ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม “เอ้ ริมปิง” อดีตแอดมินเพจยักยอกเงินบริษัท เข้าบัญชีตนเอง อ้างมีปัญหาทางการเงิน
วันนี้ (9 มี.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. จับกุมน.ส.อรพิส์ชา เกรียงกิรติไกร หรือ เอ้ ริมปิง อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง จับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ท้าย หมู่ 10 ตำบลหนองไม้กอง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลรับการร้องเรียนจากประชาชนให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.อรพิส์ชา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่สวมรอยนำเลขบัญชีธนาคารของตนเปลี่ยนแทนเลขบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งจะต้องได้รับเงินคืนจากบริษัท แล้วนำเงินไปหมุนใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ก่อนจะถูกบริษัทให้ออกจากงานและหนีหายตัวไปตั้งแต่ปี 2564
ในชั้นจับกุม น.ส.อรพิส์ชา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบหลักสูตรนานาชาติตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงระดับมหาวิทยาลัย สาขาการตลาดอินเตอร์ หลังจากเรียนจบเคยทำงานประสานงานนักศึกษาแลกเปลี่ยน ทำอยู่ประมาณเกือบปี ก่อนจะกลับไปช่วยบ้านทำธุรกิจค่าอาหารทะเลแห้ง ต่อมาประมาณปี 2564 มีโอกาสไปทำงานเป็นแอดมินเพจของบริษัท นินจาโอม อลังการ ตระการตา จำกัด ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยทำหน้าที่คอยตอบคำถามลูกค้าที่ติดต่อสั่งซื้อสินค้าจำพวกโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ส่วนควบทุกชนิดจากเพจ แต่เนื่องจากขณะนั้นตนประสบปัญหาทางการเงิน ประกอบกับมีปัญหากับอดีตสามี มีเหตุที่ต้องใช้เงินด่วน
อีกทั้งตนมีโอกาสที่ได้คุยกับลูกค้าเนื่องจากตนเป็นแอดมินเพจของบริษัท ซึ่งลูกค้ามีเหตุที่บริษัทต้องโอนเงินคืนให้แก่ลูกค้า พอถึงกำหนดที่บริษัทต้องโอนเงินคืน ตนได้สวมรอยนำเลขบัญชีธนาคารของตนเปลี่ยนแทนเลขบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งจะต้องได้รับเงินคืนจากบริษัท เพื่อนำเงินไปหมุนใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ทั้งนี้ ตนก่อเหตุไปหลายครั้งจำจำนวนครั้งไม่ได้ ก่อนที่จะถูกบริษัทจับผิดได้เนื่องจากฝ่ายบัญชีเห็นว่าบัญชีลูกค้าที่ขอรับเงินคืนเป็นเลขบัญชีซ้ำ ตนจึงถูกให้ออกจากงาน และได้หลบหนี ก่อนจะได้มาพบกับสามีใหม่จึงมาทำงานขายอาหารสดในพื้นที่ อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่า นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ เกรียงกิรติไกร มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี เมื่อปี 2558 เคยถูกจับกุมในความผิดฐานออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ท้องที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่ และปี 2564 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ เกรียงกิรติไกร ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ ผบ.ตร.