xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : เพ็ญกลับมาแล้ว | สายสีเหลืองเก๊กฮวยห่วยไม่พัก | โศกนาฎกรรมเรือชนสะพานถล่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com

(สรุปข่าวประจำวันที่ 25 - 31 มี.ค. 2567)


อันดับ 1 : เพ็ญกลับมาแล้ว หนีหายไป 15 ปี มอบตัวคดีครอบครองอาวุธ-อั้งยี่ ได้ประกัน 4 แสน รับเคยคุยกับทักษิณ

หลังจากหลบหนีคดีอาญาไปนานกว่า 15 ปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มายังประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก จะกลับมารับใช้ประเทศไทย ก่อนที่ตำรวจควบคุมตัวดำเนินคดีร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและอั้งยี่ แล้วนำตัวมาที่กองปราบปราม จากนั้น ได้รับการประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข วางวงเงินไว้คดีละ 200,000 บาท 2 คดี รวม 400,000 บาท โดยได้ปฏิเสธทั้ง 2 ข้อกล่าวหา ส่วนการให้การเพิ่มเติมจะให้การในภายหลัง นัดเข้าให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 22 และ 23 เม.ย.นี้

นายจักรภพมีคดีอยู่ 3 คดี คือ คดีมาตรา 112 จากการปาฐกถาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (เอฟซีซีที) อัยการสั่งไม่ฟ้อง คดีร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและอั้งยี่ ออกหมายจับเมื่อปี 2560 อายุความ 20 ปี และคดีขัดคำสั่ง คสช.

จากนั้นนายจักรภพได้ก้มลงกราบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ก่อนเปิดใจว่า 15 ปีที่ได้เดินทางลี้ภัยไปต่างประเทศ รู้สึกเสียดายเวลาที่ไม่ได้รับใช้ประเทศชาติ จากนี้ไปสิ่งไหนที่ทำได้ก็จะทำ ทั้งงานการเมืองและงานต่างประเทศ หากคดีความจบแล้วชีวิตที่เหลือจะขอทำตัวให้มีประโยชน์ต่อชาติ ไม่ปฎิเสธว่ามีการคุยกันแต่เป็นการพูดถึงจุดร่วมเท่านั้น มีการคุยโทรศัพท์กับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร 1 ครั้ง ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุว่า ใครที่มีปัญหาเรื่องในอดีต ถ้ากลับเข้ามาต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง


อันดับ 2 : สายสีเหลืองเก๊กฮวยห่วยไม่พัก ชิ้นส่วนหล่นตุ๊บ รถพังอย่างน้อย 8 คัน นอตยึดแผ่นเหล็กตรงรอยต่อหลุด 

ความวุ่นวายในการเปิดใช้รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 28 มี.ค. ชิ้นส่วนรางจ่ายไฟฟ้าร่วงหล่นลงมาบนถนนศรีนครินทร์ ช่วงสถานีกลันตัน ถึงสถานีสวนหลวง ร.9 ต้องหยุดให้บริการเดินรถทั้งระบบชั่วคราว ผู้โดยสารที่เดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนตกค้างจำนวนมาก เบื้องต้นมีรถยนต์ได้รับความเสียหาย 8 คัน ตั้งแต่ฝากระโปรงรถเป็นรอยยุบ ยางรั่ว หนักสุดคือกระจกหน้ารถแตก ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด ต่อมาบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ในกลุ่มบริษัทบีทีเอส ชี้แจงว่าเป็นเศษชิ้นส่วนยึดจับรางจ่ายไฟร่วงลงบนรางรถไฟฟ้า

ต่อมาวันที่ 30 มี.ค. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง และคณะลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่านอตที่ยึดแผ่นเหล็กบริเวณรอยต่อรองรับการขยายตัวเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของคานทางวิ่งหลุดและขาดออกจากตำแหน่งที่ติดตั้ง ส่งผลให้แผ่นเหล็กหล่นลงมาที่พื้นด้านล่างจำนวน 1 ชิ้น จึงได้เน้นย้ำให้ตรวจสอบสภาพการขันทอร์กของนอตที่ยึดแผ่นเหล็ก บริเวณรอยต่อของคานทางวิ่งทั้งหมด พร้อมทั้งพิจารณาเปลี่ยนนอตบริเวณดังกล่าวทั้งหมดตลอดเส้นทาง และพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์ยึดรางนำไฟฟ้าให้มีความมั่นคงแข็งแรง และอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน

อีกด้านหนึ่ง โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-สถานีเมืองทองธานี มีเหตุน้ำปูนตกใส่รถยนต์จนกระจกแตก บริเวณสถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี เบื้องต้นผู้รับสัมปทานได้เข้ารับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด และหยุดก่อสร้าง 7 วัน


อันดับ 3 : โศกนาฎกรรมเรือชนสะพานถล่ม บัลติมอร์-รัฐแมรีแลนด์ เหล็กหล่นลงน้ำเสียชีวิต 6 ขนส่งทางน้ำวิกฤต

