เหลือเวลาอีกไม่กี่วันสมาชิกวุฒิสภา (ส ว.) ชุดปัจจุบัน กำลังจะหมดวาระลงในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 และจะมีการคัดเลือก ส.ว.ชุดใหม่จำนวน 200 คน ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยกติกาใหม่จะเป็นการคัดเลือกกันเองของผู้ลงสมัคร ส.ว.จำนวน 20 กลุ่มอาชีพ ตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ขณะนี้จึงมีการเคลื่อนไหวของผู้ลงสมัครที่น่าสนใจหลายคน โดยมีข่าวว่าอดีต ส.ว.พะเยา นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ พร้อมลงสมัครในถิ่นเดิมอีกครั้ง เพราะเคยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจังหวัดพะเยาถึงแสนกว่าคะแนน โดยอดีต ส.ว.น้ำดีมีความจริงใจในหน้าที่ จะลงสมัคร ส.ว.กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น พื้นที่อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา โดยนายสุรเดชได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า
“ที่ผ่านมาผมเป็น ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2543 โดยได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 100,000 คะแนน รวมถึงบทบาทของการเป็น ส.ส.แบบสัดส่วนภาคเหนือตอนบนระหว่างการดำรงตำแหน่ง ส.ว. ผมยังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา และประธานคณะกรรมาธิการในคณะต่างๆ โดยได้ผลักดันให้เกิดโครงการที่สร้างการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยว จึงเกิดเป็นผลงานสำคัญที่สร้างประโยชน์ให้ทุกภาคส่วน เพราะผมผลักดันให้มี “สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ที่มีการรวมตัวของผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่สังกัดตามสมาคมต่างๆ เช่น สมาคมโรงแรมไทย สมาคมมัคคุเทศก์ สมาคมผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว สมาคมรถโดยสารนักท่องเที่ยว สมาคมสปาและนวดแผนไทย และอีกหลายสมาคม รวมทั้งผลักดันให้มีการตั้ง “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ขึ้น ผลักดันการยกระดับจุดผ่อนปรนด่านชายแดนชั่วคราวให้เป็นด่านถาวร เพื่อศักยภาพการค้าและการท่องเที่ยวแบบทวิภาคี”
นายสุรเดชยังกล่าวอีกว่า “หลายคนอาจจะมองว่าผมจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดพะเยาเท่านั้น แต่ผมไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะผมจะผลักดันการกระจายรายได้ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนถาวรสู่ท้องถิ่นทุกจังหวัด ให้เป็นนโยบายแห่งชาติ ด้วยนโยบาย 3 สร้าง คือ 1. การส่งเสริมกิจการโฮมสเตย์ทุกอำเภอ ให้ประชาชนได้เพิ่มทักษะการบริการและองค์ความรู้ ในการดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยว เช่น โบราณสถาน วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และอื่นๆ 2. โครงการพำนักระยะยาวในทุกจังหวัด เช่น การฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ รวมถึงโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยนนานาชาติ โดยมุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี สังคมที่ไม่สับสนวุ่นวาย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น 3. โครงการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีห่างไกลโรคภัยอายุยืนยาว ด้วยคุณภาพอาหารและวัตถุดิบจากธรรมชาติ ปลอดสารพิษและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อากาศที่ปราศจากมลพิษ ความสะอาดถูกสุขอนามัย ความรู้ในการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน และสภาพแวดล้อมที่สงบร่มรื่นเป็นต้น” นายสุรเดชกล่าวทิ้งท้าย
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ เป็นบุตรของพลตำรวจเอก วิฑูรย์ ยะสวัสดิ์ และ ม.ร.ว.จิตราภา (นวรัตน) ยะสวัสดิ์ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และคอมเมิร์ซเซนต์จอห์น จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา โดยจบอนุปริญญาสาขาการตลาดที่ Chamberlayne Junior College Boston Massachusetts, ปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจที่ Curry College Milton Massachusetts และปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ ด้านการวางนโยบายและแผนจาก Northeastern University Boston Massachusetts
ผลงานที่ผ่านมา นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทและมีประสบการณ์การทำงานด้านการเมือง และมีผลงานการพัฒนาที่โดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ประกอบด้วย ประธานคณะกรรมาธิการสามัญการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภาปี 2543, ประธานคณะกรรมาธิการสามัญการท่องเที่ยว วุฒิสภาปี 2544-2549, ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา ปัญหาจุดผ่อนปรนด่านชายแดนชั่วคราวและถาวร วุฒิสภาปี 2545-2549, ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการพัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ด้านการท่องเที่ยว วุฒิสภาปี 2546-2549, ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ โครงการขุดคอคอดกระ หรือคลองไทย วุฒิสภาปี 2547-2549 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.ปี 2551-2555