xs
xsm
sm
md
lg

“Eggyday” เส้นไข่ขาวนวัตกรรมไทยสู่เวทีโลก บุกขยายตลาดกลุ่มประเทศอาหรับ อีกหนึ่งนวัตกรรมน้ำดีจากโครงการของ NIA

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Eggyday - Egg White Noodles and Rice เส้นไข่ขาวและข้าวไข่ขาวโปรตีนสูงพร้อมรับประทาน ทีมที่ได้รางวัล The Popular Vote จากโครงการเวทีแห่งอนาคต Thai Kitchen: Crafted FoodTech Accelerator Program ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถือเป็นผู้ประกอบการอีกทีมที่เอาชนะใจกรรมการและผู้ร่วมงานอย่างล้นหลาม


เพ็ญพิชชา เกิดใจบุญ หัวหน้าทีม Eggyday เคยเล่าให้ฟังถึงภาพจำที่ยังติดตาเมื่อครั้งเธอได้มีโอกาสดูแลด้านโภชนาการให้ผู้ป่วย สิ่งที่พบเห็นอยู่เสมอ คือความลำบากของผู้ป่วยที่จำเป็นต้องบริโภคโปรตีนจาก “ไข่ขาว” ตามคำแนะนำของแพทย์ แต่กลับต้องคอยแยกไข่แดงออกทุกครั้งอย่างซ้ำซากและน่าเบื่อหน่าย ทั้งยังต้องกังวลว่าปริมาณที่รับประทานจะเพียงพอต่อการฟื้นฟูร่างกายหรือไม่ หากบริโภคได้ไม่ครบตามเกณฑ์ ย่อมส่งผลให้การฟื้นตัวล่าช้าออกไป

จากปัญหาเล็กๆ ที่แฝงด้วยความไม่สะดวกนี้ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ผลักดันให้ทีมวิจัยมุ่งมั่นพัฒนา “เส้นจากไข่ขาว 100%” ด้วยเทคโนโลยี Protein Transformation ที่สามารถแปรเปลี่ยนไข่ขาวธรรมดาให้กลายเป็นเส้นในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเส้นราเมน เส้นหมี่ หรือแม้แต่ “ข้าวจากไข่ขาว” เพื่อให้การบริโภคโปรตีนไม่ใช่ภาระที่น่าเบื่ออีกต่อไป แต่กลับเต็มไปด้วยรสชาติ ความเพลิดเพลิน และคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนในทุกมื้ออาหาร

นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการวิจัยและพัฒนาที่สะท้อนพลังของนวัตกรรมอันเกิดจากการมองเห็นความทุกข์เล็กน้อยของผู้คนและลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง ทว่าบททดสอบที่ท้าทายยังไม่สิ้นสุด เพราะเมื่อผลิตภัณฑ์ได้พิสูจน์คุณภาพและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคแล้ว ก้าวต่อไปที่สำคัญคือการขยายฐานลูกค้าและการเปิดตลาดใหม่ ซึ่งกำลังกลายเป็นอีกโจทย์ที่ทีม Eggyday ต้องก้าวผ่านด้วยความมุ่งมั่นเช่นเดิม

เพ็ญพิชชาบอกถึงเรื่องนี้ว่า “เราเชื่อว่าสินค้าของเรามีศักยภาพ และตลาดใหม่กำลังรอเราอยู่” หลังจากได้เข้าร่วมโครงการของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) บริษัทได้แผนชัดเจนว่าจะไม่หยุดเพียงการเติบโตในประเทศ แต่จะเดินหน้าขยายสู่ตลาดต่างแดน โดยมองไปที่ประเทศในกลุ่มตลาด GCC (Gulf Cooperation Council) หรือกลุ่มประเทศความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ อาทิ ซาอุดีอาระเบีย 

“แต่ตะวันออกกลางไม่เหมือนกันเลย นี่คือการเปิดตลาดใหม่จริงๆ เราอยากรู้ว่าผู้บริโภคซาอุฯ จะมองเห็นคุณค่าของสินค้าแบบเดียวกับที่ผู้บริโภคไทยและเพื่อนบ้านเห็นหรือไม่”

