xs
xsm
sm
md
lg

หัวหน้าคณะ IOT เผยลงพื้นที่เจอหลายอย่างที่ไม่คาดคิด ชมทหารไทยสุภาพบุรษ-ทหารเขมรป่วนช่องอานม้าโทร.ขอโทษแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะ IOT ลงพื้นที่ดูความเสียหาย รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ถล่ม ก่อนดูจุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดช่องจุ๊บตะโมก ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียเผยได้ข้อมูลคาดไม่ถึงหลายอย่าง ชมทหารไทยเป็นสุภาพบุรุษ แต่ฝั่งโน้นไม่เป็นมืออาชีพ เผยทหารเขมรป่วนช่องอานม้าเมื่อวานโทร.ขอโทษแล้ว อ้างเมา

วันนี้ (20 ส.ค. 2568) เวลา 09.30 น. คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ตามข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา นำโดย พล.ต.ซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Brigadier General Samsul Rizal bin Musa) ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย หัวหน้าคณะ พร้อมด้วยผู้แทนทหารจาก 8 ประเทศอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม พลโท อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก พลตรี กรรณ บุญชัย รองเจ้ากรมข่าวทหาร และคณะผู้แทนจากกองทัพไทย ลงพื้นที่ ณ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจสอบผลกระทบจากการโจมตีด้วยจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมสากลอย่างชัดเจน เนื่องจากโจมตีต่อพลเรือนและสถานพยาบาล ซึ่งมีจรวด BM-21 ตกถึง 3 จุด ได้แก่ อาคารภูมิพัฒน์ แฟลตที่พักเเพทย์ พยาบาล และบริเวณลานหญ้า หน้าอาคารภายในโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้มอบหมายให้นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการฝ่ายความมั่นคงจังหวัดและอำเภอ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ให้การต้อนรับ จากนั้นเดินทางไปยังช่องจุ๊บตะโมก ตรวจสอบเหตุการณ์ทหารพรานไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ภายหลังการหยุดยิง ตอกย้ำว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง


สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงไปตรงมาในพื้นที่จริง อีกทั้งเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงชายแดนและประชาชนผู้บริสุทธิ์

คณะได้ลงพื้นที่ไปสำรวจความเสียหาย จุดแรกที่ไปคือ บริเวณสนามหญ้าหน้าเสาธงของโรงพยาบาลพนมดงรัก เป็นจุดที่ลูกระเบิด BM-21 ตกเป็นจุดแรก ทำให้เกิดเป็นหลุมลึก โดยทหารไทยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลพนมดงรักได้อธิบายว่าจุดนี้เป็นจุดแรกที่ระเบิดลง และทางหน่วยเก็บกู้ระเบิดได้นำไปทำลายแล้ว


ต่อมาคณะ IOT ได้ไปดูความเสียหายอาคารภูมิพัฒน์ ซึ่งเป็นศูนย์ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และผู้ป่วยจิตเวชของโรงพยาบาล ที่ได้รับความเสียหาย ถูกระเบิดตกใส่บริเวณหลังคาชั้น 2 ของอาคาร เป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากลูกระเบิด BM-21 หนักที่สุด มูลค่าความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท โครงสร้างอาคารเสียหาย และยังมีสะเก็ดระเบิดที่กระจายไปโดนกำแพงบริเวณโดยรอบ อีกทั้งยังพบบุคลากรภายในโรงพยาบาลได้รับผลกระทบต่อสภาวะจิตใจอย่างรุนแรง หรือมีสภาวะเครียดภายหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ ที่เรียกกันว่า PTSD เบื้องต้นมีบุคลากรที่ยังรักษาอยู่ 11 ราย

ต่อมา พล.ต.ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นรับฟังการบรรยายสรุปและลงพื้นที่สำรวจความเสียหายแต่ละจุดในโรงพยาบาลพนมดงรัก ว่า ขอบคุณกองทัพไทย และกองทัพบกที่ให้พวกเรามาดูสถานที่จริง เพื่อได้ตรวจสอบ และยืนยันว่าความเป็นจริงคืออะไร ซึ่งก็จะนำข้อมูลดังกล่าวนำเรียนต่อไป สำหรับการเดินทางมาในครั้งนี้ไม่ได้มาตรวจสอบและชี้ว่าใครถูกใครผิด เรามาเพื่อตรวจสอบเพียงเท่านั้น


เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ในวันนี้พบอะไรที่ไม่คาดคิดหรือไม่ พล.ต.ซัมซุลบอกว่า มีหลายอย่างที่ไม่คาดคิด ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายไม่ได้มีแค่จุดนี้ แต่ยังมีจุดอื่นที่เราต้องไปอีก ซึ่งในการให้สัมภาษณ์มี ร้อยเอกหญิง ปวิชญา วลีสุขสันต์ หรือ “ผู้กองอะตอม” นายทหารล่าม กองการภาษาต่างประเทศ กรมข่าวทหาร เป็นผู้แปลภาษาให้

พล.ต.ซัมซุลยังได้กล่าวขอบคุณที่เชิญมา เพื่อยืนยันด้วยตาตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะนำเรื่องใช้ทุ่นระเบิด โดรน และการยั่วยุโดยข่าวเท็จและบุคคลซึ่งเมื่อวานก็เห็นกับตาที่ช่องอานม้าการยั่วยุโดยการใช้กำลังทหารกัมพูชา พร้อมบอกด้วยว่า “ไม่ได้ปากหวานนะ แต่ขอชื่นชมทหารไทย ทหารฝั่งโน้นไม่มีความเป็นมืออาชีพ แต่ทหารไทยมีความเป็นสุภาพบุรุษ เมื่อวาน 8 ประเทศอาเซียนเห็นเป็นอย่างดี ไม่ได้ไปตะโกนบอกใคร”

สำหรับกรณีที่วานนี้มีทหารกัมพูชาเข้ามาก่อกวนขัดขวางการลงพื้นที่ของคณะ IOT ที่ช่องอานม้านั้น ล่าสุดมีรายงานว่าทหารในพื้นที่กองกำลังสุรนารีได้รับการประสานจาก ผบ.หน่วยกัมพูชาขอโทษต่อเหตุการณ์เมื่อวานนี้ พร้อมอ้างว่าทหารนายที่ก่อเหตุนั้นเมา







ทหารกัมพูชาที่เข้า่ไปขัดขวางคณะ IOT ลงพื้นที่ช่องอานม้า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 68


กำลังโหลดความคิดเห็น