“พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร” เปิดข้อมูลสุดอัปยศ อ้าง MOU 2543 ไทย–กัมพูชา ถูกนำไปจดทะเบียนเป็นสนธิสัญญากับสหประชาชาติ โดยไม่มีการอนุมัติจากรัฐสภา ชี้ทำให้แผนที่ 1:200,000 ถูกยอมรับในเวทีโลก โจมตีรัฐบาลอภิสิทธิ์–กษิต–ประวิตร ต้องรับผิดชอบ พร้อมเรียกร้องให้ ครม.รีบออกมติยกเลิกทันที ไม่ต้องเสียเวลาอ้างตั้งกรรมาธิการ
รายการออนไลน์ “พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร” ได้เปิดเผยข้อมูลสร้างความตื่นตะลึง ระบุว่า บันทึกความเข้าใจ (MOU) ไทย–กัมพูชา ปี 2543 ซึ่งถูกยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่ใช่ข้อตกลงที่มีผลผูกพัน กลับถูกนำไปจดทะเบียนเป็น สนธิสัญญา ใน “Treaty Series” ขององค์การสหประชาชาติ เมื่อปี 2554 โดยไม่มีใครในสังคมไทยรับรู้
ผู้ดำเนินรายการชี้ว่า การจดทะเบียนครั้งนั้นมีปัญหาใหญ่ เพราะ MOU แนบแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งประเทศไทยไม่เคยยอมรับ การที่เอกสารถูกยกระดับเป็นสนธิสัญญาเท่ากับทำให้แผนที่ดังกล่าวได้รับการรับรองในระดับนานาชาติ ถือเป็นการ “แอบลักไก่” โดยประชาชนไม่เคยได้รับรู้
เขายังระบุว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีนายกษิต ภิรมย์ เป็น รมว.ต่างประเทศ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม แต่กลับไม่มีการนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 190 พร้อมตั้งคำถามว่าเป็นไปได้อย่างไรที่รัฐบาลสามารถนำเรื่องไปขึ้นทะเบียนกับ UN ได้โดยไร้กระบวนการตามกฎหมาย
ผู้บรรยายแสดงความไม่พอใจอย่างหนักที่เรื่องนี้ถูกปกปิดมานาน 14 ปี พร้อมระบุว่าเป็น “สนธิสัญญาปลอม” และเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญชัดเจน เขาย้ำว่าควรมีการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะอดีตนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องย่อมต้องรู้เรื่องนี้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าการจดทะเบียนลับดังกล่าวอาจทำขึ้นเพื่อใช้ต่อสู้คดีเขาพระวิหารในศาลโลก โดยอ้างว่ามีการเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชาแล้ว แต่ยุทธศาสตร์กลับล้มเหลว เพราะไทยแพ้คดีในปี 2556 และไม่ได้ประโยชน์ใดๆ
ผู้ดำเนินรายการยังอ้างถึงคำกล่าวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่เคยระบุว่า MOU นี้คือสนธิสัญญา สะท้อนว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาจรู้เรื่องมานาน ขณะเดียวกัน ศ.ดร.สมพงษ์ สุจริตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ก็เคยให้ความเห็นว่า แม้จะเป็นสนธิสัญญา แต่ไทยสามารถยกเลิกได้ฝ่ายเดียว หากเห็นว่าไม่เป็นธรรม
เขาเรียกร้องให้รัฐบาลใช้อำนาจ ครม. ออกมติยกเลิก MOU โดยตรง แทนการตั้งคณะกรรมการรัฐสภาที่เสียเวลาและเต็มไปด้วยนักการเมือง–ข้าราชการที่มีแนวโน้มปกป้องสถานะเดิม พร้อมยกตัวอย่างนักการเมืองอย่างนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล และนายชัยชนก ชิดชอบ พรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาสนับสนุนการยกเลิก
ท้ายที่สุด “พ่อเลี้ยงเจ” แสดงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการฉีกสำเนา MOU 2543 ทิ้งกลางรายการ พร้อมประกาศว่าเป็นสนธิสัญญาที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม และหากใครยังสนับสนุนการคงไว้ ถือเป็น “ผู้ทรยศต่อชาติ”