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 27 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุเรือบรรทุกสินค้าต้าหลี่ ของบริษัท ซีเนอร์จี กรุ๊ป สัญชาติสิงคโปร์ ชนเข้ากับตอม่อสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ข้ามแม่น้ำปาทัปสโก ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ทำให้สะพานที่ก่อสร้างด้วยเหล็กพังถล่มลงมา ส่งผลให้รถบนสะพานตกลงสู่แม่น้ำปาทัปสโก นายเวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ สั่งประกาศภาวะฉุกเฉิน เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย เป็นคนงานซ่อมสะพาน สำหรับสาเหตุมาจากเรือเกิดปัญหาด้านพลังงาน และเสียการควบคุม ส่วนสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ ระบุว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ที่บอกว่าเกิดขึ้นจากความจงใจ

ผลกระทบด้านการขนส่งทางน้ำ พบว่าซากสะพานกีดขวางการเดินเรือ ท่าเรือบัลติมอร์ปิดอย่างไม่มีกำหนด โดยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าประเภทรถยนต์ ตู้คอนเทนเนอร์ และสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ มียานพาหนะถูกขนส่งผ่านมากที่สุดในสหรัฐฯ ทำให้เรือขนส่งสินค้าต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังท่าเรือฟิลาเดลเฟีย นอร์ฟอล์ค นิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีแทน ส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น ถึงกระนั้น รัฐบาลนายโจ ไบเดน ได้อนุมัติเงินทุนฉุกเฉินกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) ให้แก่ทางการรัฐแมรีแลนด์ เพื่อเก็บกู้สะพานที่ถล่มลงมาและเศษซากในแม่น้ำ ก่อนก่อสร้างสะพานทดแทนต่อไป


อันดับ 4 : อึ้ง! รอง ผอ.โรงเรียนค้ายานรก รวมกลุ่มข้าราชการเกย์มั่วสุม หลอกเหยื่อเสพยามั่วเซ็กซ์ถ่ายคลิปลับ

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ตำรวจสืบนครบาล ติดตามจับกุมนายเศรษฐยศ ขุมนาค หรือเจ๊เก่ง อายุ 42 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด และนายกฤตฌาน์พัฒน์ อุดมอานุภาพสุข หรือท็อป อายุ 37 ปี ได้ที่คอนโดมิเนียมย่านถนนรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่านายท็อปแอบอ้างเป็นแพทย์ หลอกลวงแพทย์ตัวจริงที่มีรสนิยมทางเพศเดียวกันเสพยาถอนตัวไม่ขึ้น ก่อนถูกหลอกให้ถ่ายคลิปลับ หลอกเอาเงินไปหลายล้านบาทเพื่อแลกกับการเสพยา โดยนายท็อปเป็นลูกน้องของเจ๊เก่ง ทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ นิยมรวมกลุ่มข้าราชการชายรักชายปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด พบเงินหมุนเวียนที่ผ่านมากว่า 1,300,000 บาท

โดยพบของกลางยาไอซ์ 100 กรัม ใส่ถุงแบ่งขาย คีตามีน 2 ถุง อุปกรณ์การเสพ ถุงยางอนามัย 200 ชิ้น เจลหล่อลื่น 100 ซอง ยาปลุกเซ็กซ์ ฮาร์ดดิสก์พกพามีไฟล์หนังลามก เจ๊เก่งสารภาพว่า เป็นรอง ผอ. สอนวิชาการงานอาชีพชั้นประถมศึกษา เริ่มเสพยาตั้งแต่กลางปี 2566 สั่งจากโซเชียลฯ มาขายให้กลุ่มเพื่อน วัยรุ่น และข้าราชการเมื่อต้นปี 2567 โดยรู้จักนายท็อป เมื่อเดือน มิ.ย. 2566 นายท็อปมาที่ห้องพักอยู่บ่อยครั้ง และให้ยาเสพติดไปขาย ส่วนนายท็อปสารภาพว่าจบปริญญาโท เคยเกี่ยวข้องยาเสพติด ติดคุก 1 ปี 3 เดือน ออกจากเรือนจำปี 2558 แต่หางานทำไม่ได้เพราะไม่มีใครรับ ก่อนรู้จักกับเจ๊เก่งดังกล่าว

อีกด้านหนึ่ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง นายเศรษฐยศ และสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว


อันดับ 5 : ศาลแพ่งสั่งชดใช้ 27.3 ล้าน ส.ต.ต.ซิ่งบิ๊กไบค์ ชนหมอกระต่ายเสียชีวิต ยกฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ศาลแพ่งพิพากษาให้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ชำระเงินชดใช้แก่น นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล และนางรัชนี สุภวัตรจริยากุล บิดาและมารดาของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย รวมกว่า 27.33 ล้านบาท ในคดีที่ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายเสียชีวิต บริเวณทางม้าลายหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565 และให้ยกฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศาลเห็นว่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ที่ขาดความสำนึกรู้ผิดชอบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีอำนาจโดยลำพังในการจัดระเบียบจราจร

