ฉีกหน้า "วิษณุ" ก.ตร.มติเอกฉันท์ ดับฝัน "บิ๊กโจ๊ก"

มติ ก.ตร.เฉียบขาด 12 ต่อ 0 เห็นชอบให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อน งานนี้ต้องปรบมือให้ ก.ตร. ทั้งชุดที่มีจุดยืนปกป้องศักดิ์ศรีของตำรวจ อีกคนที่ต้องปรบมือให้คือนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศอิสรภาพจากอิทธิพลของนายวิษณุ เครืองาม ทำเอาพ่อมดกฎหมายกลายเป็นปลัดขิก



มติที่ประชุม ก.ตร. เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 ออกมาอย่างเฉียบขาด ไม่มีหวั่นไหวกับอาการพองตัวของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

คะแนนเป็นเอกฉันท์ 12 ต่อ 0 เห็นชอบกับคำสั่งให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อน

มติ ก.ตร. สอดคล้องกับมติคณะอนุกรรมการวินัย ของก.ตร. ซึ่งมี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง เป็นประธาน ซึ่งเห็นว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. เซ็นให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อน ถือว่าชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตามมาตรา 131 ของ พ.ร.บ.ตำรวจ พ.ศ.2565

เรียกว่า ท่าทีขึงขังมั่นใจของบิ๊กโจ๊ก อาละวาดเกทับบลัฟแหลก กล้าแม้แต่ส่งหนังสือ “สั่ง” ให้ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ต้องเซ็นรับเขากลับสถานเดียว กลับไม่ได้สร้างหวาดกลัวใดๆ ให้กับ ก.ตร. แถม ก.ตร. ลุยจัดการเรื่องนี้ให้จบๆ ไปเสียที

ไม่ให้ค่ากับการวินิจฉัยข้อกฎหมาย แบบเบี้ยวไปเบี้ยวมาของคณะหน้าไหน

งานนี้ นอกจากต้องปรบมือให้กับ ก.ตร. ทั้งชุด ที่มีจุดยืนปกป้องศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปลอดการแทรกแซงจากดีลลับของนักการเมือง

อีกคนที่ต้องปรบมือให้ดังๆ ก็คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมาเป็นประธานที่ประชุม ก.ตร. นัดสำคัญนี้ด้วยตัวเอง

ภาพผู้นำประเทศที่เคยดูหมองๆ โดนปรามาสว่า ไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกครอบงำจากนายกรัฐมนโท ตลอดจนไม่รู้จริงเกี่ยวกับวงการตำรวจ คำดูแคลนเหล่านั้น ถูกลบล้างจนหมดสิ้น จากการมานั่งเป็นประธานประชุม ก.ตร.นัดนี้นัดเดียว

นายเศรษฐา ทวีสิน เรียกคะแนนได้ท่วมท้นจากสังคมตำรวจ ด้วยการแสดงความเป็นอิสระ ไม่ถูกชักใย ไม่รับใบสั่งดีลลับ
ที่ประชุม ก.ตร. 26 มิ.ย. 2567 จึงไม่เกิดภาวะลุกเป็นไฟ ตรงข้าม กลับอบอุ่นราบรื่น ผนึกกำลังกัน ปฏิบัติตามข้อกฎหมายแบบเป๊ะๆ

การยืนหยัดของนายเศรษฐา ทวีสิน ครั้งนี้ ยังเป็นการประกาศอิสรภาพ ว่าตัวเองหลุดพ้นจาก “พ่อมดกฎหมาย” นายวิษณุ เครืองาม ที่เข้ามาสร้างอิทธิพลในคดีนี้

นายกฯ มอบหมายให้แถลงผลสอบของคณะกรรมการสอบสวน แต่นายวิษณุดันไปจ้อเรื่องความเห็นต่อท้ายของคณะกฤษฎีกา ยืดยาวเป็นคุ้งเป็นแคว

พูดราวกับว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นพ่อทุกสถาบัน ใครๆ ต้องเชื่อกูคนเดียว
พอนายเศรษฐา และ ก.ตร. ไม่โอนอ่อนผ่อนตาม ต่อลีลาเอากฎหมายมาบิดเบี้ยว
พ่อมดกฎหมายก็เลยเสื่อมมนต์ กลายร่างเป็นสากกะเบือ เป็นปลัดขิก อย่างฉับพลันทันที

ถ้ายังมียางอาย นายวิษณุ เครืองาม ควรไขก๊อกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กลับไปนอนฟอกไต ไปเลี้ยงหลาน ตามที่เคยลั่นไว้ จะเหมาะสมกว่า

มติเอกฉันท์ของ ก.ตร. นัดนี้ จะถูกส่งไปพิจารณายังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. ตามแนวทางการต่อสู้ของบิ๊กโจ๊ก

ซึ่งวงการตำรวจมองว่า ในชั้นการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. บิ๊กโจ๊กก็คงรอดยากอยู่ดี
จบจาก ก.พ.ค.ตร. ก็เป็นขั้นตอนของศาลปกครองสูงสุด จะชี้ขาดในท้ายที่สุด

ซึ่งความเห็นแนบท้ายของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่บิ๊กโจ๊กเอามาเป็นไพ่ เกใส่คนนั้นคนนี้ ก็มีคดีตัวอย่างมาแล้ว ว่าศาลไม่ให้น้ำหนัก กลายเป็นของไร้ค่าในชั้นศาล

หมากเกมนี้ของบิ๊กโจ๊ก ที่บดบี้ใส่บิ๊กต่อ เซ็นมาให้ซะดีๆ คงจะเป็นมุกแป้กตามเคย เพราะคนเป็น ผบ.ตร. ที่ไหน จะกล้าแหกมติ ก.ตร.
เช่นเดียวกับเกมเปิดศึก ชิงฟ้อง พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก็เป็นก้าวที่พลาดร้ายแรงของบิ๊กโจ๊ก เปรียบเหมือนเด็กเอานิ้ว ไปแหย่รูปลั๊กไฟ

พล.ต.อ.วินัย ที่อุตส่าห์สงบปากสงบคำมานาน ตอนนี้ออกมาพูดยาวๆ ให้บิ๊กโจ๊กเสียววาบแทน

ถึงขั้นเอ่ยปากเชิญนักข่าวให้ไปศาลด้วยกัน ไปดูการแฉพยานหลักฐานคดีฟอกเงินของบิ๊กโจ๊ก

พล.ต.อ.วินัย บอกเลยว่า ใครก็ตาม ที่ได้เห็นพยานหลักฐาน ก็จะตัดสินได้เลย ใครเป็นคนดีคนชั่ว

-------------------------
Sondhi App เปิดให้ Download ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android