xs
xsm
sm
md
lg

หมอเด็กเตือนอินฟลูฯ พาลูกฉีด "โกรทฮอร์โมน" หวังเพิ่มความสูง เสี่ยงอันตรายตาบอด-มะเร็ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
หมอวิน เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกตามใจหมอ” โพสต์เตือนหลังมีอินฟลูฯ พาลูกไปฉีดโกรทฮอร์โมนหวังเพิ่มความสูง แต่อาจเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งบางชนิด

วันนี้ (16 ก.ย.) เพจ “เลี้ยงลูกตามใจหมอ” ของ หมอวิน กุมารแพทย์ ได้ออกมาโพสต์อธิบายผลข้างเคียงหลังมีอินฟลูเอนเซอร์พาลูกไปฉีดโกรทฮอร์โมนอาจทำให้ เด็กปวดศีรษะรุนแรง รักษาช้าตาบอดได้ หรืออาจได้รับความเสี่ยงการเกิดมะเร็งบางชนิด

โดยทางเพจระบุว่า "เมื่ออินฟลูฯ พาลูกไปฉีดโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone; GH) กัน และคนมีเงินก็พาลูกไปฉีด GH กันรัวๆ ด้วยจุดประสงค์ให้ลูกสูง สูงเกินมาตรฐานครอบครัว (เขาว่าเช่นนั้น) ในไทย หมอไทยไม่ฉีดให้ก็ไปเกาหลี ให้หมอเกาหลีฉีดให้ ให้ลูกสูง ... ไม่แน่ใจการควบคุมของที่เกาหลี แต่มีไปจริง แล้วก็เกิดปัญหาจริง

หมอสมองเด็กที่รู้จักพบเด็กที่ไปรับ GH จากเกาหลีมาด้วยปวดศีรษะรุนแรง โดยสรุปเกิดจากความดันในกะโหลกศีรษะสูงจาก GH สมัยก่อนเราจะเรียกว่า Pseudotumor Cerebri อันตรายมากนะ ตาบอดได้เลยนะถ้ารักษาไม่ทันท่วงที ... แม้ว่าภาวะแทรกซ้อนนี้จะเจอน้อย แต่เจอนะครับ ... เทรนด์การฉีด GH นี่อันตรายมาก วันนี้เลยมาชวนคุยกัน

หากตอบแบบ หมอเด็กสายกลางแบบพ่อหมอตอบ เราก็ตอบว่า "สูงหรือเตี้ย มันไม่เกี่ยวกับความฉลาด การใช้ชีวิต หรือการประสบความสำเร็จในชีวิตนะ" แต่พ่อแม่ก็อาจตอบกลับมาว่า "คุณหมอ ก็อิชั้นอยากให้ลูกสูงปะคะ คุณหมอจะมาเบี่ยงประเด็นออกไปที่ความฉลาด หรือการใช้ชีวิตทำไมคะ" 5555 ว่าซั่น เออ เข้าใจแม่แหละ แต่อยากให้แม่ตั้งสติก่อนนะจ๊ะว่า

Growth Hormone หรือฮอร์โมนเจริญเติบโต ที่เราใช้ทางการแพทย์​คือ "ยา" ย้ำ ว่ามันคือยา ดังนั้นยามเราใช้ยา เราจะต้องเตือนตัวเองเสมอว่า ข้อบ่งใช้ของยาตัวนั้นคืออะไรสำหรับคนไข้คนหนึ่ง หากมีข้อบ่งชี้บ่งใช้ในการใช้ยาก็ใช้ได้เลย แต่หากไม่มีข้อบ่งชี้บ่งใช้แต่อิชั้นจะใช้ อันนี้ระวังให้ดีเพราะคุณกำลังพาลูกประสบกับผลข้างเคียงของยา และค่าใช้จ่ายที่คุ้มหรือไม่ ยังไม่รู้เลย บางทีคิดไปเองก็มี

เอาล่ะ ตัดภาพไปที่ FDA-Approved Indication ในการใช้ GH ในปัจจุบันมี 8 ข้อคือโรค 4 โรค ได้แก่
- GH Deficiency (ขาด GH)
- Idiopathic Short Stature
- Small for Gestational Age without catch-up Growth
- Chronic Renal Insufficiency
และโรคทางพันธุกรรมที่คาดเดาได้ว่าเตี้ยกว่าเด็กปกติอีก 4 โรค ได้แก่
- Prader-Willi Syndrome
- Turner Syndrome (XO)
- SHOX gene haploinsufficiency
- Noonan Syndrome