สำหรับค่าเสียหาย ศาลได้พิเคราะห์ถึงค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและเหมาะสม ให้จ่ายจำนวน 331,230 บาท ส่วนค่าขาดไร้อุปการะ ต้องพิจารณาตามฐานานุรูปของผู้ตายและโจทก์ทั้งสอง หากมีชีวิตอยู่จะมีรายได้เพิ่มตามประสบการณ์และอายุการทำงาน ส่วนบิดามารดาซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ แม้จะมีรายได้แต่อยู่ในวัยชรา มีปัญหาสุขภาพต้องไปพบแพทย์และรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง มีภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวต่อเดือนค่อนข้างสูง เห็นสมควรกำหนดค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู คนละ 13.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันทำละเมิดวันที่ 21 ม.ค. 2565 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ


อันดับ 6 : สาว บช.น.อำลาชีวิตตำรวจ 1 ปีป่วยจิตเวช-ซึมเศร้า ครูฝึกกองร้อยน้ำหวานโหด บิ๊กต่ายหาทางออกให้

ทำเอาใจหายกันทั้งโซเชียลฯ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. เฟซบุ๊กของสิบตำรวจตรีหญิงรายหนึ่ง สังกัดฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โพสต์ข้อความอำลาชีวิต ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการฝึกเป็นตำรวจ 1 ปี กลายเป็นคนป่วยจิตเวช เป็นโรคซึมเศร้าจากการฝึก เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุถูกเตะศีรษะในค่าย ซึ่งไม่ได้ติดใจ รักษาตัวกลับมา แต่ถูกครูฝึกทำโทษและพูดทำร้ายจิตใจทุกวัน เอาเชือกฟาดขา โดนดองเวรยืนเวรทุกคืนไม่ได้นอน ไม่เคยได้พักตามที่หมอสั่ง ต้องทำท่าที่เอาหัวลงพื้น ป่วยจนไอเป็นเลือด ออกมารักษาตัวและไม่ได้กลับไปฝึกอีกเนื่องจากอาการทางจิต

ผู้โพสต์เรียกร้องให้การฝึกโหดจบลง เพราะฝึกเพื่อความแข็งแรง ไม่ใช่ฝึกให้กลายเป็นคนป่วย ขอมอบทรัพย์สินทุกอย่างให้มารดาเพียงผู้เดียว ร่างกายบริจาคให้เป็นอาจารย์ใหญ่ เรื่องนี้สังคมห่วงใยทั้งโซเชียลฯ พร้อมเรียกร้องให้ต้นสังกัดรับผิดชอบ

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า ตรวจสอบพบว่าสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ฝึกอบรมหลักสูตรกองร้อยน้ำหวาน ที่กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน แต่ยังไม่จบหลักสูตร จึงเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ ยังรับราชการตำรวจได้ แต่ไม่ใช่สายงานป้องกันปราบปราม สามารถกลับมาบรรจุในสายงานอำนวยการและสนับสนุนได้ อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยเจ้าตัวได้สัญญาแล้วจะมารายงานตัว โดยจะให้บรรจุในสายงานอำนวยการและสนับสนุน


อันดับ 7 : พ้นเคราะห์ถูกกระทำ 17 ปีคดีชุมนุมสนามบิน ยกฟ้อง 69 แกนนำ-แนวร่วมพันธมิตรฯ ขับไล่สมชาย

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องอดีตแกนนำและแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คดีชุมนุมที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ชุดที่ 2 มีจำเลยรวม 69 คน ฐานร่วมกันชุมนุมปลุกปั่นยุยงก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ โดยศาลเห็นว่า จำเลยเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมมาจากหลายอาชีพ ทั้งศิลปิน นักร้อง ดารา สื่อมวลชน อดีตเอกอัครราชทูต มาชุมนุมเพื่อคัดค้านการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร มีการทุจริตเชิงนโยบาย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณหลายคดี

โดยระบุว่า เป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่เป็นความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ฐานชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ ไม่ผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขัง และข่มขืนใจผู้อื่น จึงมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมดทุกข้อหา

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า คำพิพากษาที่ออกมามีหลายประเด็น แต่เป็นการเยียวยาความรู้สึกในฐานะผู้ที่ถูกกระทำมา 17 ปี ถูกกล่าวหาด้วยโทษที่รุนแรง โทษถึงขั้นประหารชีวิต หรือการก่อการร้าย ทั้งที่เป็นแค่พิธีกร ประชาชน ศิลปิน แต่คนที่อ้างเรื่องสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค ไม่เคยออกมาเรียกร้องหรือเห็นใจ คำพิพากษานี้ให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้และเคารพกระบวนการยุติธรรม ทำให้จำเลยจำนวนมากที่มาฟังคำพิพากษาน้ำตาซึม และน้ำตาไหลออกมา เพราะพวกเขาเหล่านั้นได้รับความเป็นธรรมจากการพิสูจน์ตัวเองมายาวนาน 17 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น