ล็อกเป้าซาอุฯ ตลาดมีศักยภาพและกำลังซื้อสูง
ที่เราเลือกซาอุดีอาระเบียเพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและความท้าทาย ซาอุดีอาระเบียมีหลายปัจจัยที่ทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

1. ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง รายได้เฉลี่ยดีกว่าหลายประเทศในเอเชีย

2. รูปแบบการบริโภคแตกต่าง เน้นคาร์โบไฮเดรตและไขมัน แต่โปรตีนน้อย

3. คนรุ่นใหม่เริ่มหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น

“บ้านเขาไม่ค่อยมีสินค้าในลักษณะนี้ เรามั่นใจว่านี่จะเป็นการเปิดตลาดสินค้าใหม่ๆ ทั้งสำหรับเราและผู้บริโภคที่นั่น”

แต่ความท้าทายก็ไม่เล็ก สินค้าข้าวหรือเส้นของไทยอาจไม่ตรงความเคยชิน เช่น ชาวอาหรับนิยมข้าวบาสมาติเมล็ดยาว ไม่เหมือนข้าวไทย ทีมวิจัยและพัฒนาจึงต้องปรับให้ใกล้เคียงรสนิยมท้องถิ่นมากที่สุด ทั้งในเรื่องเมล็ดข้าว เนื้อสัมผัส และรสชาติ

กลยุทธ์บุกตลาด
เพ็ญพิชชาบอกว่า บริษัทวางแผนเริ่มจาก ทดลองตลาด ส่งสินค้าหลายตัวไปให้ผู้บริโภคเลือก รวมถึงพัฒนาสินค้าใหม่เฉพาะตลาดนี้เพื่อสร้างความหลากหลาย

“เราไม่ใช่แค่จะเอาของที่มีอยู่ไปขาย แต่เราจะสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงความต้องการของเขาเลย”

นอกจากนี้ สินค้าของบริษัทยังมีมาตรฐานฮาลาล ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเจาะตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งสินค้าฮาลาลที่ได้มาตรฐานจากไทยถือเป็นที่ยอมรับอยู่แล้วในภูมิภาคนี้

เพ็ญพิชชาเสริมทิ้งท้ายด้วยว่า เราค่อนข้างมีความพร้อมในการขยายตลาดในกลุ่มนี้ เพราะทีมวิจัยและพัฒนาของเราสามารถออกแบบและตอบโจทย์ผลิตภัณฑ์ได้ตามความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายอยู่แล้ว นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 15-30 ตันต่อเดือน และสามารถขยายได้หากผู้บริโภคมีการตอบรับที่ดี

“เราถือว่าประสบความสำเร็จในประเทศระดับหนึ่งแล้วโดยมียอดขายในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 11 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 22 ล้านบาท หรือเติบโตเท่าตัว และเชื่อว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็คาดหวังผลลัพธ์ในลักษณะนี้ในตลาดต่างประเทศด้วยเช่นกัน“


ทั้งหมดเป็นเรื่องราวของทีมที่น่าสนใจจากโครงการของ NIA ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA มีความมุ่งมั่นว่าผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากผู้ประกอบการฐานนวัตกรรมอาหารไทยทั้ง 10 บริษัท ที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านอาหาร แต่เป็นการยกระดับความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยในการแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของตลาดโลก ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย

นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นว่าโครงการนึ้จะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ 4G ของ NIA คือ Groom-Grant-Growth-Global ในการมุ่งพัฒนาและสร้างผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็งก่อนแล้วจึงให้การสนับสนุนทางการเงิน พัฒนาการเติบโตและขยายสู่ตลาดสากล ซึ่งวันนี้สิ่งที่ทำให้ภาคภูมิใจคือ ผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังนำวัตถุดิบและเทคโนโลยีของไทยมาใช้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม สามารถนำเสนอ 'เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของคนไทย' สู่ตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
กำลังโหลดความคิดเห็น