“พ่อฟ้า” ชวนคนไทยลงสมัคร ส.ว.ประชาชนสู้กลุ่มจัดตั้ง ปลดล็อกแก้รัฐธรรมนูญ หวังแก้องค์กรอิสระให้เป็นธรรม อ้างเปิดเบาะแสชาวบ้านบอกตอนนี้ค่าเหนื่อยพุ่งหมื่นห้าต่อหัว
วันนี้ (22 เม.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงเปิดตัวแคมเปญ ส.ว.ประชาชน ที่อาคารอนาคตใหม่ โดยที่ผ่านมา ตนเองมีโอกาสรณรงค์ให้ประชาชนลงสมัคร ส.ว.ทั้งกรุงเทพฯ กระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช หากย้อนกลับไปตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 สภาผู้แทนราษฎรชุดนั้น มีการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 เนื่องจากฝ่ายค้านในเวลานั้น เห็นว่า รัฐธรรมนูญมีปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ตั้งแต่ที่มา เนื้อหา และกระบวนการ จึงเสนอให้มีการแก้ไขร่างธรรมนูญทั้งหมด 7 ครั้ง ซึ่ง ส.ว.ไม่เห็นด้วยเลย เห็นด้วยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องระบบเลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
แม้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ระบอบประยุทธ์ยังอยู่ในรูปแบบรัฐธรรมนูญปี 2560 ส.ว.ชุดปัจจุบันคัดเลือกกันเองตามอาชีพ แต่ให้องค์กรสมาคมต่างๆ ในวิชาชีพนั้น เป็นผู้เสนอชื่อเพื่อคัดเลือกกันเอง ต่างจากการคัดเลือก ส.ว.ชุดใหม่ที่จะให้ประชาชนลงสมัครตามวิชาชีพของตนเอง ถือเป็นโอกาสสำคัญที่พี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตยจะมีบทบาทเข้าไปมีส่วนร่วมต่อการฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ
หากปล่อยให้การเลือก ส.ว.มาจากคนกลุ่มน้อยเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้น โอกาสที่จะให้ ส.ว.เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องใช้เสียง 1 ใน 3 หรือ 70 คน เพื่อนำพาประเทศไทยกลับไปสู่เส้นทางประชาธิปไตย
ส.ว.มีความสำคัญต่อการพัฒนาการเมืองไทย นายธนาธร หยิบยกการคำนวนผลการเลือกตั้ง ปี 2560 โดยสูตร กกต. พรรคสืบทอดอำนาจ 254 เสียง ส่วนพรรคที่ต่อต้านอำนาจเหลือเพียง 246 เสียง พรรคอนาคตใหม่ ณ ขณะนั้นมีสัดส่วน ส.ส.ลดลงมากสุด และทำให้เกิดพรรคการเมืองขนาดเล็ก เกิดพรรคปัดเศษ 11 ที่ เหมือนเป็นรัฐประหารเงียบ ทำให้พี่น้องประชาชนร่วมลงชื่อถอดถอน กกต. 9 แสนกว่าคน
นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังเคยตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และการเดินหน้าสอบ 44 ส.ส.ก้าวไกล ข้อหาผิดจริยธรรม ส.ส.เสนอแก้ ม.112 ซึ่งถือเป็นการกลั่นแกล้งนักการเมือง ที่ไม่ได้เดินตามนโยบายที่เหมาะสม หรือแม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย ไทยรักษาชาติ และอนาคตใหม่
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ส.ว.ถึงมีความสำคัญ เกือบ 20 ปีที่มีการแบ่งฝ่ายทางการเมือง สิ่งสำคัญคือปัญหาสองมาตรฐานหากอยากให้การเมืองกลับสู่วิถีปกติกลับมาสู่ระบอบรัฐสภาจึงต้องทำให้องค์กรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระกลับมายืนอยู่บนความยุติธรรม ตั้งมั่นด้วยความเป็นธรรม เพราะหากไม่มีความเป็นธรรมก็ไม่มีความสมานฉันท์
นายธนาธร กล่าวต่อว่า ส.ว. มีอำนาจในการแต่งตั้งองค์กรอิสระที่จะหมดวาระก่อนปี 2572 เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ 7 ใน 9 คน กกต. 5 ใน 7 คน ป.ป.ช. 5 ใน 9 คน กสม. 6 ใน 7 คน กสทช. 7 คนที่จะหมดวาระ เมื่อปมพันกันอิรุงตุงนังขมวดกันจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เราสามารถถอดสลักแก้ปมนี้ได้ หากมี ส.ว.ประชาชน ส.ว.ที่ยึดมั่นในประชาธิปไตย ซึ่งคนที่สนใจสมัครสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ Senate67.com
