แม่ทัพภาคที่ 2 เผยในที่ประชุม RBC วันนี้เขมรยังไม่ยอมรับวางทุ่นระเบิด ยังอ้างทำตามอนุสัญญาออตตาวา แต่ได้บอกไปว่าถ้าวางอีกก็พร้อมตอบโต้ ขณะที่ฝ่ายเรายืนยันไม่รื้อลวดหนามเพราะเป็นการป้องกันฐานตามกฎหมาย พร้อมเสนอห้ามนำมวลชนมายั่วยุแบบที่สระแก้ว ซึ่งเขมรยอมรับ เผยบรรยากาศทั่วไปดีขึ้น จะพบปะกันบ่อยขึ้น พร้อมให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 1 เชื่อมั่นแก้ไขสถานการณ์ได้
วันนี้ (27 ส.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา หรือ RBC กองทัพภาคที่ 2 ว่า ในส่วนของการวางระเบิดใหม่ของฝ่ายกัมพูชาหลังจากมีข้อตกลงหยุดยิงก็ยังมีเกิดขึ้น 2 ครั้ง ซึ่งมาตรการในการตอบโต้ก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งในการประชุมวันนี้ทางกัมพูชาก็ไม่ยอมรับ แล้วยังยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยทุ่นระเบิดอย่างเคร่งครัด แต่ถึงอย่างไร หากยังมีการวางทุ่นระเบิดอีกทางพื้นที่เราก็พร้อมจะตอบโต้เพราะเป็นการรุกล้ำอธิปไตย ซึ่งการละเมิดเอ็มโอยู 43 ต่างๆ นั้นต้องดูผลการปฏิบัติต่อจากนี้ว่ามีความจริงใจหรือไม่และขึ้นอยู่กับผู้นำของกัมพูชาด้วยว่ามีทิศทางอย่างไรต่อไป แต่เราก็พร้อมปฏิบัติทุกรูปแบบเหมือนกัน ส่วนเหตุผลที่ต้องนำเรื่องคอลเซ็นเตอร์ไปหารือระดับจีบีซีนั้นเพราะเป็นเรื่องนโยบายของประเทศ เกี่ยวข้องกับกระทรวง ทบวง กรมอื่น ซึ่งแม่ทัพภาคดูโดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดน
แม่ทัพภาคที่ 2 ยังระบุว่า ในส่วนข้อตกลงเรื่องทุ่นระเบิด และคอลเซ็นเตอร์ฝ่ายไทยเป็นคนเสนออย่างชัดเจน และมีอีกหลายข้อที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นคนเสนอแต่ไทยไม่ได้นำเข้าที่ประชุมเพราะเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ไม่มีอะไร โดยภาพรวมทั้งหมดเราคงต้องดูผลการปฏิบัติและท่าทีของฝ่ายกัมพูชา โดยเฉพาะระดับผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังหรือไม่
ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนในช่วงก่อนประชุมอาร์บีซีวันนี้ยังไม่มีเหตุการณ์อะไร และยังปกติ ต่างฝ่ายต่างหยุดยิงตามข้อตกลงของจีบีซี ในภาพรวมการวางกำลังของสองฝ่ายยังเท่าเดิมและอยู่ในจุดเดิม จะมีการเพิ่มกำลังบางจุดของกัมพูชา บางส่วนซึ่งเราก็เก็บหลักฐานไว้เพื่อดำเนินการประท้วงตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับเรื่องรั้วลวดหนามที่กัมพูชาประท้วง เขาก็พูดขึ้นมา ตนก็ยืนยันว่าเป็นการป้องกันฐานที่ตั้งตามแนวเขตที่ถูกต้องตามกฎหมาย และตามหลักยุทธวิธี เรายืนยันว่าไม่รื้อ
ส่วนที่กังวลกันว่าแม้จะมีการทำข้อตกลงกันแล้วก็ยังมีการบิดเบือนและฝ่าฝืนนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศอยู่ในที่ประชุมด้วยและมีการตรวจสอบคำพูดในแถลงการณ์ทั้งหมด ตนได้ลงนามทั้ง 11 ข้อ ก็ต้องเป็นไปตามนั้นไม่มีเพี้ยน ซึ่งการพูดการหารือก็ว่ากันไป แต่การลงนามจะมีจำนวนข้อที่ระบุไว้ชัดเจนทั้งหมด และจะนำไปแจกจ่ายให้สื่อมวลชนเพื่อนำไปเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับทราบรวมถึงประชาชนชาวกัมพูชาได้รับทราบด้วยว่าเราจะลงนามตามนี้ จะไปชี้แจงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
