้อยลงชื่อจริงของตัวเอง แบบเปิดหน้า กระชากหน้ากากกันเลย

สีกาอ้อยเล่าไว้ว่า วันแรกที่ได้เข้าไปกราบพรัคึกฤทธิ์ ก็ถูกขอเบอร์โทรศัพท์แล้วแค่ออกจากวัดแค่ 15 นาที พระอาจารย์ก็ไลน์มาคุยด้วยทันที

เพราะมีความรู้ในวิชาชีพพยาบาล สีกาอ้อยถูกเรียกตัวให้ไปช่วยตรวจความดันและค่าออกซิเจนในเลือดให้ ซึ่งพระอาจารย์ขอให้เธอตรวจซ้ำๆ และทุกจังหวะสอดแขนก็จะเลยมากระทบหน้าอกเธอเต็มๆ ทุกที

จนวันแตกหักมาถึง เธอถูกเรียกตัวให้มาจัดระเบียบยาและเวชภัณฑ์ ที่ห้องงานธรรมะ

วันนั้นมีการพูดจาคาบลูกคาบดอก จังหวะที่สีกาอ้อยถูกสั่งให้เข้าไปจัดกระเป๋ายาในห้องนอน ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องงานธรรมะ พระคึกฤทธิ์ก็ตามมาประชิดตัว มือหนึ่งล้วงเข้าไปในอกเสื้อ อีกมือล้วงต้นขา บอกว่าจะสอนการนวดให้

สีกาอ้อยสะบัดหลุดจากการลวนลามมาได้ แต่ไม่วายได้ยินเสียงสบงสะบัดพรึ่บพรั่บ พอหันไปมอง ก็เห็นเจ้าโลกพระภิกษุกําลังคึก เปี่ยมไปด้วยฤทธิ์ แถมมีน้ำหยดเปื้อนสบงด้วย ขณะที่ตัวเจ้าของทําเป็นแหงนมองเพดานไม่รู้ไม่ชี้

ซึ่งเธอก็เผ่นหนีภาพหลอนนั้นออกมาได้ ด้วยความขยะแขยงสุดขีด

สีกาอ้อยยังเล่าให้ทีมขุดคุ้ยพฤติกรรมพระคึกฤทธิ์ฟังว่าด้วย สายตาของพยาบาล เธอเห็นเลยว่าเจ้าโลกของพระคึกฤทธิ์ ผ่านการขลิบหนังหุ้มมาเรียบร้อยแล้ว หากวันใดพระคึกฤทธิ์ถูกไต่สวน เธอขอท้าให้มีการเปิดภาพพิสูจน์ตําหนินี้ได้เลย

สีกาอ้อยเขียนใส่กระดาษด้วยลายมือ โพสต์ไว้ด้วยว่า หากสิ่งที่ดิฉันเล่าเป็นความเท็จ ขอให้ดิฉันชิบหาย แต่หากภิกษุรูปนั้นไม่ออกมายอมรับต่อสังคมว่าเคยล่วงเกินดิฉัน ขอให้ภิกษุรูปนั้นชิบหายไปตามวิบากกรรมที่ตนได้กระทํา


กำลังโหลดความคิดเห็น