“ผมเข้าใจดีว่าเป็นข้อเรียกร้องที่สูงมาก เพราะต้องให้ประชาชนไปจ่าย 2,500 บาท แต่หากผู้ที่มีศักยภาพ ไม่ลงมือทำ เราจะได้ ส.ว.แบบเดิม และยิ่งมีประชาชนจำนวนมากไปเป็น ส.ว.อิสระ จึงต้องอาศัยแรงจากประชาชน เพราะหากเราผลักดันไม่ได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก้าวหน้า อีก 5 ปีคงจะไม่เกิดขึ้น”
นายธนาธร ยังตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบว่าการเลือก ส.ว.ไม่มีแนวทางป้องกันการฮั้วนั้น มองว่า กระบวนการเลือก เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ สิ่งที่พวกเรารณรงค์ไม่อยากให้เข้าใจอะไรผิด เพราะการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของเรา ให้ประชาชนที่มีศักยภาพไปลงสมัคร ส.ว. ส่วนจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน ไม่ใช่โจทย์ของเรา เพราะหากประชาชนพร้อมจะเลื่อนไปอีกเมื่อไรก็พร้อม
ขณะนี้ เว็บ Senate67.com มีผู้มาสมัครหลักพันคน ตัวเลขจริงมีมากกว่านี้ เพราะคนที่มาสมัคร ส.ว. มี 3 ประเภท คือ 1. คนที่อยากเป็นเพื่อผลักดันประเทศ 2. ฉันเป็นก็ได้ ไม่เป็นก็ได้ 3. ฉันไม่เป็น ส.ว.แน่นอน แต่ขอลงเพื่อโหวตให้คนที่มีศักยภาพที่เหมาะสมเข้าไป
ส่วนที่ระบุว่า มีกลุ่มฮั้วนั้น ไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ แต่ที่พอรู้มาจากการลงพื้นที่ต่างจังหวัดชาวบ้านก็นำข้อมูลมาว่า ถูกชักชวน เช่น ตอนนี้ราคาอยู่ที่คนละ 15,000 + 2,500 บาท จ่ายค่าเหนื่อย 15,000 บาท บวกค่าสมัคร 2,500 บาท ส่วนในระดับจังหวัด ก็เป็นหลักแสน จึงไม่สามารถยืนยันได้ในข้อเท็จจริง แต่เป็นคำบอกเล่าจากประชาชนที่มาบอกให้ฟัง
ส่วนเป้าหมายที่ระบุต้องได้ ส.ว.เกิน 70 คน ตั้งเป้าผู้สมัครเท่าไร นายธนาธร บอกว่าไม่มีใครวัดเป็นปริมาณได้ว่าเราต้องการได้กี่คน ภายใต้กฎนี้เราไม่สามารถคำนวณกับต้นทางได้ว่าจำเป็นต้องมีผู้สมัครเท่าไหร่ ดังนั้น ตนเองคิดว่าต้องสมัครให้มากที่สุด ยิ่งดี แต่ต้องระดับหลักหมื่นขึ้นไป ไม่สามารถระบุชัดเจนตัวเลขได้
ส่วนที่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.มองว่า การรณรงค์ของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายฮั้วนั้น เรารณรงค์ให้ประชาชนไปสมัครให้เยอะที่สุด ส่วนเขาจะเลือกใครเป็นเรื่องของเขา เชิญชวนให้ไปสมัครให้เยอะกลุ่มอาชีพ เยอะอำเภอ เพื่อที่คนที่จัดตั้งกันมาจะได้ไม่สามารถส่งคนของตนเองเข้าสู่กระบวนการได้ เพราะถ้าไม่มีคนอิสระเข้ามาเลย หมายความว่าใครจัดตั้งมา ก็เข้าหมดเลย เพราะไม่มีการแข่งขัน
เมื่อถามว่า กลุ่มที่จัดตั้งคือกลุ่มใด นายธนาธร ระบุ สื่อน่าจะรู้ดีกว่าตนเอง ประชาชนก็อยากได้ข้อเท็จจริง ซึ่งจากการลงพื้นที่ บางทีก็มีชื่อบางพรรคการเมืองถ้าเกิดหากสื่อ จะทำเจาะทำข่าวนี้ ว่ามีกลุ่มไหนเข้าไปซื้อ ก็จะเป็นคุณูปการต่อประเทศ
ส่วนกรณีที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สาวไส้กรรมการ ป.ป.ช. โยงนายพลเป็นความล้มเหลวขององค์กรอิสระ และผู้แต่งตั้งสรรหาหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้ ชัดเจนว่า การได้มาซึ่งกรรมการในองค์กรอิสระมีปัญหาเรื่องกระบวนการ ยืนยันว่า หากองค์กรอิสระครองตน และตัดสินอย่างเป็นธรรม ยึดมั่นในหลักการตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่า ประเทศไทยดีกว่านี้ แต่ที่เป็นแบบนี้ เพราะไม่มีคนที่ประชาชนให้ความศรัทธา ว่านี่คือความยุติธรรม ถ้าองค์กรอิสระครองไว้ซึ่งความยุติธรรม 10 กว่าปีที่ผ่านมาเชื่อว่า ประเทศไทยไม่เป็นอย่างนี้ ประเทศไทยจะดีกว่านี้ ดังนั้น คำถามนี้แสดงให้เห็นว่าการได้มาซึ่งกรรมการและองค์กรอิสระมีปัญหา และการจะทำให้ไม่มีปัญหา ก็ต้องไปคุยที่คนแต่งตั้ง คนที่มีอำนาจในการแต่งตั้ง มือที่ใช้รับรอง เพราะไม่ใช่ ส.ส. หรือพรรคการเมือง แต่เป็นสมาชิกวุฒิสภา