เมื่อถามว่าจากการประชุมวันนี้มีความมั่นใจได้อย่างไรว่ากัมพูชาจะไม่ยิงข้ามมาถูกประชาชนผู้บริสุทธิ์ฝั่งไทยอีก พล.ท.บุญสินกล่าวว่า เป็นสถานการณ์ในอนาคตที่เราหวังว่าจะไม่เกิด ทางฝั่งกัมพูชาก็มุ่งหวังจะให้เกิดเสรีภาพมิตรภาพที่ดี แต่อย่างว่า การยิงกันผ่านมาไม่กี่วัน มีการพูดคุยกันแล้วก็พัฒนาไป ต่างฝ่ายต่างไม่อยากให้สูญเสียทั้งประชาชนและทหาร ก็ต้องรอดูว่านโยบายของผู้บังคับบัญชาเป็นอย่างไร การปฏิบัติและท่าทีทหารกัมพูชาตลอดแนวเป็นอย่างไร มีความก้าวร้าวหรือการปฏิบัติที่นำไปสู่ความขัดแย้งที่จะใช้อาวุธหรือไม่ ต้องดูในอนาคตและนโยบายที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งบรรยากาศก็เริ่มดีขึ้น กัมพูชาเสนอว่าให้มีการพบปะกันบ่อยๆ แต่ก็ต้องดูความจริงใจในการปฏิบัติด้วย
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่กัมพูชานำมวลชนมากดดันในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีส่วนในการกำหนดข้อตกลงอาร์บีซีในวันนี้หรือไม่ พล.ท.บุญสินยอมรับว่าใช่ ในข้อที่ 4 ที่ระบุว่ามายุยงทั้งทางทหารและพลเรือน รวมทั้งไม่ใช้กำลังทหารและพลเรือนในการสร้างความขัดแย้งตลอดแนวชายแดน ซึ่งเขาก็ยอมรับ โดยในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ได้ให้นโยบายแก่ผู้บังคับหน่วยไปว่าให้มีความเด็ดขาดในการแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นจุดไหน ถ้ามีท่าทีจะรุกล้ำอธิปไตยไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น ซึ่งเราก็มีแผนปฏิบัติตามขั้นตอนอยู่แล้วตั้งแต่การแจ้งเตือน เป็นมาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนของสองฝ่ายปะทะกัน
เมื่อถามว่าสถานการณ์ที่สระแก้วจะทำให้เกิดการบานปลายหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ให้ทางเจ้าภาพเป็นคนตอบดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 1 ส่วนถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงจะมีผลกระทบต่อชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 หรือไม่นั้น พล.ท.บุญสินกล่าวว่าก็มีส่วนบ้างในกรณีที่มีการใช้กำลังทหาร เราก็พร้อมปฏิบัติตลอดแนวอยู่แล้ว ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่จะรับมือได้ ส่วนมวลชนจัดตั้งที่มายั่วยุก็เป็นหน้าที่ของหน่วยในพื้นที่ไปแก้ไขหาวิธีการในการจะทำอย่างไรก็ได้ให้สถานการณ์คลี่คลาย
“ผมเชื่อมั่นว่าท่านแม่ทัพภาคที่ 1 จะแก้ไขได้ ให้กำลังใจกัน ในส่วนของเรากองทัพภาคที่ 2 ก็เตรียมเหมือนกัน”
สำหรับประชาชนตามแนวชายแดนให้ฟังข่าวสารจากฝ่ายความมั่นคง และกองกำลังสุรนารีเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไร และไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะใช้กำลัง ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกหรือดูจากสื่อโซเชียลแล้วไปขนย้ายข้าวของออกจากบ้านต้องตรวจสอบให้ดีก่อนอย่าเพิ่งตกใจ สำหรับเกษตรกรที่จะเข้าไปทำการเกษตรนั้นได้มีการผ่อนคลายไปแล้วในบางพื้นที่แต่ในส่วนที่ใกล้แนวหน้ามากๆ ก็ต้องขอความร่วมมืออย่าเพิ่งเข้าไป
สำหรับกรณีปราสาทตาควายนั้นเป้าหมายก็ยังเหมือนเดิมอยู่ในขั้นตอนของเรา ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวเป็นของไทยก็พร้อมปฏิบัติทันทีเมื่อมีสถานการณ์หรืออย่างไรก็แล้วแต่ ทั้งด้านการประท้วงทำการทูตก็ยังทำเหมือนเดิม