หลังนักเรียนเกรด 4.00 วัย 13 ปี ชาวกัมพูชา ถูกจับฐานเป็นบุคคลต่างด้าว ส.ส.พรรคประชาชน อย่างภัสริน รามวงศ์ และอธิบดีอัยการ สคช. โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง ออกโรงปกป้องสิทธิเด็ก ย้ำหลักมนุษยธรรมและกฎหมายสากล
จากกรณีครูสุดเศร้านักเรียนเกรด 4.00 วัย 13 ปี ชาวกัมพูชา ถูกจับฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งที่โตและเรียนในไทยตั้งแต่เด็กจนพูดภาษาบ้านเกิดไม่ได้ ครูวอนสังคมหยุดรังแกเด็กบริสุทธิ์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอย่างมาก
ล่าสุดวันนี้ (27 ส.ค.) ภัสริน รามวงศ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงประเด็นดังกล่าว ชี้เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษา การคุ้มครอง และความปลอดภัย โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติหรือสถานะทางกฎหมาย เนื่องจากประเทศไทยเป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐยุติการปฏิบัติที่เลือกปฏิบัติ ขอให้ยึดหลักมนุษยธรรมเป็นที่ตั้งและเรียกร้องให้มีมาตรการทางการศึกษาและการคุ้มครองที่สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศและกฎหมายไทย เพื่อปกป้องสิทธิของเด็กทุกคน โดย ส.ส.พรรคประชาชนรายนี้ได้ระบุข้อความว่า
"เด็กทุกคน ไม่ว่าจะมีสัญชาติหรือสถานะทางกฎหมายอย่างไร มีสิทธิที่จะได้รับการศึกษา การคุ้มครอง และการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ตามที่บัญญัติไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี เด็กคนหนึ่งที่เกิด เติบโต และเรียนในสังคมไทย ไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติหรือถูกทำร้ายซ้ำจากอคติ ความเกลียดชัง หรือถูกผลักให้กลายเป็น “คนอื่น” ทั้งที่เกิดและเติบโต หลอมรวมกับวัฒนธรรมและสังคมไทยมาทั้งชีวิตของเขา
ดิฉันขอให้หน่วยงานของรัฐและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ขอให้ยุติการปฏิบัติที่เลือกปฏิบัติ และไม่พรากเด็กออกจากครอบครัว โรงเรียน และชุมชนที่เป็นชีวิตจริงของเขา ขอยึดหลักมนุษยธรรมเป็นที่ตั้ง ไม่ทำให้เด็กต้องรับโทษหรือความเจ็บปวดเพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการกระทำและตัดสินใจของผู้ใหญ่ และจัดให้มีมาตรการทางการศึกษาและการคุ้มครองที่สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศและกฎหมายไทย เพื่อปกป้องสิทธิของเด็กทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย
ความเกลียดชังและอคติ ไม่ควรเป็นเครื่องชี้นำสังคม เพราะมันมีแต่จะสร้างเพียงความแตกแยกและความอยุติธรรม สิ่งที่เราควรยึดถือคือความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันของคนทุกคน ของเด็กทุกคน ใช้มนุษยธรรมนำทาง ไม่ใช่อคติทางเชื้อชาติหรืออัตลักษณ์ใดๆ"
นอกจากนี้ ด้าน โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวเช่นกัน
“ขอให้ผู้ปกครอง หรือคุณครู ติดต่ออัยการคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน เพื่อดูข้อกฎหมาย และความจริง ให้ความช่วยเหลือน้องได้ ตามกฎหมายต่อไปครับ หรืออินบอกซ์
เข้ามาที่ผมได้เลย”