อันที่ต้องประเมินให้ดีคือ Idiopathic Short Stature หรือภาวะเตี้ยที่ไม่ทราบสาเหตุ กล่าวคือ เด็กที่เตี้ยโดยมี ส่วนสูง <2 S.D. (< 2 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน) สำหรับอายุ, เพศ, เชื้อชาตินั้นๆ สำหรับคนไทย ... เอาคร่าวๆ ก็คือ ต่ำกว่าเส้นล่างสุดของกราฟแสดงการเจริญเติบโตของเด็กไทยในสมุดวัคซีนครับ โดยที่หาสาเหตุทั้งหมดแล้วไม่เจอสาเหตุที่ทำให้เตี้ยได้ ... ทั้ง Growth Hormone, IGF-1, thyroid hormone และอื่นๆ ที่สำคัญ ต้องไม่ใช่ familial short stature หรือเตี้ยจากกรรมพันธุ์นะครับ กลุ่มนี้จึงมีประโยชน์จากการใช้ growth Hormone ในการรักษา

นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่มีข้อบ่งชี้ในการใช้ GH ทางคลินิก ... ย้ำเตือน ...

ผลข้างเคียงในการใช้ GH ที่พบทางคลินิก ก็คือ
- ความดันในกะโหลกเพิ่ม
- Slipped Capital Femoral Epiphysis (SCFE; คอกระดูกต้นขาหลุดจากหัวกระดูก เหมือนกระดูกต้นขาขาดฟึ่บ แบบนั้น)
- กระดูกหลังคด
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ตับอ่อนอักเสบ ภาวะทางเดินหายใจตอนต้นอุดตัน (OSA)

การศึกษาที่ผ่านๆ มาที่บอกว่า Growth Hormone นั้นรักษาแล้วเพิ่มความสูงในกลุ่มเตี้ยไม่ทราบสาเหตุ (คนที่เตี้ยมากต่ำกว่ากราฟ) ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการรักษาอยู่ที่ 5 ปี (3.5-7.5 ปี) ตั้งแต่ก่อนเข้าวัยรุ่น ซึ่งการฉีด GH จะเพิ่มความสูงได้เมื่อเทียบกับไม่ฉีด 7.4, 3.4, 3.6, 4.7 ซม. ขึ้นกับว่าเอามาจากการศึกษาไหน ... (อันนี้ยกมา 4 การศึกษา) ... โดยราคาของยาGH ที่ใช้ในการเพิ่มความสูงในโรคเตี้ยไม่ทราบสาเหตุ ตกอยู่ที่ประมาณ 150,000+ บาท/ความสูงที่เพิ่มขึ้น 1 ซม./น้ำหนัก 10 กก. คิดง่ายๆ ว่าหากฉีดให้เด็กหนัก 20 กก. ส่วนสูงเพิ่มขึ้น 5 ซม. จะต้องใช้เงินทั้งหมดประมาณ 1.5 ล้านบาท เท่านั้นเอง (ไม่คิดน้ำหนักที่เพิ่มตามอายุนะครับในที่นี้)​ ... เก๋ๆ ... นี่ราคาทุนนะจ๊ะ ... ไม่รวมค่าแพทย์ ค่าการพยาบาล ...

แต่หากเป็นโรค ... ก็อาจจะถือว่า "คุ้ม" ก็ได้นะครับ เพราะอาจเพิ่มความสูงได้มากที่สุดถึง 7 ซม.ทีเดียว ... ปัญหาก็คือ ... มีการใช้ GH ในกลุ่มเด็กที่ไม่เข้าเกณฑ์ "โรคเตี้ยแบบไม่ทราบสาเหตุ" บางคนความสูงยังไม่ตกเกณฑ์ด้วยซ้ำครับ ... แล้วมีฝันเล็กๆ ว่าจะ "สูงขึ้น​" ซึ่งพ่อแม่หลายคนก็รีบคว้าโอกาสมาไว้ก่อนครับ ... คำถามคือ กลุ่มที่ไม่ใช่ "โรคเตี้ย"​ แล้วได้รับ GH จะเพิ่มความสูงได้เท่าไร ไม่แน่ใจ คุ้มไหม โดนไปกี่บาท ไม่รู้ จะเริ่มฉีดตอนอายุเท่าไร เลิกฉีดเมื่อไร ยากจะพิจารณา และที่สำคัญ ผลข้างเคียงของยาที่ได้มาโดยไม่จำเป็น อีกเท่าไร อันนี้น่าคิด

พ่อหมอก็คงให้ความเห็นอะไรไม่ได้มากไปกว่า ข้อมูลทางการแพทย์ที่มีการตีพิมพ์อย่างชัดเจนแล้วว่า GH เพิ่มความสูงได้ในคนไข้บางกลุ่มเท่านั้น ... มิใช่เตี้ยหน่อยในความรู้สึกก็ไปฉีดกันหมดครับ"


กำลังโหลดความคิดเห็น